Skip to main content
sharethis

เผย 'สุทิน คลังแสง' รมว.กลาโหม สั่งนำ 'มวยไทย' และ 'อีสปอร์ต' บรรจุเข้าในการแข่งขัน 'กีฬากองทัพไทย' ปีนี้ ก่อนดันสู่สังเวียนโลก เพื่อส่งเสริมนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ของรัฐบาล

20 ม.ค. 2567 ทีมสื่อพรรคเพื่อไทยแจ้งข่าวว่าจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงกลาโหมฝ่ายการเมือง เปิดเผยว่า สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มอบนโยบายติดตามการพัฒนาการกีฬาของกองทัพไทย เพื่อนำไปสู่การเป็นตัวแทนชาติไทยในเวทีระดับโลก เพราะนอกจากจะฝึก "นักรบ" แล้วยังต้องจำเป็นต้องฝึก "นักกีฬา" ให้ไปต่อสู้ในเวทีระดับโลกได้ด้วย โดยเฉพาะกีฬาสมัยใหม่อย่าง "อีสปอร์ต" ซึ่งระดับโลกให้การรับรองแล้วและปัจจุบันได้รับความนิยมจากเยาวชนคนรุ่นใหม่และกำลังพลภายในกองทัพ

ทั้งนี้ได้เชิญผู้แทนจากกองบัญชาการกองทัพไทยเข้ารับนโยบาย เพื่อนำไปปฏิบัติทันที ในการบรรจุกีฬา "อีสปอร์ต" เข้าสู่การแข่งขันในกีฬาของกองทัพไทย และจะต้องพัฒนาไปถึงการแข่งขันระดับโลกเพราะในต่างประเทศให้ความสนใจกีฬาโลกยุคใหม่นี้มาก โดย พล.ต.กฤตพันธุ์ รักใคร่ ผู้อำนวยการสำนักสวัสดิการทหารกองบัญชาการกองทัพไทย ได้รับนโยบายและยืนยันว่าสามารถปฏิบัติได้ทันทีตามนโยบายของรัฐมนตรี และมอบหมายให้ทุกเหล่าทัพไปเร่งคัดตัวนักกีฬาที่มีความสามารถเพื่อเข้าสู่การแข่งขันในงานกีฬากองทัพไทยในปีนี้ ที่มีนักกีฬาจากสำนักปลัดกระทรวงกลาโหม, กองบัญชาการกองทัพไทย, กองทัพบก, กองทัพเรือ,กองทัพอากาศ และ กองบัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงแข่งขันมากกว่า 1,000 คนในช่วงเดือน มิ.ย. 2567

"ที่ผ่านมากีฬากองทัพไทยมีเพียง 7 ชนิด คือ ฟุตบอล, ฟุตซอล, แบดมินตัน, เซปักตะกร้อ, กระโดดร่ม, กอล์ฟ ,เปตอง โดยปีนี้คณะกรรมการจัดการแข่งขันรับนโยบายแล้วก็จะบรรจุกีฬา อีสปอร์ต เข้าไว้ในการแข่งขันเป็นชนิดกีฬาที่ 8 ซึ่งปัจจุบันมีการส่งเสริมให้แข่งขันกันในระดับโอลิมปิกและการแข่งขันระดับนานาชาติ และทุกเหล่าทัพของไทยมีการเตรียมนักกีฬาอีสปอร์ตแล้ว โดยได้ส่งไปแข่งขันในทัวร์นาเมนต์ต่างๆ และประสบความสำเร็จอย่างมาก แต่ในปีนี้จะเป็นปีแรกที่จะบรรจุเข้าไว้ในกีฬากองทัพไทยเพื่อส่งเสริมนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ของรัฐบาลโดยมีเป้าหมาย นำนักกีฬาไทยและธงชาติไทยสู่เวทีระดับโลก"

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net