Skip to main content
sharethis
จากที่รัฐบาลกัมพูชาทำทุกวิถีทางเพื่อกำจัดฝ่ายค้านและผู้วิพากษ์วิจารณ์รวมถึงการยุบพรรคสงเคราะห์ชาติ เมื่อไม่นานนี้ก็มีคำสั่งเพิกถอนหนังสือเดินทางทูตของพรรคฝ่ายค้านซึ่ง ส.ว. ฝ่ายค้านวิจารณ์ว่าเป็นการคุกคามกันมากขึ้นไปอีก ด้านนักวิเคราะห์ชี้เป็นหนึ่งในกระบวนการหลังยุบพรรคและถอดฝ่ายค้านจากตำแหน่งอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ปฏิเสธว่ามีการรังแกกันทางการเมืองจริงในกัมพูชา
 
2 ธ.ค. 2560 นักการเมืองจากพรรคแกนนำฝ่ายค้านของกัมพูชาเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา (30 พ.ย.) ว่ารัฐบาลฮุนเซนสั่งเพิกถอนหนังสือเดินทางทูตของเจ้าหน้าที่พรรคการเมืองและ ส.ส. 56 ราย ถือเป็นการพยายามคุกคามพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามหลังจากที่มีการสั่งยุบพรรคก่อนหน้านี้
 
สอ จันเดช (Sor Chandeth) เป็นหนึ่งในวุฒิสมาชิกที่ถูกเพิกถอนหนังสือเดินทางทูตจากนักการเมือง 56 ราย กระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศของกัมพูชายังประกาศให้หนังสือเดินทางทูตของพวกเขาเป็นโมฆะและไม่มีผลตามกฎหมายด้วย
 
จันเดชกล่าวว่า อะไรก็เกิดขึ้นได้ในประเทศที่เสถียรภาพทางการเมืองแขวนอยู่บนเส้นด้ายและทุกอย่างถูกตัดสินใจตามอำเภอใจโดยบุคคลคนเดียว ซึ่งจันเดชหมายถึงนายกรัฐมนตรีฮุนเซนที่อยู่ในอำนาจมานานเกือบ 33 ปีแล้ว จันเดชกล่าวอีกว่ารัฐบาลไม่สามารถเพิกถอนหนังสือเดินทางทูตของพวกเขาได้ และการแบนพวกเขาออกจากการเมืองก็เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายมาตั้งแต่ต้น
 
ก่อนหน้านี้ศาลสูงสุดของกัมพูชาเคยสั่งยุคพรรคฝ่ายค้าน CNRP มาก่อนและหลังจากนั้นก็บีบให้สมาชิกต้องย้ายข้างไปเข้ากับพรรครัฐบาล CPP อีกทั้งยังมีการเตือนว่าสมาชิกที่หนีไปอยู่ประเทศไทยจะถูกส่งตัวกลับมา
 
จันเดชยังพูดในเชิงไม่ไว้ใจกระบวนการยุติธรรมในกัมพูชาโดยเขาเชื่อว่ากระบวนการศาลในกัมพูชามีพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลชักใยอยู่ และกล่าวว่าฮุนเซนพยายามปราบปรามฝ่ายค้านเพื่อรับกับการเลือกตั้งระดับประเทศที่กำลังจะมีขึ้นในอีก 7 เดือนข้างหน้า
 
สร ชัย (Sorn Chey) ผู้อำนวยการบริหารของเครือข่ายเพื่อการตรวจสอบทางสังคมในเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกที่มีฐานในกัมพูชากล่าวว่าการสั่งระงับหนังสือเดินทางในครั้งนี้เป็นแค่กระบวนการบริหารทั่วไปตามระเบียบวาระเท่านั้น เพราะเจ้าหน้าที่พรรค CNRP ถูกขับออกจากตำแหน่งงานหลังจากที่พรรคของพวกเขาถูกยุบพรรค และแม้ว่าหนังสือเดินทางทูตจะถูกระงับเพิกถอนแต่พวกเขาก็ยังใช้หนังสือเดินทางปกติทั่วไปได้ นอกจากหนังสือเดินทางทูตแล้วเอกสารทางการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งของพวกเขาก็จะถูกทำให้เป็นโมฆะและไม่มีผลตามกฎหมายด้วย
 
