Skip to main content
sharethis

"เกียมพัฒนาประชาธิปไตย" จัดกิจกรรมยืนหยุดขังหน้าโรงเรียนเตรียมพัฒฯ เรียกร้องปล่อยตัว "หยก ธนลภย์" ให้ได้เข้าเรียนวันแรกก่อนหมดสิทธิหลังถูกขังมา 49 วันแล้ว

16 พ.ค. 2566 บริเวณหน้าโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ซึ่งเป็นวันเปิดภาคเรียนวันแรก กลุ่ม “เกียมพัฒนาประชาธิปไตย” ร่วมกับเพื่อนร่วมชั้นของหยก จัดกิจกรรมยืนหยุดขัง เป็นเวลา 1 ชั่วโมง 12 นาที ตั้งแต่เวลา 15.00 น. - 16.12 น.โดยมีประชาชน ศิษย์เก่า และส.ส.จากพรรคก้าวไกลพร้อมทีมงานมาร่วมด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากิจกรรมครั้งนี้ถูกจัดขึ้นเพื่อเรียกร้องให้ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางปล่อยตัว ธนลภย์ ผลัญชัย เยาวชนอายุ 15 ปี ที่ถูกดำเนินคดีด้วยข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และปัจจุบันถูกฝากขังอยู่ที่สถานพินิจเป็นเวลา 49 วันแล้ว

สำหรับบรรยากาศการทำกิจกรรม มีประชาชนมายืน พร้อมมีการชูป้ายรณรงค์เป็นข้อความต่างๆ เพื่อเรียกร้องให้ศาลปล่อยตัวหยก กลับมาเรียนหนังสือ นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวเผยว่า ทางโรงเรียนเตรียมพัฒฯ มีการปิดประตูใหญ่ และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอาจารย์ สังเกตการณ์การทำกิจกรรมจากด้านหลังประตูภายในบริเวณโรงเรียน

ข้าวกล้อง (สงวนชื่อนามสกุล) เพื่อนของธนลภย์กล่าวว่า วันนี้เป็นวันเปิดภาคเรียนวันแรกและเป็นวันสุดท้ายที่ธนลภย์จะสามารถมอบตัวกับโรงเรียนเพื่อศึกษาต่อ การถูกฝากขังอยู่ในสถานพินิจอาจทำให้ธนลภย์ไม่สามารถเข้าศึกษาต่อในระดับชั้น ม.4 ได้ จึงต้องการเรียกร้องให้ศาลปล่อยตัวหยกโดยเร็ว และขอให้โรงเรียนให้ความช่วยเหลือหยกในการเข้าศึกษาต่อในปีการศึกษานี้

รุ่นน้องของธนลภย์ที่มาร่วมกิจกรรมเล่าถึงเรื่องที่ธนลภย์ถูกดำเนินคดีว่าก่อนหน้านี้ได้คุยกันจนถึงช่วงก่อนที่ธนลภย์จะเข้าบ้านปราณีก็ได้คุยกัน ตอนแรกที่เธอได้รู้เรื่องคดีนี้เธอรู้สึกตกใจว่าใครแจ้งแต่พอรู้ก็รู้สึกแย่ แม้จะไม่ได้สนิทกันมากนักไม่เคยทำกิจกรรมร่วมกันแต่เพราะเรื่องการเมืองทำให้ได้รู้จักกัน 

“เรียกร้องให้หยกกลับมาเรียน หยกถูกคุมขังที่บ้านปราณี ตอนนี้ก็ 40 กว่าวันแล้วค่ะ ไม่ได้ออกมา” รุ่นน้องของธนลภย์กล่าว

พลอย อายุ 19 ปี ศิษย์เก่าของโรงเรียนเตรียมพัฒบอกว่าเธอรู้จักธนลภย์ผ่านข่าวว่าเป็นรุ่นน้องในโรงเรียนมาถูกดำเนินคดีด้วยมาตรา 112 แล้วก็ยังไม่ได้รับการปล่อยตัว 

“น้องก็ไม่ได้มาเรียนในวันนี้ ซึ่งวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่น้องจะได้เข้าเรียนต่อ ม.4 ได้ ส่งผลอย่างมากเลยค่ะ เพราะว่าน้องควรได้รับโอกาสในการได้เรียนต่อ เพราะว่าน้องถือว่าเป็นเด็กในโรงเรียน แล้วก็ถือว่าสอบผ่าน แล้วก็สามารถที่จะเข้าเรียน ม.4 ได้ตามระเบียบแล้ว แต่ว่าน้องไม่สามารถที่จะเข้ามาเรียนได้ เพราะว่าถูกคุมขังอยู่ ซึ่งการถูกขังในวันนี้ก็ไม่เป็นธรรมซักเท่าไหร่” 

