Skip to main content
sharethis
  • สหภาพคนทำงาน สังคมนิยมแรงงาน โมกหลวงริมน้ำ และเครือข่ายภาคประชาชนอื่นๆ รุดยื่นหนังสือค้านการประชุมระหว่าง พม. และ 'เตรียมพัฒน์' แก้ปัญหา 'หยก' เหตุไม่มีการเชิญผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายร่วมประชุม โดยเฉพาะตัวของหยก และตัวแทนของเยาวชน พร้อมเรียกร้องให้พิจารณาคืนสถานะ นร. ให้หยก อย่างไม่มีเงื่อนไข
  • แถลงการณ์เสนอให้เยาวชนและผู้เรียนในสถานศึกษามีส่วนร่วมกับการแก้ไขหรือออกแบบกฎระเบียบที่มีผลกระทบต่อผู้เรียนหรือเยาวชนเองได้ด้วย

20 มิ.ย. 2566 เพจเฟซบุ๊ก 'Friends Talk' ถ่ายทอดสดออนไลน์วันนี้ (20 มิ.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ถนนหลานหลวง พัชณีย์ คำหนัก จากสังคมนิยมแรงงาน แทนฤทัย แท่นรัตน์ ตัวแทนโมกหลวงริมน้ำ พร้อมนักกิจกรรมคนอื่นๆ ยื่นหนังสือถึง พม. เพื่อเรียกร้องให้โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ (เตรียมพัฒน์) คืนสถานะนักเรียนให้กับ 'หยก' ธนลภย์ ผลัญชัย เยาวชนอายุ 15 ปี และผู้ถูกดำเนินคดีทางการเมืองโดยไม่มีเงื่อนไข โดยมี อนุกูล ปีดแก้ว ปลัด พม. เป็นผู้รับมอบหนังสือ

พัชณีย์ สมาชิกสังคมนิยมแรงงาน ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวก่อนการยื่นหนังสือ ระบุว่า สหภาพคนทำงาน สังคมนิยมแรงงาน ครูขอสอน เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน และโมกหลวงริมน้ำ จัดทำแถลงการณ์และข้อเสนออย่างเร่งด่วน เนื่องจากเราทราบว่าจะมีประชุมระหว่างโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ และ พม. เพื่อแก้ไขปัญหา กรณีที่หยก ไม่มีสถานภาพเป็น ‘นักเรียน’ ของโรงเรียนเตรียมอุดมพัฒนาการ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับหยก 

พัชณีย์ กล่าวต่อว่า เธอขอคัดค้านการประชุมระหว่าง พม. กับเตรียมพัฒน์ฯ ที่กำลังจะเกิดขึ้นในวันนี้ เนื่องจากไม่มีการเรียนเชิญผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายเข้าร่วมประชุม อาทิ หยก หรือตัวแทนของเยาวชน ซึ่งจะทำให้ไม่ได้แนวทางการแก้ไขปัญหาที่แท้จริง 

ทั้งนี้ หนังสือที่ พัชณีย์ กล่าวถึงคือหนังสือที่ออกโดยโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ที่แจ้งผู้ปกครองว่า ทางโรงเรียนได้รับการติดต่อจากกระทรวง พม. เป็นศูนย์กลางร่วมปรึกษาหาแนวทางการแก้ไขปัญหาของ 'หยก' ธนลภย์ ผลัญชัย ในวันนี้ (20 มิ.ย.) เวลา 12.30 น. ที่อาคารสำนักงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยมีผู้ร่วมประชุมประกอบด้วย

  1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
  2. ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 
  3. อธิบดีกรมส่งเสริมสุขภาพเด็กและเยาวชน
  4. สหวิชาชีพ
  5. ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 2 
  6. ผู้อำนวยการเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ 
  7. ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ 
  8. นายกสมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการและตัวแทนผู้ปกครอง

รายละเอียดหนังสือ

เรื่อง รายงานความก้าวหน้ากรณี นางสาวธนลภย์ ผลัญชัย (หยก)
เรียน ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ

ตามที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2566 ในกรณีนางสาวธนลภย์ ผลัญชัย ไม่มีสภาพการเป็นนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ รายละเอียดตามแจ้งแล้วนั้น ขอแจ้งให้ผู้ปกครองทุกท่านทราบว่า ในวันนี้โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการได้รับการประสานจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นศูนย์กลางเพื่อร่วมปรึกษาหาแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยประชุมร่วมกันในอังคารที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2566 เวลา 12.30 น. ณ อาคารสำนักงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยมีผู้ร่วมประชุมประกอบด้วย

  1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
  2. ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 
  3. อธิบดีกรมส่งเสริมสุขภาพเด็กและเยาวชน
  4. สหวิชาชีพ
  5. ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 2 
  6. ผู้อำนวยการเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ 
  7. ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ 
  8. นายกสมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการและตัวแทนผู้ปกครอง

