อัยการปัตตานีเลื่อนฟังคำสั่งฟ้อง 'สื่ออิสระ-แม่ผู้ถูกวิสามัญฯ' ข้อหาแย่งศพ เหตุสำนวนยังไม่เรียบร้อย นัดใหม่ 26 มี.ค.นี้ 'สื่ออิสระ' ยันวันและเวลาเกิดเหตุไปละหมาดและไม่ได้แต่งกายตามที่ตำรวจระบุไว้ว่าเป็นผู้ขัดขวางการทำงาน

5 มี.ค.2567 จากกรณีเมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา ตำรวจปัตตานีส่งตัว อัสมาดี บือเฮง ชาว อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี นักเขียน สื่ออิสระ และมารดาของฮัยชัม สมาแฮ ผู้ถูกวิสามัญฆาตกรรม ให้อัยการจังหวัดปัตตานีพิจารณาในข้อหาแย่งศพ โดยอัยการนัดหมายฟังคำสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องนั้น

ล่าสุดวันนี้ (5 มี.ค.) อัสมาดี แจ้งว่า อัยการเลื่อนเนื่องจากสำนวนยังไม่เรียบร้อย

นอกจากนี้ อัสมาดี ยังเล่าถึงความยากลำบากของการต่อสู้คดีโดยเฉพาะในวันนี้ด้วยว่า มารดาของฮัยชัม ที่ถูกฟ้องในคดีเดียวกันตื่นตั้งแต่ตีสาม เป็นช่วงที่กินไม่ได้นอนไม่หลับ เลยถือโอกาสบวชศีลอด วันนี้เธอขอเป็นขับเองเพราะเกรงว่าจะมาไม่ทันเวลานัดหมาย ปกติลูกสาวจะเป็นคนขับรถมอเตอร์ไซค์ให้ เธอบอกเด็กรุ่นใหม่ขับรถช้า ขณะที่ตนขับมอเตอร์ไซค์จากบ้านโคกนิบงเย็นเมื่อวาน (4 มี.ค.) ประมาณ 75 กิโลเมตร จะได้ไม่เหนื่อยนัก

อัสมาดี เล่าต่อว่า จากนั้น 9.00 น. วันนี้ (5 มี.ค.) พวกตนเดินขึ้นไปชั้น 2 สำนักอัยการจังหวัดปัตตานี ยื่นใบนัดตามช่องที่ระบุไว้ สักครู่เสียงเจ้าหน้าที่แจ้งว่าอัยการขอเลื่อนนัดไปก่อนเป็นวันที่ 26 มี.ค. เดือนรอมฎอน ตนขอตัวกลับก่อนจึงไม่มีเวลาคุยกับมารดาของฮัยชัม ต้องพาลูกไปอนามัย

"ครั้งต่อๆ ไป น่าจะใช้โทรศัพท์หรือไลน์ ให้เป็นประโยชน์มากกว่าการสวัสดีวันอังคาร" อัสมาดี กล่าว

สำหรับ อัสมาดี เป็นนักข่าวพลเมืองและอิสระที่มีงานเขียนทั้งประเด็นสิทธิมนุษยชน โครงการพัฒนา การเมืองและวัฒนธรรมจากพื้นที่ชายแดนใต้หรือปาตานีให้กับประชาไทเป็นระยะ

คดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่า อัสมาดีและมารดาของอัยซัม (ผู้ถูกวิสามัญฆาตกรรม) ขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่จากกรณีการนำศพอัยซัมออกจากโรงพยาบาล โดยเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ดำเนินการพิสูจน์บุคคล เหตุเกิดขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารได้นำศพฮัยชัม ผู้ต้องหาคดีความมั่นคงที่ถูกเจ้าหน้าที่ทหารได้ทำการวิสามัญฆาตกรรม เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2566 มาที่โรงพยาบาลปัตตานีเพื่อพิมพ์มือศพฮัยซัมประกอบสำนวนการสอบสวนในคดี

โดย อัสมาดีได้ปฏิเสธว่าในวันและเวลานั้นตนเองไปละหมาดและไม่ได้แต่งกายตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุไว้ว่าเป็นผู้ขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่

21 ก.พ. ที่ผ่านมา หรือ 1 วันหลังจากตำรวจส่งฟ้อง กลุ่มด้วยใจตั้งข้อสังเกตว่า คดีนี้เป็นคดีแรกที่มีการนำเรื่องไปถึงชั้นอัยการ และยังมีอีก 2 คดีที่กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการของตำรวจ ได้แก่ คดีที่ธารโตและศรีสาคร นอกจากนี้ยังมีกรณีการฟ้องปิดปาก หรือ “SLAPPs”  อาร์ฟาน วัฒนะ ในข้อหาขุดศพที่อัยการเลื่อนนัดมาเป็นครั้งที่ 4 แล้ว ทำให้ อาร์ฟานต้องขี่มอเตอร์ไซด์เดินทางจากสุไหงปาดีไปที่ยังตัวจังหวัดปาตานีกว่า 4 ครั้ง