Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

 

กีฬาฟุตบอลกลายเป็นกีฬายอดนิยมอันดับหนึ่งของโลก ในขณะที่มหกรรมฟุตบอลโลกครั้งที่ 20 ที่บราซิลกำลังจะเปิดประเดิมสนามในวันที่ 12 มิถุนายน นี้ ซึ่งบราซิลที่เป็นเจ้าภาพ คาดหมายว่า จะสามารถครองถ้วยแชมป์โลกเป็นครั้งที่ 6 เพื่อปลอบประโลมประชาชน ขณะที่ประเทศกำลังเผชิญปัญหาทางการเมืองและเศรษฐกิจ

ในประวัติศาสตร์ กีฬาที่ใช้ลูกบอลเป็นอุปกรณ์การเล่นมีมาช้านาน เช่นในจีนโบราณ มีการเล่นคูจู ที่ใช้ลูกบอลหนังในการละเล่น และมีกติกาการเล่นอันชัดเจน แต่กีฬาฟุตบอลสมัยใหม่ที่จะเปิดแข่งขันถือว่าเริ่มต้นพัฒนาและกลายเป็นการเล่นกีฬาอย่างจริงจังในยุโรป และประเทศแรกที่มีการสร้างกฎกติกาการเล่น อันจะนำมาสู่การแข่งขันฟุตบอลในปัจจุบัน ก็คืออังกฤษ

กีฬาฟุตบอลอังกฤษเริ่มต้นจากพัฒนาของระบบโรงเรียนสอนหนังสือเยาวชนผู้ชาย ที่ชัดเจนตั้งแต่ก่อน ค.ศ.1800 ในระยะแรกเยาวชนชายที่เรียนหนังสือยังมาจากสกุลขุนนางและชนชั้นสูง โรงเรียนที่ตั้งขึ้นก็เป็นการสอนความรู้แบบสมัยใหม่ก่อนเข้ามหาวิทยาลัย และได้มีการกำหนดให้มีการออกกำลังกายสำหรับนักเรียนเพื่อให้มีร่างกายแข็งแรง จึงได้เริ่มมีการสร้างเกมการแข่งขัน และนำมาสู่การพัฒนากีฬาลูกบอลโดยเฉพาะฟุตบอล รักบี้ และคริกเก็ต เพราะจากโรงเรียนเหล่านี้ จะเริ่มมีการกำหนดให้ผู้ที่ต้องการเล่นเกมลูกบอลเป็นอุปกรณ์ต้องรวมกันเป็นทีมสำหรับแข่งขัน และ มีการสร้างกติกาการแข่งขันของตนเอง

หลังจาก ค.ศ.1800 เกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรมและนำมาซึ่งการเกิดชนชั้นกรรมกรอังกฤษ คนงานในสมัยนั้น ต้องทำงาน 6 วันต่อสัปดาห์ หรือทำงานถึง 12 ชั่วโมงต่อวัน คนงานเหล่านี้จึงไม่มีเวลาพักผ่อน และนำมาสู่การประท้วงต่อต้าน ดังนั้น ใน ค.ศ.1850 รัฐสภาอังกฤษจึงได้ออกกฎหมายโรงงาน ให้ลดเวลาการทำงาน เพื่อให้คนงานมีเวลาพักผ่อนมากขึ้น และกำหนดให้วันเสาร์ โรงงานต้องหยุดเวลาบ่ายสองโมง ให้คนงานได้พักผ่อน กีฬาฟุตบอลจึงเริ่มเป็นที่นิยมในหมู่เยาวชนชนชั้นคนงาน ที่ใช้เล่นกันเวลาบ่ายวันเสาร์ ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มของการเกิดทีมฟุตบอลในบริเวณภาคกลางของอังกฤษ ที่เป็นแหล่งผลิตอุตสาหกรรม และมีคนงานจำนวนมาก

