Skip to main content
sharethis

'ส.ว.วันชัย' พร้อมโหวตแคนดิเดตนายกฯที่รวมเสียงได้เกิน 250 ขณะที่ 'เจตน์' บ่ายเบี่ยง บอกประเทศไม่ใช่ที่ลองงานของใคร ส่วน 'เสรี' อ้างน้ำบ่อไหนมันก็ไหลไปบ่อนั้น เสียงของตนเองมีราคา ต้องดูความเหมาะสม ดูประสบการณ์ ความรู้ความสามารถ ไม่สร้างความแตกแยก ไม่เข้าไปทุจริตคอร์รัปชั่น และต้องดูแลปกป้องสถาบัน

 

11 เม.ย.2566 วานนี้ (10 เม.ย.)  THE STANDARD สัมภาษณ์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) 3 คน ประกอบด้วย วันชัย สอนศิริ เสรี สุวรรณภานนท์ และเจตน์ ศิรธรานนท์ โดยประเด็นหนึ่งที่สังคมและพิธีกรในรายการสงสัยคือ หากการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยได้เสียงหรือรวมเสียงได้มากกว่า 250 เสียงในสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แล้วเสนอ แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ส.ว.ทั้ง 3 คนจะสนับสนุนหรือไม่

วันชัย ยืนยันว่า หากใครรวมเสียงได้เกิน 250 เสียง ตนโหวตอยู่แล้วให้อยู่แล้ว

"ผมโหวตอยู่แล้ว.. ใครก็ตามที่รวมได้เกิน 250 แล้วเสนอ ถ้าพรรคการเมืองหรือพรรคเขาเองเสนอเขา ผมก็เอา"  วันชัย กล่าว

ขณะที่ เจตน์ กลับระบุว่า ต้องเอามาพิจารณาคุณลักษณะและประเทศไม่ใช่ที่ลองงานของใคร

"ผมว่าประเทศไทยไม่ใช่ที่ลองงานของใคร ใครเป็นแคนดิเดตต้องเอามาพิจารณาคุณลักษณะด้วย .. 310 เขาก็ต้องไปรวบรวมเสียงมาให้มันได้ 376" เจตน์ กล่าว

ส่วน เสรี ยืนยันตามสิ่งที่เคยให้สัมภาษณ์เมื่อต้นปีที่ผ่านมากับ PPTV HD 36 จนเป็นประเด็นที่ว่า น้ำบ่อไหนมันก็ไหลไปบ่อนั้น พร้อมย้ำว่าเสียงของตนเองมีราคา จะโหวตให้ใครต้องดูความเหมาะสม ดูประสบการณ์ ความรู้ความสามารถ ไม่สร้างความแตกแยก ไม่เข้าไปทุจริตคอร์รัปชั่น และต้องดูแลปกป้องสถาบัน

"คะแนนผมจะตัดสินใจเลือกใครมีราคานะ ไม่ได้หมายความว่าให้ค่าตอบแทนไม่ใช่เอาเงินมาแลก ไม่ใช่ มีราคาคือมีค่าควรที่จะลงให้ใครเป็นนายกฯ ต้องดูความเหมาะสม ดูประสบการณ์ ความรู้ความสามารถ ดูที่ทำงานแล้วสามารถทำประเทศชาติเจริญรุ่งเรื่องก้าวหน้าได้ ไม่สร้างความแตกแยก ไม่เข้าไปทุจริตคอร์รัปชั่น เข้าไปแล้วต้องดูแลปกป้องสถาบันให้ดี อย่างนี้ เพราะฉนั้นผมถึงได้บอกว่าการตัดสินใจของผมนี่มีค่า เพราะฉนั้นผมจะเลือกใครเอาไว้ดูวันนั้นว่าตัวเทียบนี่เหมาะกว่ากันไหม ถ้าหากว่าไปเลือกคนที่ไม่ดี หรือไม่เหมาะ อีกคนหนึ่งดีคะแนนน้อยกว่า ผมก็จะให้คนที่น้อยกว่า เพราะเขาดีกว่า แต่ก็ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า ส.ว.มีที่มาอย่างไร น้ำบ่อไหนมันก็ไหลไปบ่อนั้นล่ะ มันธรรมชาติเป็นอย่างนั้น จะไปปฏิเสธหลอกลวงได้อย่างไร" เสรี กล่าว

ทั้งนี้การเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคมนี้ ส.ว. 250 คน หรือ 33.33% ของรัฐสภา ยังมีบทบาทในการเลือกนายกฯ ร่วมกับ ส.ส.อยู่ แม้ตลอด 4 ปีที่ผ่านมาทั้ง ส.ส.และประชาชนจะพยายามเสนอปิดสวิตช์อำนาจของ ส.ว.ในส่วนนี้หลายครั้งแต่ก็ถูก ส.ว.ปัดตก อีกทั้งรัฐธรรมนูญเองก็ยังระบุด้วยว่าผู้ที่จะเป็นนายกฯ ต้องได้รับเสี่ยงสนับสนุนจาก 2 สภา เกินครึ่งหนึ่งหรือ 375 เสียงขึ้นไป ทำให้ภาคประชาชนและการเมืองเรียกร้องห้าม ส.ว.งดออกเสียงและโหวตตามเสียงข้างมากของสภาผู้แทนฯ ด้วย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net