ทั้งนี้ สร ชัย ก็วิจารณ์การที่รัฐบาลกัมพูชาพยายามกำจัดฝ่ายตรงข้าม ละเมิดเสรีภาพสื่อ และกดขี่ข่มเหงองค์กรภาคประชาสังคม จะส่งผลกระทบทางลบในระยะยาวต่อความสัมพันธ์ของกัมพูชากับนานาชาติ
 
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมารัฐบาลฮุนเซนเผชิญกับการถูกประณามจากกลุ่มด้านสิทธิมนุษยชนและประชาคมนานาชาติทั้งจากการรุกไล่ฝ่ายค้าน การอ้างปิดสื่ออิสระ และการปราบปรามเอ็นจีโอ
 
นอกจากกรณีการเพิกถอนหนังสือเดินทางทูตแล้ว ยังมีกรณีที่เจ้าหน้าที่พรรค CNRP 3 รายออกจากตำแหน่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (NEC) หลังจากที่พรรค CNRP ถูกสั่งยุบพรรค จากนั้นรัฐบาลกัมพูชาก็เอาคนของพรรครัฐบาลเข้าไปสวมตำแหน่งแทน นอกจากนี้ยังมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งใหม่ของสมาชิกรัฐสภาและสมาชิกสภาชุมชนให้กลายเป็นฝ่ายเดียวกับรัฐบาล
 
เรดิโอฟรีเอเชียระบุรายละเอียดว่าหลังจากที่มีคณะทำงานพรรค CNRP 3 รายลาออกจากตำแหน่งในคณะกรรมการการเลือกตั้งของกัมพูชาก็มีการเสนอชื่อผู้เข้ารับตำแหน่งใหม่บางส่วนมาจากพรรค CPP บางส่วนมาจากพรรคเล็กๆ มีอดีตผู้พิพากษาที่ถูกมองว่า "เป็นกลาง" หนึ่งราย
 
มาศ นาย (Meas Ny) นักวิเคราะห์การเมืองกัมพูชากล่าวว่าการแต่งตั้งกรรมการการเลือกตั้งใหม่นั้นชวนให้ตั้งคำถามต่อความเป็นอิสระขององค์กรว่าจะกลายเป็นแค่ตรายางให้ฝ่ายรัฐบาลปัจจุบันของกัมพูชาเท่านั้น นัยบอกว่าความเป็นอิสระของคณะกรรมการการเลือกตั้งกัมพูชาเป็นสิ่งที่จำเป็นในการฟื้นฟูความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ของกัมพูชาในสายตาต่างชาติให้กลับคืนมา การเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรมไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นแค่ในวันเลือกตั้งเท่านั้น แต่รวมถึงทั้งกระบวนการช่วงก่อนเลือกตั้ง ตัวการเลือกตั้งเอง และช่วงหลังเลือกตั้งที่ต้องนำมาพิจารณาด้วย
 
กัน สว่าง (Kan Savang) ผู้ประสานงานการสอดส่องการเลือกตั้งขององค์กรเพื่อการเลือกตั้งอย่างเสรีและยุติธรรม (Confrel) ของกัมพูชาก็ตั้งคำถามต่อความชอบธรรมในการแต่งตั้งสมาชิกใหม่ของคณะกรรมการการเลือกตั้งกัมพูชาเช่นกัน โดยยกเรื่องที่มีผู้เสนอชื่อเข้ารับตำแหน่งสองคนจากสองพรรคการเมืองที่ไม่ได้ชนะการเลือกตั้งเลยแม้แต่ที่นั่งเดียวในปี 2556 นอกจากนี้เหตุการณ์ในช่วงที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้มีแต่การบีบเค้นทางการเมืองฝ่ายตรงข้ามจนนำมาซึ่งคำสั่งยุบพรรคในที่สุด
 
 
 
เรียบเรียงจาก
 
Cambodian Opposition Sees Revocation of Diplomatic Passports as Further Harassment, Radio Free Asia, 30-11-2017

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net