'ขบวนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชน' ประกาศดีเดย์เนื่องในวันแรงงานสากลชวนกรรมกร แรงงาน คนทำงาน และประชาชนเข้าร่วมชุมนุมใหญ่หน้าทำเนียบล้มร่าง พ.ร.บ.ควบคุมการร่วมกลุ่ม 23 พ.ค. นี้ 'เลิศศักดิ์' ย้ำ สิทธิในการรวมกลุ่มเป็นสิทธิพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของขบวนแรงงาน
เลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ นักปกป้องสิทธิมนุษยชนหัวหน้าพรรคสามัญชนและตัวแทนขบวนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชน
1 พ.ค. 2565 ในการชุมนุมของสหภาพคนทำงานเนื่องในวันแรงงานสากลที่หน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ นักปกป้องสิทธิมนุษยชนหัวหน้าพรรคสามัญชนและตัวแทนขบวนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชนได้ขึ้นกล่าวในเวทีปราศรัยโดยมีรายละเอียดว่า ประวัติศาสตร์โลกบอกเราว่าประเทศที่มีความก้าวหน้าของขบวนแรงงานคือประเทศที่สามารถโค่นล้มสถาบันกษัตริย์ลงได้ หรืออย่างน้อยที่สุดก็สามารถจำกัดสถาบันกษัตริย์ให้อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญได้ แต่ทุกวันนี้การรวมกลุ่มของพี่น้องกรรมกร พี่น้องแรงงาน พี่น้องคนทำงาน เพื่อเป็นธงนำต่อการเคลื่อนไหวดังกล่าวกลับอ่อนแอมาก เป็นความอ่อนแอจากทั้งการกระทำของรัฐที่ต่อเนื่องยาวนานอย่างน้อยที่สุดก็นับตั้งแต่ช่วงเวลาที่เริ่มประกาศใช้กฎหมายพนักงานรัฐวิสาหกิจหรือกฎหมายแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์แยกออกจากกฎหมายแรงงานสัมพันธ์ และเป็นความอ่อนแอจากการกระทำในขบวนแรงงานเองที่นำพาขบวนแรงงานไปสนับสนุนเผด็จการทหารจากการรัฐประหารสองครั้งล่าสุด
สิทธิในการรวมกลุ่มเป็นสิทธิพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของขบวนแรงงาน การรวมกลุ่มคือการสร้างอำนาจต่อรองของคนงานเพื่อความมั่นคงในชีวิต และต่อสู้รวมกันเพื่อไปสู่ความยุติธรรมในสังคม เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและการเมือง สิทธิในการรวมกลุ่มและการเจรจาต่อรองเป็นเสรีภาพที่คนงานทุกคนต้องทำได้ เพราะอนุสัญญาฉบับที่ 87 และ 98 ขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ หรือ ILO รับรองไว้
สิทธิและเสรีภาพในการรวมกลุ่มของพี่น้องคนงานคืออำนาจต่อรองเพื่อเรียกร้องสภาพการจ้างงาน, เรียกร้อง ‘ค่าจ้างเพื่อชีวิต’ ที่ไม่ใช่ ‘ค่าจ้างขั้นต่ำ’ ซึ่งมาตรฐานแรงงานของ ILO กำหนดให้ประเทศสมาชิก รวมถึงไทยด้วย ต้องคำนึงถึงความยุติธรรมทางสังคมโดยต้องเคารพในสิทธิพื้นฐานของคนงานที่คนงานต้องมีเสรีภาพในการสมาคม การเจรจาต่อรอง และสมานฉันท์แรงงานหลากหลายโดยข้ามโรงงาน/สถานประกอบการ และข้ามกลุ่ม/องค์กร/เครือข่าย/ขบวนเพื่อรวมกันเป็นหนึ่ง