ในเกาะอังกฤษขณะนั้น ได้เกิดการปฏิวัติด้านการขนส่งด้วยการพัฒนาของทางรถไฟระหว่างเมือง ตั้งแต่ ค.ศ.1840 ทำให้การเดินทางภายในอังกฤษเป็นไปได้สะดวกมากขึ้น จึงเกิดการตั้งทีมฟุตบอลสมัครเล่นขึ้น และนำมาสู่การตั้งสมาคมฟุตบอลใน ค.ศ.1863 เพื่อควบคุมกฎกติกาให้เป็นระบบเดียวกัน สมาคมฟุตบอลอังกฤษได้จัดการแข่งฟุตบอลระดับประเทศเรียกว่า เอฟเอคัพเมื่อ ค.ศ.1871 ทีมวานเดอเรอร์ เป็นทีมแรกที่ชนะเลิศ ต่อมา สมาคมฟุตบอลก็ผลักดันให้มีการจัดตั้งสโมสรบอลอาชีพ และเปิดการแข่งขันบอลลีกดีวิชั่น 1 ครั้งแรก เมื่อ ค.ศ.1888 มีทีมเข้าร่วมแข่งขัน 12 ทีม ทีมสโมสรที่ชนะเลิศบอลลีกเป็นทีมแรก คือ เปรสตัน นอร์ธเอนด์ ซึ่งเป็นทีมจากเมืองเปรสตันตอนกลางของอังกฤษ

หลังจากนั้น ความนิยมในกีฬาฟุตบอลเริ่มแผ่จากอังกฤษในยังประเทศอื่น ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากอิทธิพลของลัทธิจักรวรรดินิยมที่ทำให้อังกฤษกลายเป็นมหาอำนาจชั้นหนึ่งของโลก แบบแผนโรงเรียนแบบอังกฤษเผยแพร่ไปในประเทศอื่น ทำให้การแข่งกีฬาแบบอังกฤษเผยแพร่ออกไปด้วย ประเทศในยุโรปและอเมริกาใต้เริ่มรับเอารูปแบบกีฬาฟุตบอลของอังกฤษไปเล่นเป็นกีฬา แต่ในอเมริกากลับไปนิยมการเล่นแบบรักบี้ ที่นำไปพัฒนาเป็นอเมริกันฟุตบอล

ฟุตบอลกลายเป็นกีฬาแสดงโชว์ในกีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 2 ที่จัดที่ปารีสใน ค.ศ.1900 โดยทีมอัพตันปาร์ค จากอังกฤษ ชนะเลิศ ในลาตินอเมริกา เกิดการแข่งระหว่างชาติครั้งแรกเมื่อ ค.ศ.1902 ที่มอนเดวิเดโอ โดยเป็นการแข่งระหว่างอาร์เจนตินาและอุรุกวัย จากนั้น ใน ค.ศ.1904 ฝรั่งเศสและเบลเยี่ยม ก็ได้ผลักดันการก่อตั้งสมาคมฟุตบอลระหว่างประเทศ หรือ ฟีฟ่าขึ้นเป็นครั้งแรก แต่ในขณะนั้น ฟีฟ่าก็ยังมีหน้าที่ประสานงานการแข่งขันฟุตบอลในกีฬาโอลิมปิก

ฟีฟ่าเริ่มคิดที่จะจัดการแข่งขันนานาชาติของตนเองตั้งแต่ ค.ศ.1928 ส่วนหนึ่งเพราะกีฬาโอลิมปิก ที่จะจัดที่เมืองลอสแองเจลิส ค.ศ.1932 ได้ตัดฟุตบอลออกจากรายการกีฬาที่แข่งขัน เพราะเป็นกีฬาที่ไม่ได้รับความนิยมในอเมริกาเลย ในขณะนั้น อุรุกวัยเป็นแชมป์ฟุตบอลโอลิมปิกมาแล้ว 2 สมัย และกำลังจะจัดงานครบรอยร้อยปีเอกราช ใน ค.ศ.1930ดังนั้นฟีฟ่าจึงเลือกให้อุรุกวัยเป็นเจ้าภาพในการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งที่ 1 แต่ปรากฏว่าทีมจากยุโรปหลายทีมตัดสินใจไม่ร่วม เพราะขณะนั้นการเดินทางด้วยเรือจากยุโรปไปอุรุกวัยกินเวลานานหลายวัน จึงมีทีมเข้าร่วมแข่งขันเพียง 13 ทีม อุรุกวัยเจ้าภาพชนะเลิศบอลโลกเป็นทีมแรก

ฟุตบอลโลกครั้งที่ 2 จัดที่อิตาลี เพื่อฉลองความยิ่งใหญ่ของระบอบฟาสซิสม์ภายใต้เบนิโต มุสโลลินี ซึ่งหมายมั่นจะให้อิตาลีได้แชมป์โลกเพื่อเป็นเกียรติยศแห่งชาติ อุรุกวัยแชมป์เก่าคว่ำบาตรไม่เดินทางมายุโรป ในครั้งนี้มีทีมเข้าร่วม 16 ทีม อียิปต์เป็นตัวแทนแอฟริกาเข้าร่วมเป็นครั้งแรก ในที่สุด อิตาลีได้แชมป์สมปรารถนา

