ประชาไท-2 มิ.ย. 48 วันนี้ที่รัฐสภา นายสุรสิทธิ์ ฉัตรชัยเดช ประธานคณะอนุกรรมาธิการเทคโนโลยีสารสนเทศ ในคณะกรรมาธิการการวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และกาพลังงาน วุฒิสภา ยังไม่สามารถสรุปข้อผิดพลาดของบัตรสมาร์ทการ์ดว่าเกิดจากสาเหตุใด ทั้งนี้เป็นเพราะผู้เข้าชี้แจงนั้นมีแต่ตัวแทนของกระทรวงมหาดไทย ส่วนกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ได้ส่งหนังสือขอเลื่อนการประชุมมาแทน
นายสุรสิทธิ์ กล่าวว่า เนื่องจากวันนี้มีแค่ตัวแทนของกระทรวงมหาดไทยเข้าชี้แจงว่า ยังไม่สามารถสรุปและมองเห็นปัญหาอย่างชัดเจนได้ คงต้องเชิญกระทรวงไอซีที และศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) เข้ามาชี้แจงข้อมูลอย่างครอบคลุม เพื่อนำใช้ในการพิจารณาและรายงานคณะกรรมาธิการใหญ่ต่อไป
นายสุรสิทธิ์กล่าวต่อว่า จากคำชี้แจงของตัวแทนจากกระทรวงมหาดไทย ทำให้ในขณะนี้คณะอนุฯ รู้แต่เพียงว่า ทางกระทรวงมหาดไทยมีการเตรียมข้อมูลทุกอย่างไว้พร้อมหมดแล้ว ในการที่จะทำบัตรประชาชนแบบสมาทการ์ด ให้เป็นมัลติแอพลิเคชั่น ที่จะสามารถใช้ได้หลากหลากหลายวัตถุประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นบัตร 30 บาท ทะเบียนบ้าน บัตรประจำตัวผู้เสียภาษี ฯลฯ โดยทั้งหมดบรรจุอยู่ในคอมพิวเตอร์ เหลือแต่เพียงรอตัวบัตรจากไอซีที
"ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นจนทำให้สมาร์ทการ์ดยังไม่สามารถใช้งานจริงตามกำหนดนั้น ตัวแทนจากกระทรวงมหาดไทยชี้แจงมาว่า เนื่องจากระบบของชิปในบัตรสมาร์ทการ์ดที่ทางทีโออาร์รับจากไอซีทีไปทำนั้น ไม่ตรงกับระบบของกระทรวงมหาดไทย ทำให้เครื่องไม่สามารถอ่านได้" ประธานอนุกมธฯ กล่าว
ส.ว.พิจิตร กล่าวว่า ข้อพิพาทในเรื่องของระบบการทำงานของบัตรสมาร์ทการ์ด ระหว่างกระทรวงไอซีทีที่รับผิดชอบตัวบัตร และกระทรวงมหาดไทยซึ่งรับผิดชอบในเรื่องของเครื่องอ่าน ปัจจุบันได้มีศูนย์ เนคเทค เข้ามาตรวจสอบ และตัวแทนจากกระทรวงมหาดไทยอ้างว่า ทางเนคเทคได้เข้าไปตรวจสอบระบบซอฟท์แวร์ ซีเอ็มเอส (card management system) ที่ใช้อ่านบัตรสมาร์ทการ์ดแล้วไม่พบว่ามีความผิดปกติแต่อย่างใด
ในขณะเดียวกัน ทางเนคเทคได้เข้าไปตรวจระบบการทำงานของบัตรสมาร์ทการ์ดที่ทางไอซีทีรับไปทำเช่นกัน แต่ไม่ได้รายงานข้อมูลให้ทราบอย่างชัดเจน ทราบแต่เพียงการรายงานข่าวทางหนังสือพิมพ์ว่า ระบบดังกล่าวผิดสเป็ก ไม่สามารถเข้ากับระบบที่ได้กำหนดไว้
"ที่กระบวนการทำบัตรสมาร์ทการ์ดล่าช้าก็เพราะกฎหมายข้อมูลส่วนบุคคลยังไม่ขับเคลื่อน ความจริงมันต้องชัดเจนตั้งแต่กฎหมายว่า ข้อมูลอะไรใส่ได้ใส่ไม่ได้ ใส่ทำอะไรไม่ใช่แต่ว่าคิดจะทำเพียงอย่างเดียวเท่านั้น" นายรุ่งเรือง ลิ้มชูปฏิภาณ์ อนุกรรมาธิการฯ กล่าว
ในขณะที่นายวิโรจน์ บุญโกสุมภ์ อนุกรรมาธิการฯ กล่าวแสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นความผิดพลาดของการ์ดรีดเดอร์กับตัวบัตร เพราะว่าการสั่งซื้อครั้งนี้แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ตัวบัตร 12 ล้านใบ กับการ์ดรีดเดอร์ 36,000 ชุด แยกซื้อกันคนละส่วน และเมื่อเอาใส่รวมกันกันก็เกิดปัญหาเพราะมันคนละส่วนกัน เพราะบัตรก็บริษัทหนึ่ง การ์ดรีดเดอร์ก็อีกบริษัทหนึ่ง ทั้งที่จริงไม่น่าจะซื้อแยกกัน
สิรินภา อิ่มศิริ
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)