จึงเรียนมาเพื่อทราบ ขอขอบคุณท่านมา ณ โอกาสนี้
ขอแสดงความนับถือ

(นางสาวจินตนา ศรีสารคาม)
ผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ

ต่อประเด็นของเสรีภาพเหนือร่างกายที่ ‘หยก’ ธนลภย์ กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากสังคมว่าเป็นการเคลื่อนไหวที่ก้าวร้าวและสุดโต่งนั้น พัชณีย์ เสนอว่า ทางโรงเรียนควรมีมาตรการประนีประนอม และกลไกเจรจาร่วมกัน เพื่อนำมาสู่การพิจารณาร่วมกันว่า กฎระเบียบที่มันล้าหลัง และละเมิดสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล เมื่อมีคนคัดค้านควรจะมีการเปิดพื้นที่ที่จะแก้ไข ไม่ใช่ใช้ไม้แข็งอย่างการตัดสถานะนักเรียนของหยก แบบนี้ 

นอกจากนี้ พัชณีย์ ระบุว่า เธอไม่พอใจอย่างมาก เนื่องจากก่อนหน้านี้ปรากฏภาพข่าวว่า ทางโรงเรียนอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปในสถานศึกษาได้ ซึ่งเรื่องที่ทำให้เธอรู้สึกโกรธมาก เพราะว่าโรงเรียนควรเป็นพื้นที่ปลอดภัย และพื้นที่แสดงออกเสรีภาพ ไม่ใช่พื้นที่ที่จะบังคับใช้กฎหมายอะไรก็ได้

“สิ่งที่ทางเราไม่พอใจอย่างยิ่งคือการนำเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาในโรงเรียน แต่ขณะที่ปิดประตูให้กับหยก ซึ่งมันเป็นอะไรที่ทำให้เรารู้สึกโกรธมาก ที่มันมีลักษณะของการคุกคาม และ sensitive (ผู้สื่อข่าว - อ่อนไหว) มากกับอำนาจรัฐที่เข้าไปในพื้นที่ของโรงเรียน เพราะว่าโรงเรียนควรเป็นที่พื้นที่ที่จะปลอดภัย และพื้นที่แสดงออกซึ่งเสรีภาพ เพราะว่าการศึกษาที่แท้จริง ควรที่จะบรรลุถึงเสรีภาพ ถึงศักยภาพของตัวเอง มีความรู้และทักษะ ไม่ใช่พื้นที่ที่ใช้กฎระเบียบอะไรก็ได้” สมาชิกสังคมนิยมแรงงาน ทิ้งท้าย

หลังจากให้สัมภาษณ์กับสื่อ แทนฤทัย แท่นรัตน์ ได้อ่านรายละเอียดแถลงการณ์ที่จะนำมายื่นให้กับกระทรวง พม. วันนี้ 

แทนฤทัย เป็นตัวแทนยื่นหนังสือถึงปลัด พม.

รายละเอียดแถลงการณ์

แถลงการณ์แสดงจุดยืน
เพื่อปกป้องและยืนยันสิทธิของเยาวชน
และเรียกร้องการคืนสถานะนักเรียนให้ 'หยก' โดยไม่มีเงื่อนไข

จากกรณีที่ ‘หยก’ เยาวชนอายุ 15 ปี เรียกร้องให้สถานศึกษาเคารพสิทธิเสรีภาพในเนื้อตัวร่างกาย โดยเรียกร้องให้เปิดกว้างเรื่องกฎระเบียบเครื่องแต่งกายและทรงผม ด้วยการอารยะขัดขืนแบบสันติวิธี จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางถึงความเหมาะสม และถูกกล่าวหาว่าเป็นพฤติกรรมสุดโต่ง และยังถูกสถานศึกษาละเมิดสิทธิในการศึกษา โดยอ้างถึงเรื่องกฎระเบียบที่ลิดรอนสิทธิเนื้อตัวร่างกาย และระเบียบการเข้ามอบตัว โดยไม่คำนึงถึงความเหมาะสม ข้อกฎหมาย และหลักการของสิทธิเด็กและเยาวชน

สหภาพคนทำงาน องค์กรสังคมนิยมแรงงาน โมกหลวงริมน้ำ ครูขอสอน และเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน จึงต้องการแสดงจุดยืนเพื่อปกป้องและยืนยันสิทธิในการเรียกร้องและแสดงออกของเด็กและเยาวชน อันอยู่บนพื้นฐานของหลักการสิทธิเด็ก และขอเรียกร้องให้โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ "คืนสถานะนักเรียนให้ 'หยก' ทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข"

และขอคัดค้านการประชุมที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2566 เวลา 12.30 น. ณ อาคารสำนักงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  ซึ่งการประชุมดังกล่าวเป็นการประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหากรณี 'หยก' แต่กลับไม่เปิดให้เยาวชน หรือตัวแทนของเยาวชนคนดังกล่าวได้เข้าไปมีส่วนร่วมในกระบวนการนี้

