ประชาไท—28 ต.ค. 2549 ตัวแทนรัฐบาลศรีลังกาและกองกำลังทมิฬอีแลม เตรียมเจรจาสันติภาพหลังเดินทางถึงกรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เมื่อ วันที่ 27 ต.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่ทางกองกำลังทมิฬอีแลมได้ออกกฎหมายห้ามใช้แรงงานเด็ก และห้ามเกณฑ์เยาวชนต่ำกว่า 17 ออกไปรบ

โดยกองกำลังทมิฬอีแลมซึ่งครอบครองพื้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือศรีลังกา และพยายามที่จะแบ่งแยกดินแดน ได้ออกกฎหมายเพื่อคุ้มครองเด็กโดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งกฎหมายฉบับดังกล่าวบัญญัติห้ามเกณฑ์เด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 17 ปี เข้าสังกัดกองกำลังติดอาวุธ และไม่อนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จับอาวุธเข้าร่วมการรบ อย่างไรก็ตามกฎหมายไม่ได้กำหนดบทลงโทษในกรณีที่มีการฝ่าฝืนเอาไว้

นอกจากนี้ ยังบัญญัติห้ามใช้แรงงานเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปี โดยกำหนดบทลงโทษจำคุก 2 ปีอย่างไรก็ตาม รายงานไม่ได้ระบุโทษการเกณฑ์เด็กเข้าสู่กองกำลัง แต่ระบุว่าการใช้แรงงานเด็กผิดกฎหมายมีบทลงโทษจำคุก 2 ปี

ก่อนหน้านี้ กองกำลังทมิฬอีแลมถูกองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนและองค์การยูนิเซฟกล่าวหาว่าให้แรงงานเด็กในการสู้รบ

สำหรับความคืบหน้าของการเจรจาสันติภาพระหว่างกองกำลังทมิฬอีแลมกับรัฐบาลกลางศรีลังกา จะมีการเจรจาสันติภาพกันเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือน หลังจากที่ถูกกดดันจากนานาชาติให้ทั้งสองฝ่ายยุติการนองเลือดและเจรจาหยุดยิง

การเจรจาสันติภาพจะดำเนินไปภายในระยะเวลา 2 วัน เริ่มจากวันนี้ (28 ต.ค.) โดยคณะผู้แทนของกบฏอีแลม นำโดยนายเอส.พี.ทมิฬเซลแวม ผู้นำปีกการเมือง จะเปิดเจรจากับตัวแทนฝ่ายรัฐบาลศรีลังกาซึ่งนำโดยนายนิมาล สิริปาลา เดอ ซิลวา

คณะทูตจากญี่ปุ่น ผู้สนับสนุนทางการ เงินหลักของศรีลังกากล่าวว่า รัฐบาลโตเกียวได้ส่ง สัญญาณถึงกบฏอีแลม ด้วยการเตือนว่า อีแลมอาจถูกแบนในญี่ปุ่น เหมือนกับที่เคยถูกห้ามในสหภาพยุโรปและสหรัฐ จนกว่าพวกเขาเข้าสู่การเจรจา ขณะที่ รัฐบาลศรีลังกา ยังต้องการความช่วยเหลือจากต่างประเทศ ดังนั้น จึงไม่ต้องการขัดใจนานาชาติที่อยากเห็นสันติภาพบังเกิดขึ้น