Skip to main content
sharethis

ความล้มเหลวของการจัดการที่ดินของรัฐ ในพื้นที่ จ.ลำพูน คือ เงื่อนไขสำคัญของการก่อเกิด" เครือข่ายปฏิรูปที่ดิน" โดยเริ่มต้นจากโครงการจัดการที่ดินผืนใหญ่บ้านโฮ่ง-ป่าซาง ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการจัดการที่ดินแห่งชาติ เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2509 ที่ให้กรมที่ดินและจังหวัดลำพูน ดำเนินการจัดที่ดินผืนใหญ่ เนื้อที่ประมาณ 15,000 ไร่ เพื่อจัดสรรให้ราษฎรซึ่งไม่มีที่ดิน
หรือมีที่ดินไม่พอ

กรมที่ดิน ได้ใช้เวลาดำเนินการรวม 3 ปี เพื่อจัดสรรที่ดินให้ราษฎร ประมาณ 1,000 ครอบครัว มีเนื้อที่ประมาณ 10,000 ไร่ แต่การจัดการที่ดินดังกล่าว ก็ประสบความล้มเหลวในด้านต่างๆ ดังนี้

ประการแรก มีความล้มเหลวในเชิงเป้าหมาย ซึ่งระบุว่า ต้องจัดสรรที่ดินให้ราษฎรที่ยากจน ซึ่งไม่มีที่ดิน หรือมีที่ดินไม่พอประกอบอาชีพ แต่สุดท้าย ที่ดินเกือบทั้งหมด ถูกนำไปออกโฉนดให้แก่นายทุนนอกพื้นที่ และมีการขายเปลี่ยนมือ มีการปั่นราคา จำนองธนาคาร และสุดท้ายได้กลายเป็นหนี้เน่าเกือบทั้งสิ้น

ประการที่สอง มีความล้มเหลวในเชิงกลไกการจัดการที่ดิน การตรวจสอบพบว่า ในขั้นตอนการออกใบจองให้แก่ราษฎร เจ้าหน้าที่รัฐได้มีการทุจริตคอรัปชั่น เพื่อช่วยเหลือให้นายทุนได้กรรมสิทธิ์ในที่ดิน แต่รัฐก็ไม่สามารถเอาผิดกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องได้ อย่างที่ปรากฎชัดว่า ภายหลังมีการสอบสวน จ.ลำพูน ได้มีหนังสือชี้แจงในปี พ.ศ.2534 ว่า

"…จังหวัดเห็นว่า การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ ทั้งเจ้าหน้าที่ผู้ทำการสำรวจ จังหวัดและเจ้าพนักงานที่ดิน ผู้ลงนามในโฉนดที่ดินไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง กลับดำเนินการไปด้วยความจงใจที่จะฝ่าฝืนมติกรมที่ดิน…ควรดำเนินการเพิกถอนโฉนดที่ดินทั้งหมด…การสอบสวนปรากฏว่า ข้อเท็จจริง ยังคลาดเคลื่อน กล่าวคือ เจ้าหน้าที่จงใจที่จะช่วยเหลือนายทุน ผู้นำรังวัดที่ดินให้ถ้อยคำว่า ได้ครอบครองต่อเนื่องประมาณ 40 ปีเศษ เป็นความเท็จ"

ประการสุดท้าย มีความล้มเหลวในเชิงการจัดการความขัดแย้ง
เมื่อมีการร้องเรียนถึงความไม่เป็นธรรมในการจัดการทีดิน และขอให้รัฐแก้ไขปัญหา นอกจากกระบวนการแก้ไขปัญหาจะไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควรแล้ว ยังปรากฏว่า ความขัดแย้งต่างๆ มักจบลงด้วยการละเมิดสิทธิและการใช้ความรุนแรงเข้าปราบปรามชาวบ้านอยู่เสมอ

ในกรณีการต่อสู้เพื่อที่ดินในภาคเหนือ นับตั้งแต่ปี พ.ศ.2536 จนถึงปัจจุบัน มีชาวบ้านกว่า 3,000 ครอบครัว ถูกดำเนินคดีกว่า 1,000 คดี ซึ่งชาวบ้านได้ตกเป็นจำเลยอยู่ในชั้นศาล 109 ราย

ในขณะที่รัฐส่วนกลางยังคงเพิกเฉยต่อการแก้ไขปัญหาการออกเอกสารสิทธิมิชอบโดยนายทุน อีกทั้งยังเปิดช่องให้ข้าราชการและนายทุนท้องถิ่นเข้าทำลายกระบวนการปฏิรูปโดยชุมชนอยู่ตลอดเวลา

สุริยันต์ ทองหนูเอียด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net