ฟุตบอลโลกครั้งที่ 3 จัดที่กรุงปารีส ค.ศ.1938 อิตาลียังคงรักษาแชมป์ไว้ได้ จากนั้นก็เกิดสงครามโลกทำให้ฟุตบอลโลกระงับไปจนถึง ค.ศ.1950 ฟุตบอลโลกครั้งที่ 4 บราซิลเป็นเจ้าภาพและคาดหวังที่จะได้ตำแหน่งแชมป์ แต่กลับพลาดในนัดชิงชนะเลิศให้อุรุกวัยได้แชมป์ไป

จากนั้น ฟุตบอลโลกก็จัดทุก 4 ปีเรื่อยมา บราซิลกลายเป็นทีมที่ครองแชมป์มากที่สุด คือ ปี 1958, 1962, 1970, 1994 และ 2002 เยอรมนีตะวันตกครองแชมป์ 3 ครั้ง คือ 1954, 1974 และ 1990 แต่หลังจากรวมประเทศแล้ว เยอรมนีก็ยังไม่ได้แชมป์อีก อิตาลีได้แชมป์อีก 2 ครั้ง คือ 1982 และ 2006 อาร์เจนตินาได้แชมป์ปี 1978 ที่เป็นเจ้าภาพ และปี 1986 อังกฤษได้แชมป์เมื่อเป็นเจ้าภาพปี 1966 ฝรั่งเศสได้แชมป์เมื่อเป็นเจ้าภาพ ปี 1998 และสเปน ได้แชมป์ครั้งล่าสุดในฟุตบอลโลกแอฟริกาใต้ เมื่อ ค.ศ.2010

รัฐบาลบราซิลที่ได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ ถูกโจมตีอย่างหนักในเรื่องการทุจริตและความล้มเหลวในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ในส่วนที่เกี่ยวกับการตระเตรียมบอลโลก รัฐบาลบราซิลลงทุนมากถึง 11.7 พันล้านดอลลาร์ในการสร้างและปรับปรุงสนามเพื่อการแข่งขันและสร้างสาธรณูปโภคเพื่อรองรับการเป็นเจ้าภาพ ซึ่งถูกโจมตีว่าเป็นการลงทุนที่แพงยิ่งกว่าฟุตบอลโลกครั้งใด เพราะความไร้ประสิทธิภาพและการคอรัปชั่นที่ทำให้ราราสูงเกินจริง ประชาชนจำนวนมากจึงเดินขบวนประท้วง และเรียกร้องให้เอาเงินจำนวนนั้นมาปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่และสวัสดิการประชาชน แทนที่จะไปทุ่มกับการกีฬา ในฐานะที่บราซิลเป็นประเทศที่มีช่องว่างระหว่างชนชั้นมากที่สุด ขณะที่พรรคฝ่ายค้านโจมตีว่า ฝ่ายรัฐบาลมุ่งที่จะใช้ความคลั่งไคล้ฟุตบอลโลกของประชาชนมามอมเมา ทำให้ปัญหาของประเทศถูกพร่ามัวจากความเป็นจริง

นั่นคงเป็นปัญหาของชาวบราซิล เพียงแต่บทความนี้อยากลงท้ายด้วยความบังเอิญของฟุตบอลโลกกับการเมืองในประเทศไทย เพราะฟุตบอลโลกที่จัดในปี 2006 ที่เยอรมนีเป็นเจ้าภาพก็ตรงกับปีรัฐประหาร พ.ศ.2549 ต่อมา ฟุตบอลโลกปี 2010 ตรงกับการกวาดล้างประชาชนคนเสื้อแดงครั้งใหญ่เมื่อ พ.ศ.2553 จากนั้น ฟุตบอลโลกปีนี้ ประชาชนไทยก็เผชิญกับการรัฐประหารที่นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หวังว่าฟุตบอลโลกครั้งหน้าประชาชนไทยคงจะได้ชมฟุตบอลโลกในบรรยากาศแห่งความศิวิไลซ์ มิใช่ภายใต้ท้องฟ้ามืดครึ้มเช่นนี้

 

 

เผยแพร่ครั้งแรกใน โลกวันนี้วันสุข ฉบับที่ 468 วันที่ 14 มิถุนายน 2557
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net