Skip to main content
sharethis

'ชัยธวัช' ปัดตอบปมกระแสข่าวพลิกขั้วเป็นฝ่ายค้าน ระบุขอหารือที่ประชุมพรรคก่อน ไม่ขัดคาร์ม็อบจ่อบุกยื่นหนังสือเชื่อไม่สร้างแรงกดดัน ด้าน 'อนุสรณ์' ขอให้เชื่อมั่นพรรคเพื่อไทยจะตัดสินใจให้ดีที่สุด ยกผลสำรวจ 100 ซีอีโอ ระบุชัดประเทศไทยต้องไปต่อไม่ควรรอ 10 เดือน

1 ส.ค. 2566 สำนักข่าวไทย รายงานว่าชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกระแสข่าวที่พรรคก้าวไกลจะโหวตนายกรัฐมนตรีให้พรรคเพื่อไทย และเป็นฝ่ายค้าน ด้วยการสงวนท่าที ว่าคงต้องรอการหารือกับที่ประชุมพรรคก่อน ส่วนการหารือกับ ส.ส.พรรคก้าวไกล จะมีการนำเรื่อง 5 พรรคที่ไม่ร่วมกับพรรคก้าวไกล แล้วจะถอยไปเป็นฝ่ายค้านหรือไม่ ชัยธวัช ย้ำว่าคงต้องรอการประชุม ทั้งนี้ยังยอมรับด้วยว่า ไม่ได้เตรียมแผนรองรับ หากพรรคก้าวไกลมีมติให้ถอยเป็นฝ่ายค้าน และยังไม่ได้ฟังเสียงของคนในพรรค โดยหลังจากนี้จะต้องรอผลการประชุม 8 พรรคร่วมก่อน แล้วจะนำมติมาประชุมกับ ส.ส.พรรคก้าวไกลอีกครั้ง

ขณะที่การนัดประชุม 8 พรรคร่วมตั้งรัฐบาล ชัยธวัชระบุว่าได้สอบถามกับพรรคเพื่อไทยแล้ว ได้รับแจ้งกลับมาว่า จะมีการประชุมแต่ยังไม่ได้แจ้งเวลาชัดเจน เมื่อถามว่าการนัดประชุมกระชั้นชิดจะเป็นการมัดมือชกพรรคก้าวไกลหรือไม่ ชัยธวัช มองว่าเนื่องจากติดวันหยุดยาว คงต้องขอรอดูในการประชุม พร้อมย้ำว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน

ส่วนกรณีกรณีเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ที่เคยตอบคำถามถึงการแก้ไขมาตรา 112 ที่มีจุดยืน เหมือนพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล จึงถูกนำไปเปรียบเทียบและตอนนี้ ส.ว.หลายคน เริ่มบอกจะไม่โหวตให้ มองว่าจะเป็นเหตุการณ์ซ้ำหรือไม่ ชัยธวัช กล่าวว่า ส.ว.ก็มีหลายเหตุผลที่ยกมาเป็นข้ออ้าง แต่สุดท้ายแล้วหาก 8 พรรคจับมือกันแน่น การจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว คงไม่เกิดขึ้นง่าย ขณะเดียวกันยังมองการกล่าวหาด้วยการขุดอดีตของนายเศรษฐาขึ้นมาก็ถือว่า เป็นข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นธรรม เมื่อคนชนะเลือกตั้ง รวมเสียงข้างมากได้ ส.ว.ควรโหวตตามเสียงส่วนใหญ่

เมื่อถามว่าสุดท้ายหากจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ จะพลิกขั้วให้พรรคภูมิใจไทยมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแทนหรือไม่ นายชัยธวัช ยังสงวนท่าที พร้อมระบุว่า รอคุยดีกว่า ส่วนการโหวตนายกรัฐมนตรีจะเสร็จสิ้นภายในวันที่ 4 ส.ค. เลยหรือไม่นั้น คงต้องก็ต้องรอศาลรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อนัดประชุมกันแล้ว ควรดำเนินการประชุม และวันนั้นยังจะมีการเสนอแก้ไข ม.272 ปิดสวิตซ์ สว. ที่พรรคก้าวไกลยื่นเรื่องไว้ด้วย

ไม่ขัดคาร์ม็อบจ่อบุกยื่นหนังสือ เชื่อม็อบไม่ได้สร้างแรงกดดัน

มติชนออนไลน์ รายงานเพิ่มเติมว่าชัยธวัช ให้สัมภาษณ์กรณีจะมีกลุ่มผู้ชุมนุมคาร์ม็อบมายื่นหนังสือให้พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลว่ายังไม่ทราบเรื่อง แต่คงไม่เป็นไร ไม่ว่าประชาชนจะมายื่นเรื่องอะไรเราก็ต้อนรับทุกคนอยู่แล้ว จะเห็นว่าที่ผ่านมามีทั้งคนไม่เห็นด้วย คนคัดค้าน คนที่สนับสนุน หรือคนที่มีข้อเสนอแนะ เราก็ต้อนรับทุกคน

ผู้สื่อข่าวถามว่าการชุมนุมมีมาเรื่อยๆ จะเป็นการสร้างแรงกดดันทางการเมืองให้พรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลหรือไม่ ชัยธวัชกล่าวว่าประชาชนมีสิทธิส่งเสียง ไม่ว่าจะมีความคิดเห็นอย่างไร เป็นเรื่องปกติในสังคมประชาธิปไตย อย่ามองว่าเป็นเรื่องความกดดัน