พลอยบอกว่าอยากเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวธนลภย์ แล้วก็อยากให้โรงเรียนได้พิจารณาเรื่องนี้ด้วย แล้วก็มีการให้ความช่วยเหลือธนลภย์อย่างเป็นรูปธรรมด้วย

รุ่นพี่ของธนลภย์ที่มาร่วมกิจกรรมอีกคนกล่าวว่าเธออยากให้โรงเรียนช่วยเหลือเรื่องนี้มากเพราะเป็นนักเรียนในโรงเรียนที่ควรจะได้เรียนทั้งที่ยังไม่ได้ทำอะไรผิด

“คือน้องก็เป็นนักเรียนคนนึง เป็นประชาชนคนนึง แค่น้องคิดเห็นต่าง ไม่ควรที่จะต้องถูกคุมขัง วันนี้ก็มาเรียกร้องให้ทางภาครัฐ หรือว่าทางต่าง ๆ ให้ช่วยดูแลเรื่องนี้ แล้วก็ทำให้น้องได้ออกมาเรียนเหมือนเด็กทั่วไป เพราะว่าน้องก็แค่ออกมาใช้สิทธิใช้เสียงเฉย ๆ” รุ่นพี่ของธนลภย์กล่าว

ข้าวกล้อง อายุ 18 ปี รุ่นพี่ในโรงเรียนของธนลภย์เล่าว่าเพิ่งได้รู้จักธนภลย์ตอนที่ได้ทราบข่าวเรื่องที่ธนลภย์ได้หมายเรียกคดี ม.112 และทราบภายหลังว่าเป็นคนในโรงเรียนจากเพื่อนของธนลภย์อีกที และได้ไปหาธนลภย์ที่หน้าศาลอ่านแถลงการณ์ จึงได้คุยกับธนลภย์ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น

“ความจริงเราก็ยังรู้จักหยกได้ไม่นาน แต่ว่าเหมือนที่เรารู้มาคร่าว ๆ จากการที่เราคุยกับหยก ก็ น้องชอบกินร้านน้ำหวานร้านนึงในโรงอาหารนี้ เป็นร้านริมของโรงอาหาร แล้วก็น้องชอบโอวัลตินเป็นพิเศษ น้องชอบตีแบดเวลาว่าง ๆ กับเพื่อน เราเคยถามเพื่อนน้องเหมือนกันว่า หยกเป็นคนนิสัยยังไงเหรอ เล่าให้เราฟังหน่อยได้มั้ย เพื่อนน้องบอกว่า หยกเป็นคนที่ใจดีมาก เพราะว่าผมเคยเหมือนแบบว่า ยืมเงิน แล้วหยกก็ให้ยืม คนอื่นเค้าไม่ให้ยืมเงินกันขนาดนี้ครับ หยกให้อะไรอย่างนี้”

ข้าาวกล้องบอกว่าแน่นอนที่เรื่องนี้จะส่งผลต่อการเรียน เพราะว่าวันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรก แล้วก็ผู้ปกครองของธนลภย์อย่าง 'เก็ท' โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง ก็ได้คำตอบมาว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ถ้าไม่มาเรียน อาจจะพลาดการเป็นนักเรียน แต่เขาก็มองว่าความจริงแล้วมันก็อาจจะเป็นไปได้อยู่ที่โรงเรียนยืดหยุ่นให้ 

“อยากฝากว่าหยุดมีอีโก้เถอะครับ ผมว่าที่เค้าไม่ยอมปล่อยมาตอนนี้เพราะว่าอีโก้ล้วน ๆ มันเป็นเพราะความไม่ยอม เราก็รู้สึกว่าน้องมันก็แค่อายุ 15 เองอะ ตอนโดนคดีมันก็อายุ 14 ด้วยซ้ำ โดนจับไปแบบงง ๆ อยู่ดี ๆ ก็โดนลากเข้าไปในห้องแล้วก็ไม่ได้ออกมาอีกเลย ก็เลยรู้สึกว่าปล่อยให้เค้ามาโรงเรียนกับพวกเราเถอะ”

ป่าน อายุ 29 ปี เป็นศิษย์เก่าเช่นกัน บอกว่าได้รู้จักธนลภย์ครั้งแรกผ่านข่าวเรื่องที่ถูกดำเนินคดีด้วยมาตรา 112 ทั้งที่ยังเป็นเด็กอายุน้อยมาก แล้วก็รู้อีกทีตอนข่าวที่ธนลภย์นั่งหันหลังให้ศาล

