Skip to main content
sharethis

'บุ้ง เนติพร' ชี้แจงกรณีเหตุการณ์ที่ถูกตำรวจศาลอาญากรุงเทพใต้ใช้กระบองดิ้วตีที่ข้อศอก จนเลือดไหลเป็นทาง และถูกสกัดไม่ให้ไป รพ. หลังขอพบ ผอ.ศาล ร้องเรียนเรื่องการใช้กำลังเกินกว่าเหตุ ศาลแจงทำไปเพื่อระงับเหตุ และป้องกันตัว 

 

19 ต.ค. 2566 เว็บไซต์ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานวันนี้ (19 ต.ค.) เวลาประมาณ 11.30 น. ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้รับแจ้งว่า  "บุ้ง" เนติพร (สงวนนามสกุล) นักกิจกรรมกลุ่มทะลุวัง ถูกตำรวจศาลทำร้ายร่างกาย โดยใช้ดิ้วเหล็กตีเข้าที่บริเวณข้อศอกจนเกิดอาการบาดเจ็บ จากกรณีที่ 'หยก' ธนภลย์ ผลัญชัย ผู้ถูกกล่าวหามาตรา 112 วัย 15 ปี พยายามเข้าไปพูดคุยกับ 'โฟล์ค' สหรัฐ สุขคำหล้า อดีตสามเณร ที่ถูกควบคุมตัวระหว่างรอฟังคำสั่งประกันตัวในชั้นอุทธรณ์ หลังศาลพิพากษาจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา ในคดีมาตรา 112 จากการปราศรัยพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ ในการชุมนุม 'บ๊ายบายไดโนเสาร์' ของกลุ่มนักเรียนเลว ที่สยามสแควร์ เมื่อ 21 พ.ย. 2563

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ก่อนหน้านี้ เวลา 09.00 น. บุ้ง และสมาชิกกลุ่มทะลุวัง พร้อมกับหยก นักกิจกรรมเยาวชนวัย 15 ปี ได้เดินทางไปร่วมฟังคำพิพากษาด้วย ซึ่งภายหลังศาลมีคำพิพากษา โฟล์ค ได้ถูกนำตัวไปควบคุมอยู่ที่ห้องขังใต้ถุนศาล 

ในเวลาประมาณ 10.30 น. เนติพร และ ธนลภย์ ได้พยายามปีนรั้วที่บริเวณข้างห้องขังใต้ถุนศาล เพื่อพูดคุยสอบถามว่า สหรัฐ ต้องการรับประทานอาหารอะไรในระหว่างรอฟังคำสั่งประกันตัวหรือไม่ และสอบถามเรื่องรายชื่อที่เขาต้องการให้เข้าเยี่ยมในเรือนจำ ในกรณีที่เขาอาจไม่ได้รับการประกันตัว

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลา 11.18 น. ศูนย์ทนายฯ ได้รับรายงานจากเนติพร ว่ามีตำรวจศาลและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) รวม 2 นาย ได้เดินเข้ามากันไม่ให้หยก ซึ่งปีนรั้วเข้าไปในบริเวณหน้าต่างห้องขังได้พูดคุยกับสหรัฐ โดยกล่าวว่าหากพวกเธอไม่หยุดการกระทำ เขาจะดำเนินการแจ้งละเมิดอำนาจศาล ในขณะที่บุ้งอยู่บริเวณรั้วได้พยายามเจรจาว่า พวกเธอแค่จะพูดคุยรายละเอียดเรื่องการเยี่ยมญาติหากสหรัฐ ไม่ได้ประกันตัวเท่านั้น และเมื่อได้ข้อมูลก็จะกลับกันแล้ว

ทั้งนี้ ตำรวจศาลยังคงไม่ยอมให้พวกเธอได้พูดคุยกับจำเลย และบอกให้พวกเธอออกมาจากบริเวณรั้วห้องขังใต้ถุนศาล ก่อนที่จะเข้าแตะตัวหยก ทำให้บุ้งต้องดึงตัวตำรวจศาลไว้ เพื่อให้ธนลภย์ สลัดตัวออกจากเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวได้ เนติพร บอกว่าในระหว่างนั้นเธอโดนสกัดจาก รปภ. โดยเขาทุบที่แขน และหลังเธอตลอดระยะเวลาที่เธอพยายามกันไม่ให้ตำรวจศาลเข้าจับตัวหยก 

ต่อมา เมื่อนักกิจกรรมทั้ง 2 ราย สลัดตัวออกจากเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 นายได้แล้ว พวกเธอได้พยายามเดินไปพูดคุยกับตำรวจศาลที่เข้ามาแตะตัวธนลภย์ เพื่อต้องการสอบถามว่าเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวมีชื่อว่าอะไร เพราะต้องการจะรู้ว่ามีอำนาจในการแจ้งละเมิดอำนาจศาลจริงอย่างที่ข่มขู่กันหรือไม่ 

