Skip to main content
sharethis

นักกิจกรรม นักการเมือง นักสิทธิ รวมถึงผู้ต้องหาคดีการเมือง 183 รายมีชื่อในเอกสารฝ่ายสืบสวน ตม.สุวรรณภูมิมีเด็กสุด 15 ปี ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ตม.ไม่ยืนยันจริงหรือไม่แค่แจ้งว่าให้ยืนยันกับเจ้าหน้าที่อัพเดตข้อมูลเองแต่ไม่อยู่สำนักงาน ทนายสิทธิตั้งข้อสังเกตเจ้าหน้าที่ใช้อำนาจอะไร เตรียมฟ้องม. 157

ตัวอย่างข้อมูลที่ปรากฏบนเอกสาร

9 ส.ค.2564 ช่วงสายวันนี้มีการเปิดเผยเอกสารรายชื่อนักกิจกรรม นักการเมือง และคนทำงานภาคประชาสังคม รวม 183 รายชื่อที่ถูก “จับตา” (Watchlist) และระบุว่า “ลับที่สุด” และท้ายเอกสารระบุชื่อผู้อัพเดตข้อมูลว่า “พ.ต.ท.หญิง โสภิดาฯ สว.กก.สส.ปป.บก.ตม.2 (กองกำกับการสืบสวนปราบปราม กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2)” โดยมีการอัพเดตเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.2564 เวลา 17.00 น.

ข้อมูลในเอกสารดังกล่าวมีการระบุถึง ชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด เลขบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง สถานะทางคดี สถานภาพการเดินทาง และรูปภาพหน้าตรง

จากการสืบค้นเว็บไซต์ของ บก.ตม.2 พบว่าเป็นหน่วยงานที่ตั้งอยู่ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ผู้สื่อข่าวจึงติดต่อไปที่เบอร์ของกองสืบสวน บก.ตม.2ที่ระบุไว้ในเว็บไซต์ 2 ครั้ง เพื่อสอบถามยืนยันข้อเท็จจริง ครั้งแรกเวลา 15.49 น. ทางเจ้าหน้าที่กองสืบสวนฯ ระบุว่า พ.ต.ท.หญิง โสภิดา ไม่อยู่ที่สำนักงาน ให้ติดต่ออีกครั้งในภายหลัง ผู้สื่อข่าวได้ติดต่ออีกครั้งเมื่อเวลา 17.52 น. ทางเจ้าหน้าที่ปลายสายระบุว่า พ.ต.ท.หญิง โสภิดา เดินทางกลับบ้านไปแล้ว และไม่สามารถให้เบอร์ส่วนตัวของพ.ต.ท.หญิง โสภิดาได้ ให้ลองติดต่อใหม่พรุ่งนี้

ก่อนวางสาย ผู้สื่อข่าวได้ถามว่านอกจาก พ.ต.ท.หญิง โสภิดาแล้วมีคนอื่นในหน่วยงานทราบเรื่องนี้อีกหรือไม่ ทางเจ้าหน้าที่ที่รับสายยังคงยืนยันให้ถามเจ้าตัว

รังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกลที่มีชื่อในเอกสารดังกล่าวด้วยออกมาเปิดเผยผ่านเพจว่านอกจากตัวเขาเองแล้วในเอกสารมีรายชื่อนักการเมืองของพรรคก้าวไกล ได้แก่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค และอมรัตน์ โชคปมิตกุล นอกจากนั้นยังมีแกนนำคณะก้าวหน้าด้วย ได้แก่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ปิยบุตร แสงกนกกุล และพรรณิการ์ วานิช

“หน่วยงานรัฐภายใต้รัฐบาลนี้มองประชาชนและพรรคก้าวไกลเป็นภัยต่อความมั่นคงไปเสียแล้วหรือครับ? หรือได้รับคำสั่งให้มีการ "หมายหัว" ประชาชนที่ไม่สยบยอมต่อรัฐบาลนี้กันแน่? หากนี่เป็นเอกสารจริง ผมว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมีคำตอบแล้วครับ เพราะการเริ่มต้นมองประชาชนในชาติเป็นภัยต่อความมั่นคงโดยไม่มีสาเหตุคือความผิดปกติอย่างยิ่ง และจะยิ่งทำให้สถานการณ์ทางการเมืองที่มีความขัดแย้งรุนแรงอยู่แล้ว ยากต่อการแก้ไขมากกว่าเดิมแน่ๆครับ” รังสิมันต์แสดงความเห็นต่อเอกสารดังกล่าว

เยาวลักษ์ อนุพันธุ์ หัวหน้าศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน 1 ในบุคคลที่มีชื่ออยู่ในเอกสารดังกล่าวด้วยให้สัมภาษณ์ ในเอกสารมีชื่อของทนายความของศูนย์ทนายความฯ ด้วยอีก 1 คน

“ถ้ามองในทางกฎหมายก็ต้องถามว่าเขาใช้อำนาจตามกฎหมายอะไรในการใส่ชื่อเรา” นอกจากนั้นทนายความด้านสิทธิมนุษยชนตั้งข้อสังเกตอีกว่าเหมือนกับหน่วยงานรัฐไม่ได้มองว่าเป็นคนที่ทำงานด้านสิทธิมนุษยชนที่ให้ความช่วยเหลือทางด้านกฎหมายแก่ผู้ต้องหาคดีการเมืองแต่กลับมองเป็นภัยความมั่นคงของรัฐ ซึ่งรัฐไม่มีความเข้าใจบทบาทของนักกฎหมายกับเรื่องสิทธิมนุายชน และยังมีปัญหาอีกว่าจะเป็นการใช้อำนาจโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายด้วย

เยาวลักษณ์ระบุว่านอกจากเธอแล้วในเอกสารก็ยังมีชี่อของนักการเมืองพรรคก้าวไกล คนทำงานภาคประชาสังคมอย่างไอลอว์ กลุ่มนักกิจกรรมที่ถูกดำเนินคดีและคนที่ถูกดำเนินคดีด้วยข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ด้วย ซึ่งคนเหล่านี้เขายังไม่ถูกศาลพิพากษาตัดสินว่ามีความผิดยังเป็นเพียงผู้ต้องหาเท่านั้น

“ก็คงต้องฟ้องตาม ม.157 เพื่อให้เขามาชี้แจงว่าเขาใช้อำนาจอะไร” เยาวลักษณ์ระบุถึงแนวทางหลังจากนี้ โดยตอนนี้มีการประสานกันบ้างแล้วว่าจะมีการดำเนินการไปฟ้องเป็นคดีต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบต่อไป

เยาวชนอายุ 15 ปีที่โดน ม.112 รับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มจากเหตุชุมนุม #ม็อบ20มีนา

ทั้งนี้ในเอกสารดังกล่าวยังปรากฏชื่อของเยาวชนอายุ 15 ปีที่ถูกดำเนินคดีด้วยม.112จากการเข้าร่วมชุมนุมและแสดงออกทางการเมืองด้วยคือ เสกจิ๋ว (นามสมมติ) และโป๊ยเซียน (นามสมมติ) จากเหตุเมื่อวันที่ 20 มี.ค.2564

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net