Skip to main content
sharethis

พรรคคอมมิวนิสต์แสดงความไม่พอใจชาติตะวันตกที่คว่ำบาตรเจ้าหน้าที่จีนซึ่งถูกวิจารณ์เรื่องละเมิดสิทธิมนุษยชน และกลุ่มแบรนด์สิ่งทอที่คว่ำบาตรการรับซื้อฝ้ายเนื่องจากอาจเกี่ยวข้องกับค่ายกักกันซินเจียง

การโจมตีจากพรรครัฐบาลจีนในครั้งนี้เริ่มต้นจากการที่กลุ่มยุวชนของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเรียกร้องให้คนสนใจเรื่องถ้อยแถลงของบริษัทสิ่งทอสัญชาติสวีเดน H&M ที่เคยแถลงเมื่อปีที่แล้วว่าจะหยุดซื้อฝ้ายที่ปลูกในซินเจียงเนื่องจาก "เป็นห่วงอย่างลึกซึ้ง" เกี่ยวกับรายงานที่ว่ามีการบังคับใช้แรงงานทาสในพื้นที่เหล่านี้

จากนั้นวันที่ 25 มี.ค. โกลบอลไทม์ระบุถึงกรณีบริษัทอย่างเบอร์เบอร์รี, อาดีดาส, ไนกี้, นิวบาลานซ์ ต่างก็เคยยกเลิกการซื้อฝ้ายจากซินเจียงตั้งแต่เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตามด้วยดาราดังหวังอี้ป๋อประกาศว่าจะเลิกสัญญาการโฆษณาให้กับ H&M และไนกี้ โดยไม่ได้ระบุถึงประเด็นซินเจียงโดยตรงตอนแถลงในเรื่องนี้ แต่กล่าวหาว่าแบรนด์เหล่านี้ "ใช้คำพูดที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อจีน"

รัฐบาลจีนมักจะแถลงโจมตีบริษัทต่างชาติไม่ว่าจะเป็นบริษัทเสื้อผ้า, ยานยนต์, การท่องเที่ยว และสินค้าอื่นๆ จากปฏิบัติการที่มาจากรัฐบาลสัญชาติเดียวกับบริษัทเหล่านี้ และมักจะกดดันให้บริษัทเหล่านี้ต้องกระทำตามจุดยืนของทางการจีนในประเด็นไต้หวัน, ทิเบต และประเด็นอ่อนไหวอื่นๆ ของจีน

แม้ว่าในหลายกรณีจะทำให้บริษัทข้ามชาติเหล่านี้เปลี่ยนแปลงเว็บไซต์หรือการโฆษณาของตนเองเพื่อให้สามารถเข้าถึงตลาดที่มีประชากรขนาดใหญ่ในจีนได้ แต่กรณีซินเจียงดูจะเป็นขวากหนามสำหรับจีนมากเป็นพิเศษ บริษัทตะวันตกเหล่านี้เผชิญกับการกดดันภายในประเทศของพวกเขาเองให้ต้องเอาตัวออกห่างจากเรื่องการครหาละเมิดสิทธิมนุษยชนในพื้นที่

นักวิจัยจากต่างชาติและรัฐบาลหลายแห่งระบุว่า ในเขตปกครองตนเองซินเจียงมีค่ายกักกันปรับทัศนคติประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ขณะที่ทางการจีนปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ระบุว่าไม่ได้ล่วงละเมิดพวกเขาแต่เป็นการพยายามส่งเสริมเศรษฐกิจและทำลายแนวคิดหัวรุนแรง

ในวันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป 27 ประเทศ ร่วมถึง สหรัฐอเมริกา, อังกฤษ และแคนาดา แถลงร่วมกันว่าว่าจะทำการคว่ำบาตรทางการเงินกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีน 4 คน จากกรณีการละเมิดสิทธิมนุษยชนในซินเจียง

