Skip to main content
sharethis


ประชาไท—15 พ.ย.48      น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้แก้ไขกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีประเมินความพร้อมในการจัดการศึกษาพื้นฐานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการถ่ายโอนการศึกษาเป็นไปโดยสมัครใจของทุกฝ่าย โดยเปลี่ยนจากการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นยื่นเรื่องรับโอนสถานศึกษาใน 180 วัน เป็น 120 วันก่อนเริ่มปีการศึกษา 2549 และระบุสถานศึกษาที่ขอรับโอนให้ชัดเจน

 


ทั้งนี้ จะมีการนำกฎกระทรวงนี้เข้าสู่การพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาต่อไป โดยที่ประชุม ครม. ได้เห็นชอบให้นำข้อสรุปของคณะกรรมการส่วนที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหารือกับองค์กรครูไปประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาด้วย ก่อนนำเข้าที่ประชุม ครม.อีกครั้งหนึ่ง


 


อนึ่ง วานนี้ (14 พ.ย.) แกนนำเครือข่ายองค์กรครูผู้คัดค้านได้หารือร่วมกับคณะทำงานเรื่องการถ่ายโอนสถานศึกษาไปยัง อปท.ของพรรคไทยรักไทย (ทรท.) มีข้อสรุปว่า จะมีการแก้ไขกฎหมายกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้ อปท.ในมาตราที่ระบุถึงการถ่ายโอนการศึกษา และให้ตั้งตัวแทน 2 ฝ่าย คือ พรรคไทยรักไทย และเครือข่าย ฝ่ายละ 9 คน เพื่อร่วมกันพิจารณาแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวกับการถ่ายโอนการศึกษาให้เกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งองค์กรครู และ อปท. โดยคำนึงถึงคุณภาพการศึกษา


 


อย่างไรก็ตาม มติ ครม.ไม่ได้ระบุถึงการแก้ไขกฎหมายตามที่องค์กรครูเรียกร้องแต่อย่างใด ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาลว่า กว่า พ.ร.บ.จะแก้เสร็จต้องใช้เวลา และยังไม่ทราบว่าจะแก้เรื่องอะไร จึงต้องให้มีการนำกฎกระทรวงเก่ามาแก้เสีย เพื่อให้มีกฎกระทรวงใหม่ที่มีความคล่องตัว ส่วนเรื่องการจัดสรรงบประมาณ 35% ในปี 2549 นั้นยังไม่มีการพูดในที่ประชุม ครม.

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net