‘วิโรจน์’ เผย กรมควบคุมโรค ย้ำชัด ‘สยามไบโอไซเอนซ์’ เอี่ยวรัฐบาลแน่นอน เรียกร้องจัดหา  Rapid Test Antigen ให้ประชาชนตรวจฟรี แลกกับภาษีที่ต้องจ่าย  ยัน ‘ก้าวไกล’ ยังลุยต่อ กมธ.งบ 65 เพื่อพิทักษ์ภาษีประชาชน แม้สภาสั่งงดประชุม 2 สัปดาห์ ร้องรัฐบาลเพิ่มจุดตรวจฟรีให้กับประชาชนเพื่อลดอัตราการเเพร่เชื้อ

12 ก.ค.2564 ทีมสื่อพรรคก้าวไกล รายงานว่า วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนรูปแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัย เเละสอดรับกับมาตรการของสาธารณสุขป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา 2019 โดยได้กล่าวถึงการเปิดเผยเอกสารสัญญาวัคซีนของบริษัทแอสตราเซเนกา ว่า เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 64 ทางพรรคก้าวไกลได้เปิดเผยสัญญาของแอสตราเซเนกา ,ร่างเอกสารแสดงความจำนงค์ และสัญญาการจองวัคซีนล่วงหน้า บนเว็บไซต์และเฟสบุ๊กแฟนเพจของพรรค โดยขั้นตอนการขอเอกสาร ได้ปฏิบัติตามอย่างถูกต้อง

• เริ่มจากวันที่ 24 ม.ค.64 ได้ยื่นไปขอสัญญาที่สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข และสำนักปลัดนายกรัฐมนตรี
• จากนั้นวันที่ 5 ก.พ. สำนักปลัดนายกรัฐมนตรีและสำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุขได้มีหนังสือตอบกลับมา โดยระบุให้ไปขอสัญญดังกล่าวที่สถาบันวัคซีนแห่งชาติเเละกรมควบคุมโรค ซึ่งก็มีข้อสังเกตว่า เหตุใดไม่ประสานงานให้เนื่องจากเป็นหน่วยงานในกระทรวงเดียวกัน 
• จากนั้น 10 ก.พ. สำนักปลัดนายกรัฐมนตรี แจ้งมายังตนว่าได้ส่งเรื่องไปยังกระทรวงสาธารณสุขเรียบร้อยเเล้ว โดยในวันที่ 16 มีนาคม ตนได้ไปยื่นขอสัญญาที่ สถาบันวัคซีนแห่งชาติเเละกรมควบคุมโรค ซึ่งในวันนั้นมีกลุ่มชายนิรนามสวนใส่เสื้อกลับด้านโดยเสื้อด้านในมีสัญลักษณ์คล้ายเป็นโลโก้พรรคการเมืองพรรคร่วมรัฐบาลพรรคหนึ่งออกมาขัดขวาง
• จากนั้นทางสถาบันวัคซีนแห่งชาติได้มีหนังสือตอบกลับมาถึงความคืบหน้า ในวันที่ 14 พ.ค. ว่า อยู่ระหว่างการเจราจากับหน่วยงานเอกชนที่เกี่ยวข้องในการเปิดเผยสัญญา ในขณะที่กรมควบคุมโรคไม่ได้ทำหนังสือชี้เเจงความคืบหน้าใดใดกลับมา 
• 4 มิ.ย. สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ได้จัดส่งสัญญาการจัดซื้อวัคซีนล่วงหน้า ซึ่งน่าจะเป็นสัญญาการจัดซื้อวัคซีน 26 ล้านโดส ยังไม่ได้รวมอีก 35  ล้านโดส ซึ่งผู้ที่รับผิดชอบคือกรมควบคุมโรค และยังส่งหลักเกณฑ์ในการเลือกเเละสนับสนุนจากบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์มา และสัญญการควักทุนอุดหนุนโครงการเพื่อเตรียมความพร้อมในการผลิตวัคซีน ที่บริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ได้รับไป มาให้ที่ทำการพรรคก้าวไกล 
• วันที่ 9 ก.ค. ตนได้ไปยื่นขอสัญญาแอสตราฯ เเละซิโนเเวค ที่สถาบันวัคซีนแห่งชาติ อีกครั้ง รวมถึงไปยื่นขอสัญญาแอสตรา เเละซิโนเเวค ไฟเซอร์ ที่กรมควบคุมโรค และยื่นขอให้นายรัฐมนตรีเปิดเผยมติคณะรัฐมนตรีจากการจัดซื้อจัดหา ซิโนเเวด โมเดอร์นา เเละไฟเซอร์ ที่สำนักปลัดนายกรัฐมนตรี และไปยื่นขอสัญญาโมเดอร์นาที่องค์การเภสัชกรรม โดยตรวจสอบพบว่า สถาบันวัคซีนแห่งชาติได้ส่งเอกสารทั้งหมดมายังพรรคก้าวไกลตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมิถุนายน
• วันที่ 10 ก.ค.มีการเผยเเพร่คำชี้เเจงว่าสถาบันวัคซีนแห่งชาติได้ส่งหนังสือมายังตน ซึ่งตนได้เเจงไปเเล้ว โดยได้มีการเผยเเพร่หนังสือดังกล่าวที่กรมควบคุมโรคตามเหตุผลเบื้องต้นเเละขอน้อมรับในความผิดพลาดที่เกิดจากระบบการส่งเอกสาร