และเรียกร้องให้กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม  กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  สถานศึกษาทุกแห่ง และทุกภาคส่วนในสังคม ศึกษาและเคารพในหลักการสิทธิเด็ก และผลักดันสนับสนุนให้เกิดกระบวนการที่เยาวชนและผู้เรียนในสถานศึกษา สามารถมีส่วนร่วมและมีอำนาจในการออกแบบกฎระเบียบหรือกฎเกณฑ์ที่ส่งผลกระทบต่อตัวผู้เรียนหรือตัวเยาวชนได้

สุดท้าย เราขอยืนยันในสิทธิที่เด็กและเยาวชนทุกคนมีและไม่อาจถูกพรากไปได้ ตามหลักการในอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กแห่งสหประชาชาติ

  1. เด็กและเยาวชนทุกคนมีสิทธิในการเข้าถึงการศึกษาโดยถ้วนหน้า อย่างไม่มีเงื่อนไข
  2. เด็กและเยาวชนทุกคนมีสิทธิในการแสดงความคิดเห็นต่อกฎระเบียบ ชุมชนและสังคม โดยจะต้องได้รับการรับฟังและคุ้มครอง ไม่ถูกจำกัด ลิดรอนหรือควบคุม รวมทั้งไม่ถูกเลือกปฏิบัติ ด้วยเหตุผลด้านความแตกต่างทางความคิด
  3. เด็กและเยาวชนมีสิทธิในการมีส่วนร่วม แสดงความคิดเห็น และมีสิทธิในการตัดสินใจในกระบวนการที่เกี่ยวข้องหรือส่งผลกระทบต่อตัวเด็กและเยาวชน
  4. การดำเนินการใดๆ ก็ตาม ให้คำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของเด็กและเยาวชนเป็นลำดับแรก

พวกเราขอยืนเคียงข้างทุกการแสดงออกของเยาวชนซึ่งเป็นสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน อันเป็นพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงของสังคมและยุคสมัย เพื่อสิทธิในการศึกษา ระบบการศึกษาที่เป็นธรรมและเท่าเทียม และคุณภาพชีวิตที่ดีของเด็กและเยาวชนทุกคนต่อไป

สหภาพคนทำงาน องค์กรสังคมนิยมแรงงาน โมกหลวงริมน้ำ ครูขอสอน เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน และเครือข่ายองค์กรพันธมิตรอื่นๆ ของเรา
20 มิถุนายน 2566

สำหรับกรณีของ 'หยก' ธนลภย์ ผลัญชัย เยาวชนอายุ 15 ปี ผู้ถูกดำเนินคดีด้วยมาตรา 112 เป็นประเด็นถกเถียงบนสังคม หลังเมื่อ 14 มิ.ย. 2566 โรงเรียนเตรียมพัฒน์ฯ ออกแถลงการณ์กรณีของหยก ระบุว่า 'หยก' ปัจจุบันไม่มีสภาพเป็นนักเรียนของโรงเรียนเตรียมพัฒน์ฯ เนื่องจากการมอบตัวของหยก ไม่สมบูรณ์ ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการมอบตัวประกาศการรับนักเรียน ปี 2566 ซึ่งกำหนดให้นักเรียนต้องมามอบตัวพร้อมมารดา ภายในวันที่ 6 เม.ย. 2566

ทางโรงเรียนได้อนุญาตให้หยก เข้าเรียนก่อนล่วงหน้า และให้หยก กับมารดา มามอบตัวพร้อมกันภายในวันที่ 10 มิ.ย. 2566 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายในการบันทึกข้อมูลจำนวนนักเรียนในระบบ DMC ของกระทรวงศึกษาธิการ แต่พอถึงวันที่ 10 มิ.ย. โรงเรียนระบุว่า หยก ไม่ได้ทำตามขั้นตอนดังกล่าว จึงเป็นเหตุให้หยก ไม่มีสถานะนักเรียนของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ

นอกจากนี้ ในวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา โรงเรียนเตรียมอุดมพัฒนาการ ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 2 กรณีของ หยก ธนลภย์ โดยยืนยันอีกครั้งว่า 'หยก' ไม่มีสถานะเป็นนักเรียนของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ เนื่องจากไม่มีผู้ปกครองตามสายเลือด มามอบตัวกับเยาวน 

แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ผู้สื่อข่าวเคยไปค้นเอกสารระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ 2 ฉบับ ได้แก่ "ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยหลักฐานในการรับนักเรียนนักศึกษาเข้าเรียนในสถาบันการศึกษา พ.ศ.2548" และ "ระเบียบกระทรวงศึกษาว่าด้วยทะเบียนนักเรียน พ.ศ.2535" ซึ่งบังคับใช้เป็นกฎหมายในขณะนี้ ไม่ได้ระบุว่าต้องให้ผู้ปกครองตามสายเลือดพาบุตร-ธิดาเข้ามอบตัวพร้อมกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net