'อนุสรณ์' ขอให้เชื่อมั่นพรรคเพื่อไทยจะตัดสินใจให้ดีที่สุด

ทีมสื่อพรรคเพื่อไทย แจ้งข่าวต่อสื่อมวลชนว่าอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล ระบุพรรคก้าวไกล ไม่โง่ ตามเกมสกปรก ลักหลับ บีบ 151 เสียงโหวตว่าน่าเสียดายที่พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล ไม่สามารถรวบรวมเสียงได้เกิน 376 เสียง ถ้าสามารถทำได้ตั้งแต่ครั้งแรกป่านนี้ประเทศไทยคงได้คณะรัฐมนตรีมาบริหารประเทศแล้ว 

ใครจะพูดอะไรก็เป็นสิทธิ แต่ต้องไม่ลืมว่า 141 เสียงของพรรคเพื่อไทย โหวตให้นายพิธา 100 เปอร์เซ็นต์เต็ม ไม่มีแตกแถวแม้แต่เสียงเดียวทุกครั้ง แม้ถึงวันนี้พรรคเพื่อไทยมีที่นั่งห่างจากพรรคก้าวไกลเพียง 8 ที่นั่ง และมีแนวโน้มที่ระยะห่างจะใกล้เข้ามาอีก แต่พรรคเพื่อไทยก็สนับสนุนพรรคก้าวไกลด้วยดีมาตลอด แม้แต่กรณีโหวตรองประธานสภาจากพรรคก้าวไกลก็ 141 เสียงเต็มพิกัด ความกลัวทำให้เสื่อม อย่ามัวแต่ฟาดงวงฟาดงา ถ้าพอมีเวลาลองไปถอดบทเรียนจากผลนิด้าโพลที่ชี้ประชาชนมองพรรคก้าวไกลผิดพลาด เพราะไม่ยอมยกเลิกบางนโยบาย ไม่ใช่ไปโทษทุกคน แล้วตัวเองไม่ยอมปรับตัว สิ่งใดทำผิดก็ปรับแก้ทำใหม่ ช่วงรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งพรรคสมาชิกพรรคเพื่อไทยก็ไม่เคยมีใครพูดว่าหลังเลือกตั้งจะโหวตนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีแม้แต่คนเดียว แต่เมื่อผลเลือกตั้งออกมาเป็นแบบนี้ แม้กองเชียร์แฟนคลับพรรคเพื่อไทยจำนวนมากจะไม่สบายใจ แต่ 141 เสียงของพรรคเพื่อไทยก็โหวตให้นายพิธา เต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ทุกครั้ง พรรคก้าวไกลเคยเสนอ สส.ซีกพรรครัฐบาลเดิม ต้องเคารพฉันทามติจากประชาชน โหวตเลือกพิธาเป็นนายกฯ เพื่อปิดสวิตซ์ ส.ว.แล้วกลับไปเป็นฝ่ายค้าน ทำไมพอจะโหวตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยบ้าง ถึงสร้างเงื่อนไขขึ้นมา ยืนยันว่าจนถึงขณะนี้พรรคเพื่อไทย ยังไม่ได้ทำอะไรตามที่ถูกกล่าวหาเลย เพียงแต่จะนำข้อหารือจากพรรคการเมืองต่างๆ เข้าสู่ที่ประชุม 8 พรรคให้ได้ร่วมกันตัดสินใจ ไม่ควรมีใครใช้วิธีขอเสียงสนับสนุนไป ด่าไป เราจะขอเสียงจากเขา โดยไม่คุยกับใครเขาเลยได้อย่างไร

“ภายใต้สถานการณ์ที่มีข้อจำกัด ขอให้เชื่อมั่นว่าพรรคเพื่อไทยจะตัดสินใจให้ดีที่สุด โดยยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ” อนุสรณ์ กล่าว

ส่วนกรณีเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา ระบุเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ควรย้ำจุดยืนให้ชัด แก้-ไม่แก้ ม.112 ว่า น่าเสียดายที่ประชาชนไปเลือกตั้งมาจะครบ 3 เดือน ยังไม่ได้นายกรัฐมนตรีมาทำงานแก้ไขปัญหาวิกฤตให้ประเทศ การโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งต่อไปขอให้ทุกฝ่ายยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ ให้ประเทศไทยได้ไปต่อ ไม่ควรมีใครสร้างเงื่อนไขที่จะทำให้ประเทศชาติและประชาชนเสียโอกาส นายเศรษฐา ยืนยันอย่างชัดเจนว่า การโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งต่อไปต้องคิดให้ดี ต้องเจรจาให้เหมาะสม และส่วนตัว ยอมรับการแก้มาตรา 112 ถือเป็นปัญหาและอุปสรรคสำคัญ พรรคที่จะเสนอนายกฯ ครั้งต่อไปต้องไม่มีเรื่องการแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา112 ไม่เช่นนั้นจะไม่ได้รับการสนับสนุนจาก สว. และจากหลายๆ พรรค ประชาชนเห็นจุดยืนของนายเศรษฐา และพรรคเพื่อไทย ที่จะไม่ยกเลิก ไม่แก้ไข ม.112 ชัดเจน

“ผลสำรวจ 100 ซีอีโอ ระบุชัดประเทศไทยต้องไปต่อไม่ควรรอ 10 เดือน โอกาสครั้งสำคัญที่ ส.ส.สว.จะนำพาประเทศออกจากวิกฤต มาถึงแล้ว” อนุสรณ์ กล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net