“ผมขอเรียกร้องให้กรมควบคุมโรคจัดส่ง หนังสือสัญญาวัคซีนแอสตราเซเนกาจำนวน 35 ล้านโดสให้ตนด้วย อย่างไรก็ตาม ข้อสังเกตพบว่า ข้อมูลสัญญาที่ได้รับนั้น ข้อความจำนวนมากถูกคาดดำเกือบทั้งหมด ทั้งเงื่อนไขผูกพันธ์และกรณีรับผิดชอบหากส่งไม่ครบ เเละในเงื่อนไขที่ตัดสินใจสนับสนุนเงิน 600 ล้านบาทให้สยามไบโอไซเอนซ์  ที่ระบุว่า รัฐบาลไทยจะมีสิทธิรับวัคซีนเพื่อป้องกันก่อน ที่เหลือแอสตราเซเนกาไทยเเลนด์จะส่งทยอยมอบ ตนพยายามค้นข้อมูลทั้งหมดที่ไม่คาดดำ เบื้องต้นยังไม่พบ จะไปดูในรายละเอียดต่อไป ส่วนกรณีที่แอสตราเซเนกาไทยเเลนด์ตั้งราคาขายวัคซีนให้กับประเทศไทยสูงกว่าปกติหรือไม่นั้นก็ถูกคาดดำไว้เช่นกัน เเต่เงื่อนไขราคาถูกเปิดเผยเเล้วในเว็บไซต์ต่างประเทศ ตรงนี้เราจึงตั้งข้อสังเกตไว้ หากข้อมูลไม่จริง ทางสถาบันวัคซีนแห่งชาติคงต้องชี้เเจงเพิ่มเติมต่อไป”