“เราก็เลยตัดสินใจมาที่นี่ในฐานะเป็นศิษย์เก่าเตรียมพัฒน์ด้วย แล้วก็ในฐานะประชาชนที่เรารู้สึกว่าไม่แฟร์ คือตอนนี้น้องเค้าเป็นนักเรียน แล้วก็เป็นอนาคตของประเทศเรา”

“จริง ๆ ก็อยากให้โรงเรียนเตรียมพัฒนะคะ หรือผู้อำนวยการออกแถลงการณ์ แล้วก็ช่วยเป็นอีกเสียงหนึ่งที่กดดันให้ปล่อยตัวน้องหยกซักทีเนอะ เพราะว่าสิ่งที่มันมีปัญหาจริง ๆ มันไม่ใช่เพราะว่าน้องเรียกร้องหรือทำความผิดต่อกฎหมาย ที่ควรจะถูกแก้ไข “

วีรภัทร คันธะ ส.ส.ก้าวไกล สมุทรปราการ เขต 6 พระประแดง กล่าวว่า เขาติดตามเรื่องของธนลภย์มาพักใหญ่แล้วทั้งจากการติดตามข่าวและจากเพื่อนอย่างกุณฑิกา นุตจรัส ที่เป็นทนายความให้ธนลภย์ พอได้ทราบว่ามีกิจกรรมที่นี่ เขาเองในฐานะที่เป็นศิษย์เก่าด้วยก็อยากมาแสดงจุดยืนต่อกระบวนการยุติธรรมที่มีปัญหาอยู่ และถูกขังเอาไว้นานแล้วทั้งที่ยังเป็นเยาวชน ซึ่งเขามองว่าศาลเองมีดุลยพินิจอย่างเต็มที่ที่จะพิจารณาให้ขังหรือไม่ขังต่อ 

วีรภัทร คันธะ (เสื้อแจ็กเก็ตก้าวไกล)

“ตอนนี้เป็นช่วงรอยต่อของการเรียน ทราบมาว่าน้องสอบได้ที่ 1 ศิลป์จีน นั่นแสดงว่าเรากำลังมีเด็กที่กำลังมีอนาคตที่สดใสอยู่คนนึง กำลังถูกกระบวนการยุติธรรมไทยจับไปขัง ทำให้ต้องกลับไปพิจารณากันอยู่ว่าสิ่งที่ทำกันอยู่นั้นถูกต้องแล้วรึเปล่า” ส.ส.เขตก้าวไกลกล่าว

ทั้งนี้ ไข่แมวชีส รายงานว่า เมื่อ 16 พ.ค. 2566 'หยก' ธนภลย์ ผลัญชัย เยาวชนอายุ 15 ปี ได้ออกแถลงการณ์ ดังนี้ 

สวัสดีค่ะหนูหยกนะ ศาลสั่งให้เอาตัวมาขังไว้ที่บ้านปราณี นครปฐม 49 วันแล้ว

ที่จริงหนูก็คาดหวังนะว่าศาลจะปล่อยหนู แต่วันนี้เปิดเรียนกันแล้ว ศาลก็ไม่ปล่อย หนูคิดว่ามันก็ชัดเจนดี ยังไงขอฝากเพื่อนๆที่มีโอกาสได้เรียนเรียนแทนไปด้วย เวลานั่งในห้องเรียนที่ไม่มีเรา ก็ฝากคิดถึงกันด้วย 
ยังไงหนูก็ไม่คาดหวังกับอาชีพผู้พิพากษาแล้ว 

เมื่อไหร่จะได้กลับไปเรียนก็ไม่รู้ ตั้งแต่เกิดมาก็มีอาชีพเป็นนักเรียนมาตลอด ก็มีวันนี้แหละที่มันถูกเอาไปจากเรา ก็รู้สึกว่าเราไม่มีอาชีพแล้ว มันก็หวั่นไหว 

ตอนนี้ทุกๆคนพยายามบอกให้หนูประกัน หนูไม่เข้าใจทำไมศาลต้องบังคับให้หนูประกันตัวด้วย หนูไม่ชอบคำว่าร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวเลย ศาลสั่งขังหนูไว้เอง ถ้าอยากปล่อยก็อยากให้ศาลปล่อยหนู ไม่ใช่มาใช้การบีบบังคับให้หนูร้องขอปล่อยตัวเองชั่วคราว เราก็รู้กันอยู่ว่าศาลปล่อยหนูได้ ถ้าศาลไม่โกหกตัวเอง 

ถ้าไม่ปล่อย หนูว่ามันแสดงถึงปัญหาของผู้พิพากษาไทย ศาลไทย แล้วมันก็ทำให้เห็นว่ามาตรา 112 มีปัญหามากๆ 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net