ทางการจีนโต้ตอบด้วยการประกาศว่าจะมีบทลงโทษโดยไม่ได้ระบุว่าเป็นบทลงโทษอะไรต่อนักการเมืองยุโรปและนักวิจัยเยอรมนีที่เผยแพร่ข้อมูลเรื่องเกี่ยวกับค่ายกักกันปรับทัศนคติในอุยกูร์

สำหรับกรณีการคว่ำบาตรวัตถุดิบฝ้ายโดย H&M ตั้งแต่ปีที่แล้วนั้น มีการอ้างว่าเป็นการตัดสินใจของกลุ่มส่งเสริมมาตรฐานสิ่งแวดล้อมและแรงงานอุตสาหกรรมฝ้ายที่เรียกว่า "กลุ่มริเริ่มเบตเทอร์คอตตอน" ที่ต้องการหยุดยั้งการจดทะเบียนให้กับฝ้ายจากซินเจียง เนื่องจากมีความยากลำบากมากขึ้นที่จะตรวจหาว่าผลิตมาจากไหน ในเวลาต่อมา H&M ก็ประกาศว่า พวกเขาจะหยุดร่วมงานกับผู้ผลิตจีนโดยกล่าวหาว่ามีการบังคับใช้แรงงานทาสในหน่วยการแปรรูปที่ไม่เกี่ยวกับ H&M

ทั้งนี้ในเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา สหรัฐฯ สั่งแบนฝ้ายจากซินเจียง ซึ่งเป็นผู้จัดหาวัตถุดิบฝ้ายแหล่งใหญ่ที่สุดสำหรับตลาดตะวันตก

มีการตั้งข้อสังเกตว่า ทางการจีนเน้นแสดงความไม่พอใจต่อบริษัทจากยุโรปมากกว่าจากสหรัฐฯ เนื่องจากพวกเขาเคยมีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างเป็นมิตรกับยุโรปอยู่ก่อนหน้านี้ ขณะที่กำลังมีประเด็นพิพาททางการค้ากับสหรัฐฯ ทำให้ลักษณะการวิจารณ์ของจีนคล้ายกับการตัดพ้อเพราะเสียความรู้สึกจากมิตร เช่น โทรทัศน์ช่องรัฐบาลจีนที่แถลงว่า "H&M ยังคงกินข้าวของจีนอยู่ได้อย่างไรในขณะที่ทุบหม้อข้าวของจีนเช่นนี้"

25 มี.ค. มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตชี้ให้เห็นว่าแบรนด์เสื้อผ้าอื่นๆ อย่างยูนิโคล่ของญี่ปุ่น และเดอะแก็ปของสหรัฐฯ ก็อาจจะเป็นกลุ่มที่ทำการคว่ำบาตรจีนกรณีซินเจียงด้วยเช่นกัน แต่สื่อไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าในจำนวนผู้ใช้งานเหล่านี้เป็นประชาชนจริงๆ มากเท่าใด เนื่องจากอาจเป็นปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารโฆษณาชวนเชื่อให้รัฐบาล

นอกจากกรณีที่ดาราหวังอี้ป๋อยกเลิกการเป็นทูตให้แบรนด์ไนกี้แล้ว ยังมีดารารายอื่น เช่น หวงซวน และซ่งเชี่ยน หรือ "วิกเตอเรีย ซ่ง" นักร้องนักแสดงหญิงที่เคยเป็นสมาชิกกลุ่มเคป็อบ f(x) ประกาศจะยกเลิกสัญญากับ H&M เช่นกัน ขณะที่ถานซ่งอวิ๋นประกาศว่าจะเลิกสัญญากับไนกี้

แบรนด์รองเท้ากีฬาสัญชาติจีน ANTA ก็โต้ตอบการแบนกรณีซินเจียงของแบรนด์ตะวันตกด้วยการประกาศว่า จะออกจากการเป็นสมาชิกสมาคมอุตสาหกรรม "เบตเทอร์คอตตอน" ที่ทำให้ H&M แบนฝ้ายจากซินเจียง

เรียบเรียงจาก China attacks H&M and other Western clothing, shoe brands over Xinjiang, Euro News, 25-03-2021

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net