อย่างไรก็ตาม ในสัญญารัฐบาลไทยกับแอสตราเซเนกาไทยเเลนด์ ได้ปรากฎชื่อ บริษัทสยามไบโอไซแอนซ์ด้วย เเสดงว่า เงื่อนไขในการทำนิติกรรมต่างๆ ระหว่างบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ รัฐบาลไทย กับแอสตราเซเนกาไทยเเลนด์  ไม่ได้เป็นอิสระต่อกันตามที่ปรากฎไว้เเต่เเรก ตามที่เคยมีการกล่าวอ้างว่ารัฐบาลไทยไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยเลยจึงไม่เป็นความจริง สำหรับเอกสารเบื้องต้น พรรคก้าวไกลได้เปิดให้ดาวโหลดเอกสาร ประกอบด้วยเอกสารสำคัญ 3 ฉบับ คือ หนังสือเเสดงความจำนงค์ในการทำสัญญา , สัญญาจองล่วงหน้าในการจัดซื้อวัคซีน เเละสัญญาการซื้อวัคซีนจำนวน 26 ล้านโดส ที่ทำโดยสถาบันวัคซีนแห่งชาติ สำหรับ สัญญาวัคซีนอีกกรณี 35 ล้านโดส กรมควบคุมโรคจะต้องทำหนังสือชี้เเจงตนกลับมาใน 14 วัน ทั้งนี้ ความคืบหน้าระหว่างที่ตนรอผลตรวจโควิด ได้ให้ผู้ช่วย ส.ส. ไปยื่นขอสัญญาซิโนเเวด ที่องค์การเภสัชกรรม โดยตนพยายามเรียกร้องรัฐบาลเปิดเผยสัญญาทั้งหมด เพื่อแสดงความสุจริตของรัฐบาล

วิโรจน์ กล่าวต่อไปถึงประเด็นการใช้เครื่องตรวจโควิดเเบบ Rapid Antigent Test ที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ แต่มีข้อเรียกร้องจากประชาชนว่าค่าเครื่องตรวจมีราคาสูงคือ 300-400 บาท พรรคก้าวไกลขอเรียกร้องในการป้องกันการเเพร่ระบาดที่เกิดขึ้น รัฐบาลควรจะให้ประชาชนมีสิทธิ์ในการเบิกชุดตรวจ Rapid Antigent Test  เช่น อัตรา 1 ชุดต่อสัปดาห์ เเละมีเงื่อนไขให้ระบุผลตรวจมาให้รัฐบาลทราบเพื่อบันทึกเป็นฐานข้อมูลผ่านระบบออนไลน์ หรือทันสมัยไปกว่านั่นคือให้ลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ เพื่อเป็นการยืนยันเเละให้สวัสดิการเเห่ประชาชนไม่ต้องจ่ายเองถึง 300- 400 บาท ซึ่งเทียบเท่ากับค่าเเรงขั้นต่ำให้ประชาชน เเละในประเด็นของเรื่องของ Home Isolation การกักตัวรักษาที่บ้าน ที่รัฐได้ปลดล็อกเเละโรงพยาบาลไม่มีข้อผูกพันธ์ในการรับแอดมิดว่าต้องจากการตรวจแบบ RT- PCR ซึ่งการทำ Home Isolation ทางพรรคก้าวไกลเรียกร้องให้มาควบคู่กับระบบทางเเพทย์ทางไกลหรือ  Tele Medicine ที่จะต้องมีการจัดหายาและการจัดส่งอาหารระหว่างรักษาตัวเอง 14 วัน และการติดต่อฉุกเฉินเพื่อให้ รพ.มารับตัวหากอาการไม่ดีขึ้น เเต่หากไม่มีระบบนี้จะไม่เเตกต่างจากการให้พวกเขารักษาตัวเองตามยถากรรม

ในประเด็นฉีดวัคซีน พบหลายพื้นที่ยังถูกลอยเเพ ตนตั้งข้อสังเกตว่าเกิดจากฐานข้อมูลที่ไม่เชื่อมโยงกันของหมอพร้อม หรือ ​MOPH-IC กับการจองวัคซีนกับหน่วยงานต่างๆ พรรคก้าวไกลขอเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขให้ระบบข้อมูลเชื่อมต่อด้วยกันอย่างเร็วขึ้น เพื่อกระจายจุดฉีดวัคซีน จุดลงทะเบียน รวมไปถึงกระจายสต็อควัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพ เเละหากมีการระบาดระหว่างการรอคิว จะเป็นเรื่องที่น่ากังวลเป็นอย่างมาก ดังนั้น ในการส่งมอบวัคซีนแอสตราเซเนการัฐบาลจะต้องติดตามให้ตรงตามแผนที่สัญญาไว้กับประชาชน คือ 10 ล้านโดสในเดือน ก.ค.-พ.ย. และ 5 ล้านในเดือน ธ.ค. หากส่งมอบไม่ครบรัฐบาลจะต้องเร่งรัดจัดการเพื่อปกป้องการดำเนินชีวิตเเก่พี่น้องประชาชน ซึ่งนี่เป็นเงื่อนไขรัฐบาลให้สัญญากับประชาชน โดยเอาเงิน 600 ล้านบาทภาษีประชาชนไปอุดหนุนบริษัทเอกชนที่ชื่อสยามไบโอไซเอนซ์

