Skip to main content
sharethis

กลุ่มสังเกตการณ์เพื่อคุ้มครองนักปกป้องสิทธิออกข้อเรียกร้องถึงรัฐบาลไทยให้ปล่อยตัว “ทนายอานนท์” และนักป้องสิทธิคนอื่นๆ รวมถึงนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยโดยทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข หลังเกิดการใช้มาตรา 112 และกระบวนการยุติธรรมเพื่อคุกคามสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก

27 ก.ย.2566 กลุ่มสังเกตการณ์เพื่อคุ้มครองนักปกป้องสิทธิมนุษยชน (The Observatory for the Protection of Human Rights Defenders) ได้เรียกร้องถึงรัฐบาลไทยให้ปล่อยตัวอานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน หลังจากเมื่อวานนี้อานนท์ถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุก 4 ปี ด้วยข้อหามาตรา 112 จากการปราศรัยเมื่อวันที่ 14 ต.ค.2563 และให้ปรับเงินอีก 20,000 บาทตามข้อหาฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยไม่รอลงอาญา และยังอยู่ระหว่างรอศาลอุทธรณ์พิจารณาว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่

ทั้งนี้กลุ่มสังเกตการณ์ฯ เป็นกลุ่มที่ตั้งขึ้นโดยความร่วมมือระหว่าง สหพันธ์สากลเพื่อสิทธิมนุษยชน (FIDH) และองค์กรต่อต้านการทรมานโลก (OMCT) เพื่อติดตามปกป้องผู้ที่ทำงานในการปกป้องสิทธิมนุษยชนที่ถูกคุกคามและละเมิดสิทธิมนุษยชน

กลุ่มสังเกตการณ์ฯ ได้ย้อนถึงสถานการณ์ที่อานนท์กำลังเผชิญในขณะนี้ว่าคดีที่ศาลเพิ่งตัดสินไปนั้นเป็นเพียงคดีแรกที่อานนท์ถูกฟ้องด้วยข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์จากทั้งหมด 14 คดี และเป็นคดีที่ทำให้เขาถูกคุมขังระหว่างการพิจารณาคดีและต้องยื่นประกันตัวถึง 7 ครั้งศาลถึงจะอนุญาตให้ประกัน และก่อนหน้านั้นเขาก็เคยถูกคุมขังระหว่างพิจารณาคดีในคดีมาตา 112 คดีอื่นนานถึง 113 วัน

ทั้งนี้สถานการณ์คดีมาตรา 112 ที่ผ่านมานับตั้งแต่วันที่ 24 พ.ย.2563 จนถึง 22 ก.ย.2566 มีประชาชนที่ถูกดำเนินคดีด้วยข้อหานี้แล้ว 257 คน ในจำนวนนี้เป็นเยาวชนถึง 17 คนและมีประชาชน 8 คนที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำทั้งที่คดียังไม่สิ้นสุด

“กลุ่มสังเกตการณ์ฯ ขอประณามอย่างรุนแรงทั้งต่อการลงโทษและการพิพากษาที่ตามมาด้วยการคุมขังอานนท์ นำภาโดยพลการ และการใช้กระบวนการยุติธรรมเพื่อคุกคามอานนท์ นำภาที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ ซึ่งดูเหมือนจะมีเพียงเป้าหมายเดียวคือการลงโทษอานนท์ที่ทำกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชนโดยชอบด้วยกฎหมายและยังเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมโดยสงบด้วย”

ทั้งนี้กลุ่มสังเกตการณ์ฯ ได้เรียกร้องต่อทางการไทยให้ปล่อยตัวอานนท์โดยทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไขรวมไปถึงนักปกป้องสิทธิคนอื่นๆ ที่กำลังถูกคุมขังโดยพลการในประเทศและจะต้องยุติการใช้กระบวนการยุติธรรมเพื่อคุกคามเพื่อคุกคามนักปกป้องสิทธิเหล่านี้ด้วย

นอกจากนั้นทางกลุ่มสังเกตการณ์ฯ ยังได้ขอความร่วมมือให้มีการส่งจดหมายพร้อมระบุข้อเรียกร้องไปถึงรัฐบาลไทยโดยมีข้อเรียกร้องดังนี้

  • รัฐบาลไทยต้องรับประกันด้านสวัสดิภาพร่างกายและจิตใจของอานนท์และนักป้องสิทธิมนุษยชนรวมถึงนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยในไทย
  • ปล่อยตัวพวกเขาทันทีโดยไม่มีเงื่อนไขจากการถูกคุมขังโดยพลการที่เสมือนว่ามีเป้าหมายเพื่อการลงโทษจากการที่พวกเขาทำกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชนที่ชอบด้วยกฎหมาย
  • ยุติทุกการกระทำที่เป็นการคุกคามรวมไปถึงการใช้กระบวนการทางกฎหมายต่ออานนท์และนักป้องสิทธิมนุษยชนรวมถึงนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยในไทย และรับรองว่าพวกเขาจะสามารถทำกิจกรรมได้โดยไม่ถูกขัดขวางหรือหวาดกลัวต่อการถูกตอบโต้
  • รับประกันว่าสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมโดยสงบจะได้รับการปกป้องตามกฎหมายสิทธิมนุษยชนสากลและโดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรา 19 และ 21 ของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR)
  • งดเว้นการใช้ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ต่อเป้าหมายที่เป็นนักปกป้องสิทธิและนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย

ทั้งนี้กลุ่มสังเกตการณ์ได้ระบุว่าให้มีการส่งข้อเรียกร้องดังกล่าวไปถึงบุคคลต่างๆ ในรัฐบาลทั้งเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี, ปานปรีย์ พหิทธานุกร รัฐมนตรีการกระทรวงการต่างประเทศ, ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม, พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด, ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, พรประไพ กาญจนรินทร์ ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ, สุพัตรา ศรีไมตรีพิทักษ์ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ และเสข วรรณเมธี เอกอัครราชทูต ณ กรุงบรัสเซลส์ และหัวหน้าคณะผู้แทนไทยประจำสหภาพยุโรป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net