Skip to main content
sharethis

งานวิจัยเผยบริษัทเมตาที่เป็นเจ้าของโซเชียลฯ 'เฟสบุ๊ค-อินสตาแกรม' ยังคงอนุญาตให้มีการแผยแพร่โฆษณาในเชิงใส่ร้ายป้ายสีสร้างความเกลียดชังต่อ LGBTQ+ อย่างน้อย 63 ชุด นับตั้งแต่ปลายปี 2565

24 ก.พ. 2566 องค์กร มีเดีย แมทเทอร์ส ฟอร์ อเมริกา ซึ่งเป็นองค์กรเอียงซ้ายที่ทำงานด้านจับตามองสื่อเปิดเผยว่า บริษัท เมตา ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของโซเชียลมีเดียอย่างเฟสบุ๊คและอินสตาแกรม สร้างผลกำไรจากโฆษณาต่อต้านผู้มีความหลากหลายทางเพศ หรือ LGBTQ+ จำนวนอย่างน้อย 63 ชุด นับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2565 เป็นต้นมา

หลายเดือนก่อนหน้านี้ มีเดีย แมทเทอร์ส ฟอร์ อเมริกา ยังเคยเผยแพร่รายงานระบุว่ามีโฆษณาที่ใช้วาทกรรมต่อต้าน LGBTQ+ คือการเรียกผู้มีความหลากหลายทางเพศด้วยคำว่า "พวกล่อลวง" (groomers) ปรากฏอยู่ในโฆษณามากกว่า 150 ชุด ในโซเชียลเดียในสังกัดของบริษัทเมตา

โดยที่คำว่า "พวกล่อล่วง" นี้เป็นคำอันตรายที่กลุ่มอนุรักษ์นิยมบางกลุ่มมักจะนำมาอ้างใช้กล่าวหาอย่างผิดๆ ว่าชาว LGBTQ+ เป็น "คนบ้ากาม" หรือ "ผู้มุ่งจะล่วงละเมิดทางเพศ" รวมถึงนำมาอ้างกล่าวหาว่าชาว LGBTQ+ พยายามล่อลวงคนรักเพศตรงข้าม (heterosexual) กับคนที่มีเพศสภาพตรงกับเพศกำเนิด (cisgender) ให้กลายไปเป็นผู้มีความหลากหลายทางเพศ วาทกรรมดังกล่าวนี้ถูกพิสูจน์แล้วว่าไม่เป็นความจริง

หลังจากที่มีการรายงานในเรื่องนี้ เมตาก็ทำงานถอดโฆษณา 47 ชุดที่ใช้วาทกรรมดังกล่าวออก แต่ในรายงานฉบับล่าสุดของ มีเดีย แมทเทอร์สระบุว่าเมตาก็อนุญาตให้มีโฆษณาใหม่ 63 ชุด ที่มีการใช้ภาษาในเชิงใส่ร้าย LGBTQ+ ในแบบเดียวกันบนพื้นที่ของพวกเขา

องค์กรฮิวแมนไรท์แคมเปญเปิดเผยว่า ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมามีการใช้คำา "พวกล่อลวง" เพิ่มขึ้นมาก ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับการที่โวหารต่อต้านความหลากหลายทางเพศเพิ่มมากขึ้นในสหรัฐฯ

เมื่อเดือน ก.ค. 2565 ที่ผ่านมา องค์กร GLAAD ที่รณรงค์เรื่องสื่อ LGBTQ+ ระบุในดัชนีความปลอดภัยของโซเชียลมีเดีย (SMSI) จากการสำรวจครั้งที่ 2 ของปีว่า สื่อโซเชียลมีเดียใหญ่ๆ ทั้ง 5 แห่งล้มเหลวในด้านความปลอดภัยต่อผู้ใช้งานที่เป็น LGBTQ+ ไม่ว่าจะเป็น เฟสบุ๊ค, อินสตาแกรม, ยูทูบ, ทวิตเตอร์ และ TikTok โดยที่เฟสบุคกับอินสตาแกรมได้รับคะแนน 48 และ 46 ตามลำดับ จากทั้งหมด 100 คะแนน

ภารกิจส่วนหนึ่งขององค์กรอย่าง GLAAD คือการประสานความร่วมมือกัยบริษัทโซเชียลมีเดียต่างๆ และเสนอแนะกลไกที่ดีขึ้นในการยับยั้งวาจาปลุกปั่นเกลียดชังต่อ LGBTQ+ แต่จากข้อมูลของมีเดีย แมทเทอร์ส ก็ระบุว่าบริษัทโซเชียลมีเดียไม่ได้ปฏิบัติตามกลไกเหล่านี้หรือแม้กระทั่งจะปฏิบัติตามนโยบายของบริษัทตัวเอง

