ประชาไท - 19 เม.ย. 48 นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมของคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ครม.ได้อนุมัติการจำหน่ายหนี้สูญให้แก่สมาคมชลประ ทานราษฎร์และเกษตรกร ตามโครงการส่งเสริมหรือสงเคราะห์ของรัฐ จำนวน 5 โครงการ รวมแล้วเป็นเงิน 73,078,790.75 บาท

นายเฉลิมชัย กล่าวว่า โครงการจำหน่ายหนี้สูญให้แก่ภาคเกษตรกรทั้งหมดนี้ เป็นไปตามมติของคณะกรรมการบริหารสินเชื่อเกษตรกรแห่งชาติ(กบส.) โดยมีกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้เสนอ และเป็นดำเนินงานแบบต่อเนื่องเพื่อสนองนโยบายของรัฐบาลในอดีตที่สิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการไปแล้วกว่า 32 ปี

"ที่มีการยกเลิกการเรียกเก็บหนี้คืนก็เพราะรัฐเห็นว่า การกระทำดังกล่าวเป็นไปด้วยความยาก ลำบาก เพราะเกษตรกรบางส่วนก็ถึงแก่กรรม หรือมีการโยกย้ายไปจากถิ่นฐานเดิม ส่วนที่เหลืออยู่ก็มีฐานะยากจนไม่สามารถยึดทรัพย์สินคืนได้ จึงคิดว่าไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายที่รัฐต้องเสียไปกับการฟ้องดำเนินคดี อีกทั้งยังอาจจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อสังคมในแง่ของความเป็นอยู่ของเกษตรกร" รองโฆษกฯ กล่าว

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า รายละเอียดของโครงการส่งเสริมหรือสงเคราะห์ของรัฐ จำนวน 5 โครงการที่กบส.พิจารณานั้น มีการสรุปหนี้สินที่ต้องจำหน่ายหนี้สูญดังนี้ สำหรับโครงการชาวนาเดิม ได้เริ่มและยุติการดำเนินการตั้งแต่ปี 2509-2515 โดยสมาคมชลประทานราษฎร์เป็นหนี้ 49 สมาคม เกษตรกรเป็นหนี้ 1,127 ราย หนึ้เงินกู้จำนวน 64,079,952.07 บาท

โครงการส่งเสริมการทำนาปีละ 2 ครั้ง และการส่งเสริมการปลูกข้าวสาลี ได้เริ่มและยุติการดำเนิน
การตั้งแต่ 2509-2515 โดยสมาคมชลประทานราษฎร์เป็นหนี้ 25 สมาคม เกษตรกรเป็นหนี้ 79 ราย หนี้เงินกู้จำนวน 8,119,680.44 บาท

โครงการเร่งรัดการเพิ่มผลผลิตพืชเศรษฐกิจและการเลี้ยงสัตว์ ได้เริ่มและยุติการดำเนินการตั้งแต่ปี 2516-2517 โดยสมาคมชลประทานราษฎร์เป็นหนี้ 7 สมาคม เกษตรกรเป็นหนี้ 5 ราย หนี้เงินกู้จำนวน 212,681.50 บาท โครงการส่งเสริมการทำนาครั้งที่ 2 ได้เริ่มและยุติการดำเนินการในปี 2516 โดยสมาคมชลประทานราษฎร์เป็นหนี้ 1 สมาคม เกษตรกรเป็นหนี้ 5 ราย หนี้เงินกู้จำนวน 626,476.74 บาท

โครงการช่วยเหลือค่าซ่อมเครื่องทุ่นแรงของสมาคมชลประทานราษฎร์ที่ชำรุดเสียหาย ได้เริ่มและยุติการดำเนินการตั้งแต่ปี 2513-2517 โดยสมาคมชลประทานราษฎร์เป็นหนี้ 1 สมาคม มีหนี้เงินกู้จำนวน 40,000.00 บาท.

ศิรินภา อิ่มศิริ