เมื่อถามถึงเหตุการณ์ในคลิปวีดิโอในช่วงที่เนติพร เตะเข้าที่ต้นขาของตำรวจศาล เธอเปิดเผยว่า อันที่จริงมีเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่เจ้าหน้าที่เริ่มกระทำกับเธอก่อน โดยเขาได้ชกเข้าที่บริเวณหัวไหล่ของเธอ ทำให้เธอรู้สึกเจ็บและโมโห และเริ่มทะเลาะวิวาทกันบริเวณป้อมยามทางออกของศาลอาญากรุงเทพใต้ 

ซึ่งในระหว่างที่มีปากเสียงกัน และนักกิจกรรมจากกลุ่มทะลุวัง ยกเท้าเตะใส่ตำรวจศาลนั้น ตำรวจศาลก็ใช้ดิ้วเหล็กที่ถืออยู่ในมือตีเข้าที่บริเวณศอก จนทำให้เกิดแผลและมีเลือดไหลตลอดเวลา

บันทึกวิดีโอเหตุการณ์ขณะที่ตำรวจศาลใช้กระบองดิ้วดีโดย สิทธิพร ลีลานภาศักดิ์

ในเวลาต่อมา 11.50 น. เนติพร และกลุ่มทะลุวัง ได้เดินกลับเข้าไปในอาคารศาลอีกครั้ง เพื่อขอพบกับผู้อำนวยการสำนักอำนวยการประจำศาลอาญากรุงเทพใต้ และร้องเรียนกรณีการใช้กำลังเกินกว่าเหตุของตำรวจศาลคนดังกล่าว 

ทั้งนี้ นักกิจกรรมจากกลุ่มทะลุวัง เล่าว่า ในระหว่างที่รอพบ ผอ.สำนักอำนวยการฯ ตำรวจศาล และ รปภ. ก็มีการตรึงกำลังบริเวณหน้าทางเข้าออกอาคารศาลอาญากรุงเทพใต้ และมีเจ้าหน้าที่ศาลเดินเข้ามาพูดคุยกับเธอ โดยขอให้เธอขึ้นไปพบกับผู้พิพากษาที่รออยู่บนห้องพิจารณาคดีชั้น 4 เมื่อเนติพร ถามกลับว่า ผู้พิพากษาต้องการคุยกับเธอเรื่องอะไร และเป็นคดีจากเหตุอะไร แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ตอบ บอกเพียงว่าศาลต้องการไต่สวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ 

อย่างไรก็ตาม เนติพร เปิดเผยว่า เธอไม่ได้รอพบกับ ผอ. ตามที่ตั้งใจ เนื่องจากเลือดไหลจากแผลที่ถูกตีไม่หยุด และมีความรู้สึกเจ็บปวดที่บริเวณแขนมาก จึงตัดสินใจจะเดินทางไปโรงพยาบาล แต่ตำรวจ และ รปภ. ที่ตรึงกำลังบริเวณหน้าทางออก พยายามกันไม่ให้เธอ และเพื่อนๆ ออกจากอาคาร โดยยืนยันว่า เนติพร จะต้องขึ้นไปรายงานตัวต่อศาลก่อน

ประชาชนที่เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวได้พยายามช่วยเจรจากับเจ้าหน้าที่ศาล ตำรวจ ตลอดจน รปภ. ว่า ในเมื่อเหตุการณ์วันนี้ยังไม่เป็นคดี เนติพร ก็มีสิทธิที่จะไม่ขึ้นไปรายงานตัวกับศาล และขอให้ปล่อยตัวเธอและเพื่อนๆ ออกจากศาลไปโรงพยาบาล เพื่อรับการรักษาพยาบาลก่อน หากจะต้องเป็นคดีก็ขอให้ไปแจ้งความและดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายในภายหลัง 

แต่การเจรจาไม่เป็นผล ทำให้เนติพร และเพื่อน หาทางฝ่าแนวตำรวจศาลและ รปภ.ออกมา เนติพร เปิดเผยว่า ในระหว่างผลักดันกันตรงประตูทางออก เธอรู้สึกว่าถูกตำรวจศาลจับหน้าอก 

อย่างไรก็ตาม เวลาประมาณ 12.00 น. เหตุการณ์ดังกล่าวได้จบลง โดยที่เนติพร และเพื่อนๆ กลุ่มทะลุวังออกมาจากศาลได้ ซึ่งศูนย์ทนายฯ ได้รับรายงานจากนักกิจกรรมทะลุวัง ว่าแพทย์ต้องเย็บปิดแผลจากการถูกฟาดด้วยดิ้วถึง 4 เข็ม และตอนนี้เธอมีอาการเจ็บปวดที่บริเวณแผลตลอดเวลา ซึ่งเนติพร เปิดเผยต่อว่า เธอคงจะดำเนินการแจ้งความกับตำรวจศาลที่ทำร้ายร่างกายเธอในภายหลัง