โฆษกของ GLAAD ระบุว่า "การที่ทางเมตาแสวงหากำไรอย่างจงใจและรู้ตัว ผ่านโฆษณาที่มีการใช้เนื้อหาใส่ร้ายป้ายสีชาว LGBTQ+ ด้วยเจตนาร้ายโดยกล่าวว่าเป็นภัยต่อเด็กนั้น นับเป็นการที่โซเชียลมีเดียเหล่านี้ละเมิดนโยบายเฮทสปีชของตัวเอง เรื่องนี้สมควรจะทำให้ลูกจ้างที่เป็น LGBTQ+ และผู้สนับสนุน LGBTQ+ ในเมตารู้สึกอับอายและโกรธเคือง"

โฆษกของ GLAAD กล่าวอีกว่า การที่มีโฆษณาและโพสต์บนเฟสบุ๊คกับอินสตาแกรมของกลุ่มคนที่มีผู้ติดตามจำนวนมากคอย "พ่น" ทฤษฎีสมคบคิดที่ไร้หลักฐานที่มาที่ไปและเป็นอันตรายนั้น นับเป็นการกระทำที่กระตุ้นให้เกิดความรุนแรงต่อชาว LGBTQ+ และนำไปสู่การก่อเหตุรุนแรงต่อชุมชนผู้มีความหลากหลายทางเพศในโลกจริง เช่นการก่อเหตุโจมตีงานแสดงโชว์แดร็ก และการโจมตีการเฉลิมฉลองไพรด์ โฆษกของ GLAAD เสนอว่ากลุ่มคนทำงานในเมตาที่เป็น LGBTQ+ หรือผู้สนับสนุน LGBTQ+ ควรจะช่วยกันส่งเสียงในเรื่องนี้ก่อนที่เหตุรุนแรงและความเกลียดชังจะเกิดขึ้นมากกว่านี้

ทางเมตาบอกว่าพวกเขากำลังพิจารณารายงานในเรื่องนี้อยู่ อย่างไรก็ตามโฆษกของเมตาเคยกล่าวต่อสื่อก่อนหน้านี้แล้วว่าเฟสบุ๊ค "ห้ามเนื้อหาที่มีความรุนแรงหรือลดทอนความเป็นมนุษย์ที่มุ่งเป้าต่อบุคคลที่นิยามตัวเองเป็น LGBTQ+"

มาตรฐานการโฆษณาของบริษัทเมตาระบุว่า โฆษณาที่เผยแพร่ในพื้นที่ของพวกเขา ไม่ควรจะมีเนื้อหาที่อ้างว่าบุคคลหรือกลุ่มคนใดๆ เป็นภัยทางกายภาพ สุขภาพ หรือความอยู่รอดของบุคคลอื่นๆ โดยวางอยู่บนฐานเรื่องเพศวิถี, วรรณะ, เพศ, เพศสภาพ หรืออัตลักษณ์ทางเพศของบุคคลหรือกลุ่มคนเหล่านั้น แต่ทางเมตาก็ยังอนุญาตให้มีโฆษณาอย่างน้อย 63 ชิ้นใส่ร้ายป้ายสีว่าชาว LGBTQ+ เป็นภัยต่อคนอื่น เมื่อช่วงราวปลายปีที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้

มีเดีย แมทเทอร์ส เข้าถึงข้อมูลโฆษณาของเมตาผ่านชุดเครื่องมือ ดิวอี้สแควร์แอดวอทช์ ทำให้พวกเขารับทราบข้อมูลว่ามีจำนวนครั้งที่โฆษณาเหล่านี้ปรากฏบนหน้าจอเป็นครั้งแรกรวมแล้ว 1 ล้านครั้ง และเมตาก็ได้รับค่าโฆษณาเหล่านี้รวมแล้ว 6,400 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 224,000 บาท) จากการที่พวกเขาอนุมัติการโฆษณาโดยอาศัยวาทกรรมใส่ร้ายป้ายสี LGBTQ+ เกือบร้อยละ 70 ของผู้ที่ส่งโฆษณาทำนองนี้เข้าไป

โฆษณาเหล่านี้บางส่วนมาจากผู้สมัครรับเลือกตั้งฝ่ายขวาอย่าง อิริค ดีเตอร์ส นักการเมืองพรรครีพับลิกันที่ลงสมัครชิงตำแหน่งผู้ว่ารัฐเคนทักกี นอกจากนี้โฆษณายังมาจากองค์กรฝ่ายขวาอย่างเท็กซัสสกอร์บอร์ด ที่เผยแพร่วิดีโออ้างว่าแดรกควีนส์เป็น "พวกล่อลวง" ที่พยายาม ''เกณฑ์" คนรุ่นเยาว์ด้วย


เรียบเรียงจาก
Meta has profited from more than 60 ads using homophobic slur ‘groomer’ since December, Yahoo! Sports, 22-02-2023
Meta has profited from over 200 ads using the anti-LGBTQ “groomer” slur, even though the platform claims it prohibits the term, Media Matters, 21-02-2023

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net