ยัน ‘ก้าวไกล’ ยังลุยต่อ กมธ.งบ 65 เพื่อพิทักษ์ภาษีประชาชน แม้สภาสั่งงดประชุม 2 สัปดาห์ ร้องรัฐบาลเพิ่มจุดตรวจฟรีให้กับประชาชนเพื่อลดอัตราการเเพร่เชื้อ

วิโรจน์ กล่าวถึงแนวทางการปฏิบัติงานของพรรคก้าวไกล หลังจากกรณีที่ ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.ของพรรคก้าวไกล ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ว่า จากกรณีที่ ส.ส.ณัฐชา ติดเชื้อโควิดมาจากการปฏิบัติหน้าที่ และได้รับการรักษาตามขั้นตอนของกระทรวงสาธารณสุข  โดยเมื่อวานนี้ ( 11 ก.ค. )  ทางพรรคก้าวไกลได้ติดต่อสถานพยาบาลเอกชนให้ ส.ส.ของพรรค ก้าวไกล ที่ปฏิบัติงานร่วม ส.ส.ณัฐชา ตรวจหาเชื้อแบบ PCR แล้วเป็นที่เรียบร้อย อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า การปฏิบัติงานร่วมกันกับ ส.ส.ณัฐชา ทุกคนสวมหน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัด มีเพียงช่วงการรับประทานอาหารเท่านั้นที่มีการถอดหน้ากากอนามัย อย่างไรก็ดี เราต้องเเสดงความรับผิดชอบต่อสังคม จึงเข้ารับการตรวจ จาการประเมินเบื้องต้นของ ส.ส.ที่เข้าตรวจ เเต่ละท่านเเข็งเเรง ไม่อาการเจ็บป่วย นอกจากนี้ ตนขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลว่าต้องเพิ่มจุดตรวจให้กับประชาชนฟรี ส่วนในการตรวจของ ส.ส.พรรคก้าวไกล ครั้งนี้เป็นการออกค่าใช้จ่ายด้วยตนเองและเป็นการติดต่อไปยังรพ.เอกชน ด้วยการติดต่อแบบปกติ ไม่ได้ใช้ช่องทางใดๆ คาดว่าจะทราบผลในเวลาประมาณ 15.00-16.00น. 

ทั้งนี้ วิโรจน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับ ส.ส.ที่สัมผัสใกล้ชิดหรือผู้ที่ร่วมงานกับ ส.ส.ณัฐชา จะต้องกักตัว 14 วัน สอดคล้องกับการที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร สั่งงดประชุม 2 สัปดาห์ ส่วน ส.ส.ที่ไม่ได้มีประวัติสัมผัสจะปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ซึ่งส่วนหนึ่งจะปฏิบัติหน้าที่เป็นกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการวิสามัญการพิจารณารายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 เพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ของประชาชน 

รายงานข่าวระบุด้วยว่าล่าสุด ผลการตรวจออกมาแล้วว่าเป็นลบ ไม่มีการติดเชื้อแต่ยืนยันว่าผู้สัมผัสใกล้ชิดจะกักตัวต่อ 14 วันเพื่อสังเกตอาการต่อไป