ในเวลา 16.44 น. สื่อประชาสัมพันธ์ของศาลยุติธรรม "สื่อศาล" (pr_coj) ได้รายงานผ่านทวิตเตอร์กรณีเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นแล้ว มีใจความสำคัญระบุว่า เนื่องจากทางเนติพร และธนภลย์ มีการปีนรั้ว "ทำคอนเทนต์" และเมื่อตำรวจศาล และ รปภ.เข้าไปห้าม แต่กลุ่มที่มาด้วยพยายามผลักอก และเตะตำรวจศาล จึงใช้กระบองตามยุทธวิธี แต่กลุ่มดังกล่าวไม่หยุด ตำรวจศาล "จำเป็น" ต้องใช้กระบองตี "เพื่อระงับเหตุ และป้องกันตัว" เนื่องจากถูกกลุ่มที่มาด้วยกับเนติพร และธนลภย์ พยายามผลักอก และเตะตำรวจศาล

ศาลออกแถลงการณ์ชี้แจง

เวลา 18.29 น. ทวิตเตอร์ (ชื่อใหม่ "X") "สื่อศาล" (pr_coj) ได้ออกแถลงการณ์กรณีข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์บริเวณศาลอาญากรุงเทพใต้  มีรายละเอียดดังนี้

สำนักงานยุติธรรมขอเรียนชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในวันนี้ (19 ตุลาคม 2566) จากกรณีเหตุการณ์บริเวณศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งวันนี้มีการพิจารณาคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งศาลได้ดำเนินการเสร็จแล้ว จากนั้น มีเยาวชนหญิงได้ปีนรั้วเข้ามาในบริเวณศาลอาญากรุงเทพใต้ ทั้งที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ไม่ได้ปิดประตูหรือห้ามผู้มาติดต่อราชการเข้าแต่อย่างใด และขณะเวลาเกิดเหตุประชาชนก็ยังเข้ามาใช้บริการได้ตามปกติ

เมื่อเกิดเหตุเช่นนั้น เจ้าพนักงานตำรวจศาลซึ่งมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยให้กับประชาชน ที่มาติดต่อราชการในขณะนั้น เห็นเหตุการณ์และได้เข้าห้ามปราม เพื่อไม่ให้ปีนรั้วเข้ามา จึงถูกกลุ่มบุคคลหนึ่งที่มาพร้อมกับพวกรวม 4 คน กระชากคอเสื้อเจ้าพนักงานตำรวจศาล จากนั้น กลุ่มบุคคลดังกล่าวได้เดินเข้ามา และด่าทอเจ้าหน้าที่ขณะโทรศัพท์รายงานเหตุการณ์ และโทรแจ้งตำรวจท้องที่ให้เข้ามาควบคุมสถานการณ์ ต่อมาบุคคลที่ได้กระชากคอเสื้อเจ้าพนักงานตำรวจศาลก่อนหน้านั้นได้เดินเข้ามาผลักหน้าอกเจ้าพนักงานตำรวจศาล เจ้าพนักงานตำรวจศาลจึงเดินถอยออก และพูดห้ามปรามตามยุทธวิธีปฏิบัติหลายครั้ง แต่บุคคลดังกล่าวยังเดินเข้ามาเตะเจ้าพนักงานตำรวจศาล เจ้าพนักงานตำรวจศาลจึงใช้กระบองขู่ แต่ก็ไม่หยุด และยังเดินเข้าหาเจ้าพนักงานตำรวจศาล จึงใช้กระบองตีเพื่อระงับเหตุ และป้องกันตัว 

หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ได้เข้ามาควบคุมสถานการณ์ กลุ่มบุคคลทั้งหมดขอพบผู้บริหารศาล ต่อมาศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้รับแจ้งจากเจ้าพนักงานตำรวจท้องที่ ว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าวอ้างว่าจะไปทำแผล และเดินออกไปจากศาลทั้งหมด ซึ่งเจ้าพนักงานตำรวจท้องที่เห็นว่าเป็นสิทธิที่จะไปรักษาตัว จึงมิได้ห้ามปรามและขัดขวางแต่อย่างใด 

สำนักงานศาลยุติธรรมขอเรียนเพิ่มเติมว่า เจ้าพนักงานตำรวจศาลมีหน้าที่ตามกฎหมายที่ต้องรักษาความสงบเรียบร้อยในบริเวณศาล ตามหลักสากล เพื่อให้การดำเนินงานของศาลสามารถอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนทุกคนได้สมดังเจตนารมณ์ของกฎหมายอย่างแท้จริง การดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อไป จะเป็นไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดกล้องวงจรปิดในบริเวณศาลสามารถบันทึกไว้ได้ 

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net