สปสช. ลงพื้นพื้นที่ชม ‘การตรวจคัดกรองสายตาเชิงรุกผู้ต้องขัง’ เรือนจำกลางบางขวาง จ.นนทบุรี จำนวน 301 ราย ผ่านกลไกงบ กปท. ระบุ เป็นเรือนจำแรกเขตสุขภาพที่ 4 ที่มีการจัดบริการคัดกรอง-มอบแว่นแก้ไขปัญหาสายตาผู้ต้องขัง 

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) แจ้งข่าวว่าเมื่อช่วงปลายเดือน ก.ย. 2566 ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พร้อมด้วย นพ.สาธิต ทิมขำ ผู้อำนวยการเขต สปสช. เขต 4 สระบุรี และ น.ส.พิมพรรณ ธนเดชากุล รองนายกเทศมนตรีนครนนทบุรี ลงพื้นที่เยี่ยมชม “การตรวจคัดกรองสุขภาพเชิงรุกแก่ผู้ต้องขังในเรือนจำ” ณ เรือนจำกลางบางขวาง ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี โดยมี นายยุทธนา นาคเรืองศรี ผู้บัญชาการเรือนจำกลางบางขวาง พร้อมด้วย นางจารุวรรณ เศรษฐสนิท รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลเรือนจำกลางบางขวาง ฝ่ายบริหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ  

นายยุทธนา นาคเรืองศรี ผู้บัญชาการเรือนจำกลางบางขวาง เปิดเผยว่า เรือนจำกลางบางขวางเป็นเรือนจำที่มีความมั่นคงสูง ควบคุมผู้ต้องขังชายที่มีกำหนดโทษสูงตั้งแต่ 15 ปี ไปจนถึงตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต ส่งผลให้ผู้ต้องขังต้องชีวิตอยู่ในเรือนจำเป็นเวลานาน เมื่อมีอายุมากขึ้นก็ส่งผลให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพ โดยเฉพาะเรื่องสายตาที่อาจจะทำให้มีภาวะแทรกซ้อนตามมาได้  

ทั้งนี้ จึงนำมาสู่การดำเนินโครงการตรวจคัดกรองสุขภาพเชิงรุกแก่ผู้ต้องขังในเรือนจำ ในปี 2566  โดยได้งบประมาณสนับสนุนจากกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ (กปท.) จากเทศบาลนครนนทบุรี เพื่อให้ผู้ต้องขังในเรือนจำสามารถเข้าถึงบริการได้อย่างเสมอภาค และรับการแก้ไขปัญหาด้านสายตาได้อย่างเท่าเทียม  

นางจารุวรรณ เศรษฐสนิท รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลเรือนจำกลางบางขวาง ฝ่ายบริหาร กล่าวว่า เรือนจำกลางบางขวางจะมีจักษุแพทย์จากโครงการราชทัณฑ์ปันสุขเข้ามาให้บริการในการตรวจคัดกรองสายตาผู้ต้องขังอยู่แล้วปีละ 2 ครั้ง รวมถึงมีการจ้างจักษุแพทย์พิเศษจากโรงพยาบาลรามาธิบดีเข้ามาตรวจคัดกรองเพิ่มเติมอีกเดือนละ 2 ครั้ง เพื่อให้ผู้ต้องขังที่อาจจะตกหล่นบางส่วนได้รับการคัดกรองและแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพตาต่อไป  

ทั้งนี้ จากการตรวจคัดกรองในเบื้องต้นพบว่า ผู้ต้องขังในเรือนจำกลางบางขวางมีปัญหาทางสายตาจำนวน  301 คน แบ่งเป็นสายตายาว จำนวน 173 คน และสายตาสั้น 128 คน ซึ่งผู้ที่มีปัญหาสายตาทั้งหมดนั้น หลังจากตรวจวัดค่าสายตาแล้วก็จะได้รับแว่นสายตาทุกราย    

“จากการคัดกรองเบื้องต้นพบว่า ยังมีผู้ต้องขังบางส่วนที่มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพตา เช่น ต้อกระจก ต้อเนื้อ ต้อลม ฯลฯ หากพบว่ามีความซับซ้อนของโรคเกินกว่าที่ศักยภาพโรงพยาบาลฯ จะรับไหวก็จะมีการส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้าตามที่ได้ลงนามความร่วมมือเอาไว้ต่อไป” นางจารุวรรณ กล่าว 

น.ส.พิมพรรณ ธนเดชากุล รองนายกเทศมนตรีนครนนทบุรี กล่าวว่า สำหรับเทศบาลนครนนทบุรี ได้สนับสนุนงบประมาณจาก กปท. นครนนทบุรีที่ร่วมกับ สปสช. เป็นจำนวนเงิน 108,150 บาทในการสนับสนุนการคัดกรองสายตาและมอบแว่นตาให้แก่ผู้ต้องขังในเรือนจำกลางบางขวางเพื่อช่วยในการมองเห็น ตามหลักเกณฑ์การดำเนินงานกองทุน กปท. สอดคล้องกับการสร้างหลักประกันสุขภาพของคนในพื้นที่ และส่งเสริมกระบวนการการมีส่วนร่วมของคนในท้องถิ่น 

“จากการคัดกรองในเบื้องต้นทำให้เห็นว่า ภายในเรือนจำกลางบางขวางมีผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งในส่วนนี้ก็จะมีการสนับสนุนผ้าอ้อมผู้ใหญ่ โดยใช้งบประมาณจากกองทุน กปท. ต่อไป” น.ส.พิมพรรณ ระบุ  

ด้าน ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า ผู้ต้องขังในเรือนจำถือว่าเป็นกลุ่มเปราะบางในการเข้าถึงบริการสุขภาพ ซึ่งทางเรือนจำกลางบางขวางถือได้ว่าเป็นที่แรกในเขตสุขภาพที่4 ที่ได้มีการมีการคัดกรองผู้ที่มีปัญหาสุขภาพทางสายตา โดยทางเทศบาลนครนนทบุรีก็ได้เห็นความสำคัญอนุมัติงบประมาณจาก กปท. เข้ามาร่วมขับเคลื่อนกลไกนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ  

อย่างไรก็ดี สำหรับงบประมาณจาก กปท. เป็นการสบทบกันระหว่างเทศบาลฯ และ สปสช. เพื่อจัดบริการการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค (P&P) ตามปัญหาของแต่ละบริบทพื้นที่ ช่วยให้ประชาชนทุกกลุ่มและช่วงวัยของพื้นที่ได้เข้าถึงบริการสาธารณสุขที่จำเป็นอย่างทั่วถึง  

“วันนี้เราก็พบว่ามีผู้ต้องขังในเรือนจำที่มีปัญหาทางด้านสายตา 301 คน และยังเป็นที่แรกที่มีการมอบแว่นสายตาให้แก่ผู้ที่มีปัญหา ซึ่งในส่วนของงบจาก กปท. สามารถใช้ได้ทุกพื้นที่ ถือเป็นการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค โดยใช้ปัญหาจากพื้นที่เป็นตัวตั้ง” ทพ.อรรถพร ระบุ