สิ่งเหล่านี้เป็นไปตามอนุสัญญา ILO ฉบับที่ 87 และ 98 ที่ว่าด้วยเสรีภาพในการสมาคมและสิทธิในการรวมกลุ่มและเจรจาต่อรองถือเป็นหลักการพื้นฐานด้านสิทธิมนุษยชนที่สำคัญที่สุดหลักการหนึ่งของ ILO ที่จะเป็นการสร้างหลักประกันสำคัญให้กับคนงาน และจะนำมาซึ่งสังคมที่เป็นธรรม ประเทศสมาชิก ILO ส่วนใหญ่จึงให้การสนับสนุนโดยการให้สัตยาบัน เคารพและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ขณะที่ประเทศไทยซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศสมาชิก ILO ยังไม่ได้ให้สัตยาบันต่ออนุสัญญาทั้งสองฉบับนี้ ทั้ง ๆ ที่มีเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลไทยตัดสินใจลงนามให้สัตยาบันมาอย่างต่อเนื่องยาวนานหลายปี แต่รัฐบาลไทยก็ไม่ลงนาม เพราะกลัวอำนาจต่อรองจากการรวมกลุ่มของพี่น้องคนงานที่จะเป็นพลังมหาศาลในการทำให้อำนาจรัฐและทุนสั่นคลอน โดยเฉพาะรัฐบาลเผด็จการทหารประยุทธ์ที่สืบทอดอำนาจมาตั้งแต่รัฐประหาร 2557 ไม่เพียงแค่ไม่ลงนาม กลับยิ่งทำให้การรวมกลุ่มของพี่น้องคนงานอ่อนแอยิ่งขึ้นไปอีกด้วยการผลักดันกฎหมายควบคุมการรวมกลุ่มของคนงานและพี่น้องประชาชนทั้งหลายด้วยการประกาศใช้กฎหมายชุมนุมสาธารณะและ ‘ร่างพระราชบัญญัติการดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร’
แต่ในขณะที่พี่น้องคนงานถูกบีบทุกทางเพื่อสลายอำนาจต่อรองจากการรวมกลุ่ม จำนนต่อสภาพการจ้างงานที่ถูกกดให้ยากจนและฝืดเคือง และต้องปะทะขัดแย้งกับพวกขบวนแรงงานที่ขายตัวขายวิญญาณให้กับรัฐบาลเผด็จการทหารและชนชั้นศักดินา เช่น คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทยและสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ขบวนแรงงานที่ยึดถือประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนยังคงมีความฝันอันงดงาม ไม่จำนนต่อสภาพสังคม เศรษฐกิจและการเมืองภายใต้รัฐธรรมนูญ 2560 ที่สร้างภาวะเหนือรัฐธรรมนูญของสถาบันกษัตริย์มากจนเกินกว่าสถาบันประชาชนจะยอมรับได้ ด้วยการสร้าง ‘สหภาพคนทำงาน’ ขึ้นมา เพื่อสามัคคีทุกหมู่เหล่าโดยมีอุดมการณ์ทางการเมืองที่ว่าด้วยประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนเป็นสิ่งยึดโยง และนิยามแรงงานใหม่ที่ประชาชน 99 เปอร์เซ็นต์ล้วนคือแรงงานที่จะต้องมีสิทธิและเสรีภาพในการรวมกลุ่มเพื่อสร้างอำนาจต่อรองในการเรียกร้องสภาพการจ้างงานและค่าจ้างเพื่อชีวิตให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป อาทิเช่น พี่น้องแรงงานข้ามชาติ พี่น้องไรเดอร์ พี่น้องชาวไร่ ชาวนา ชาวสวน ชาวประมง พี่น้องแท็กซี่ พี่น้องมอเตอร์ไซค์รับจ้าง พี่น้องรถเข็นขายของขายอาหาร พี่น้องรถขายกับข้าวขายผักผลไม้ พี่น้องเดินเข็นรถและมอเตอร์ไซค์ขายไอติม พี่น้องขายหวยล็อตเตอรี่ พี่น้องเด็กเสิร์ฟ พี่น้องครูอาจารย์ พี่น้องพนักงานออฟฟิศ พี่น้องทำงานบ้านและในครัวเรือน พี่น้อง Try Arm และพี่น้องอื่น ๆ เพื่อร่วมกันสร้าง ผลักดัน ขับเคลื่อนให้บ้านเมืองเราเป็นรัฐและสังคมสวัสดิการให้จงได้
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการจะไปให้ถึงสังคมที่พี่น้องกรรมกร พี่น้องแรงงาน พี่น้องคนทำงานใฝ่ฝันถึง ต้องปรับทัศนคติเสียใหม่ว่าการเรียกร้องสภาพการจ้างงานและค่าจ้างที่เป็นธรรมเพื่อปากท้องของตนเองและหมู่พวกกับอุดมคติและอุดมการณ์ทางการเมืองเป็นเรื่องเดียวกัน ไม่เคยมีเศษเสี้ยวใดในประวัติศาสตร์โลกของขบวนแรงงานแยกเรื่องนี้ออกจากกัน บทเรียนที่แสนเจ็บปวดต่อการแยกเรื่องนี้ออกจากกันก็มีให้เห็นอย่างชัดเจนในสังคมและการเมืองไทย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ขบวนแรงงานเกิดความแตกแยกทางความคิดอย่างรุนแรงมาจนกระทั่งวันนี้ คือ ขบวนแรงงานขบวนใหญ่หลายขบวนหันไปสนับสนุนเผด็จการทหารจากการรัฐประหารสองครั้งล่าสุด และไม่อินังขังขอบใด ๆ ต่อชนชั้นศักดินาที่ขูดรีดหยาดเหงื่อแรงงานหรือมูลค่าส่วนเกินจากพี่น้องกรรมกร พี่น้องแรงงาน พี่น้องคนทำงานเอาไปเป็นความมั่งคั่งในชนชั้น ดังนั้นแล้ว เมื่อปากท้องและอุดมการณ์ทางการเมืองเป็นเรื่องเดียวกัน ขบวนแรงงานยุคใหม่ในนามสหภาพคนทำงานควรเรียกร้องเพื่อให้เกิดนโยบายและกฎหมายที่รับรองสภาพการจ้างงานและค่าจ้างที่เป็นธรรมต่อประชาชน 99 เปอร์เซ็นต์ที่ล้วนคือแรงงานไปพร้อม ๆ กับการเรียกร้องให้มีการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ เพื่อทำลายโครงสร้างที่เป็นยอดปีรามิดในการขูดรีดหยาดเหงื่อแรงงานหรือมูลค่าส่วนเกินของประชาชน 99 เปอร์เซ็นต์
หัวใจของการเรียกร้องทั้งหมดตามที่กล่าวไปนั้น คือ เรียกร้องถึงสิทธิและเสรีภาพในการรวมกลุ่ม ซึ่งเป็นอำนาจต่อรองที่สำคัญยิ่งของพี่น้องกรรมกร พี่น้องแรงงาน พี่น้องคนทำงาน และพี่น้องประชาชนทั้งหลาย
23 พ.ค. นี้ ‘ขบวนต่อต้านร่างกฎหมายทำลายการรวมกลุ่มของประชาชน’ นัดชุมนุมเพื่อต่อต้านคัดค้าน ‘ร่างพระราชบัญญัติการดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร’ เราจะปักหลักอยู่ที่หน้าทำเนียบรัฐบาลจนกว่าจะได้รับคำตอบที่พึงพอใจ จึงขอเชิญชวนพี่น้องกรรมกร พี่น้องแรงงาน พี่น้องคนทำงาน และพี่น้องประชาชนทุกท่านเข้าร่วมการชุมนุมนี้โดยพร้อมเพรียงกันเพื่อล้มร่างกฎหมายควบคุมการรวมกลุ่มของประชาชนให้จงได้
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)