Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

ในมุมมองของคนทั่วไปเดือนรอมฏอนและการถือศีลอดของชาวมุสลิมอาจจะเป็นสิ่งแปลกและมักจะเกิดข้อสงสัยเสมอว่า ทั้งๆที่เดือนนี้เป็นเทศกาลแห่งการถือศีลอดซึ่งมุสลิมทุกคนจะถือศีลอดกัน (ไม่เฉพาะนักบวชหรือนักการศาสนาเท่านั้น)อันเป็นการอดอาหารและน้ำดื่มตั้งแต่ย่ำรุ่งจนถึงยามอาทิตย์ลับฟ้าซึ่งโดยปกติน่าจะเป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์เนื่องจากความยากลำบากและข้อจำกัดในเรื่องต่างๆโดยเฉพาะการกินดื่ม 

แต่เหตุใดมุสลิมจึงให้ความสำคัญต่อเดือนรอมฏอนเป็นพิเศษ
และรู้สึกยินดีปรีดาต่อการมาเยือนของช่วงเวลานี้?
 
หากต้องการไขปริศนาดังกล่าว เราต้องทำความเข้าใจจากมุมมองภายใน
มิไช่มุมมองภายนอกที่ต่างศาสนิกมองเพียงอย่างเดียว และการทำความเข้าใจจากมุมมองภายในที่ชัดเจนที่สุดที่จะทำให้ทราบถึงคุณค่าของเดือนรอมฏอนและการถือศีลอดในมุมมองของมุสลิมได้ดีที่สุดก็คือ การศึกษามุมมองของมุสลิมจากคำสอนโดยตรงของศาสดามุฮัมมัด ผู้เป็นอัครศาสดาและเป็นประมุขของมุสลิมทุกคน 

จากการศึกษาคำสอนของศาสดามุฮัมมัดเกี่ยวกับเดือนรอมฏอนนอกจากจะทำให้เราทราบถึงที่มาของทัศนคติของมุสลิมอันอุดมด้วยคุณค่าที่เกี่ยวกับเดือนรอมฏอนและการถือศีลอดแล้ว เรายังจะทราบถึงมุมมองที่แท้จริงของอิสลามที่มีต่อจิตใจมนุษย์ ทำให้สามารถนำมาเปรียบเทียบกับทัศนคติหรืออคติเดิมๆที่ได้รับจากสื่อเกี่ยวกับความโหดร้ายทารุณและน่าสพรึงกลัวได้อย่างเป็นกลาง

คุฎบะฮ์ "ชะอ์บานียะฮ์"เพื่อการเตรียมพร้อมสู่เดือนรอมฏอนอันจำเริญ

ท่านศาสดามุฮัมมัดได้กล่าวคุฎบะฮ์(เทศนา) ในช่วงปลายเดือนชะอ์บาน
(เดือนก่อนเดือนรอมฏอนตามจันทรคติ) เพื่อแนะนำให้มวลมุสลิมได้รู้จักความยิ่งใหญ่ของเดือนรอมฏอนอันจำเริญว่า :

"โอ้ชาวประชาแท้จริงเดือนแห่งพระองค์อัลลอฮ์กำลังย่างก้าวสู่พวกท่านพร้อมกับความจำเริญความเมตตา และการอภัยโทษจากพระองค์

เดือนนี้เป็นเดือนที่ประเสริฐสุด ณองค์อัลลอฮ์

ช่วงวันของเดือนนี้เป็นทิวาอันประเสริฐสุดและกลางคืนของเดือนนี้ก็เป็นราตรีที่ประเสริฐสุดช่วงเวลาทุกชั่วยามในเดือนนี้เป็นช่วงเวลาที่ล้ำเลิศที่สุด

เดือนนี้คือฤกษ์งามยามดีที่พวกท่านได้รับเชิญเข้าสู่งานเลี้ยงของพระองค์และได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นผู้มีเกียรติ ณ พระองค์

ทุกลมหายใจของพวกท่านคือการตัสบีห์ (สรรเสริญพระองค์)และการงีบหลับของพวกท่านล้วนนับเป็นอิบาดะฮ์(การสักการะพระองค์)ทั้งสิ้น

อะมั้ล(ศาสนกิจ)ของพวกท่านล้วนได้รับการยอมรับในเดือนนี้และดุอาทุกบทของพวกท่านล้วนได้รับการตอบรับ

ฉะนั้นขอพวกท่านจงวอนขออัลลอฮ์ผู้เป็นพระผู้อภิบาลด้วยเจตน์จำนงอันซื่อตรงและด้วยจิตที่บริสุทธิ
เพื่อพระองค์จะทรงบันดาลให้ท่านประสบความสำเร็จในการถือศีลอดและการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์ของพระองค์

เพราะแน่แท้คนอัปยศก็คือผู้ที่พลาดโอกาสที่จะได้รับการอภัยโทษของพระองค์ในช่วงเดือนอันยิ่งใหญ่นี้
พวกท่านจงสำนึกตรึกตรองถึงความหิวกระหายของพวกท่านในวันฟื้นคืนชีพด้วยกับความหิวกระหายของพวกท่าน(ในเดือนนี้)

และจงบริจาคทานแก่เหล่ายาจกและผู้ยากไร้ในหมู่พวกท่าน

จงให้เกียรติผู้หลักผู้ใหญ่
และจงเมตตาเด็กๆในหมู่พวกท่านและจงกระชับสัมพันธไมตรีระหว่างเครือญาติของพวกท่านให้แน่นแฟ้น

พวกท่านจงปกปักษ์รักษาลิ้น(ไม่ให้พูดในสิ่งที่ไม่เหมาะสม)และจงงดเว้นการมองและการฟังสิ่งที่ไม่เป็นที่อนุมัติสำหรับพวกท่าน

และจงมอบความเอื้ออาทรแด่เด็กกำพร้าทั่วไปแล้วเด็กกำพร้าของพวกท่านก็จะได้รับความเมตตาเช่นกัน
พวกท่านจงกลับตัวกลับใจสู่พระองค์อัลลอฮ์จากบาปกรรมที่พวกท่านเคยก่อไว้

พวกท่านจงยกสองมือขึ้นดุอาในยามละหมาดเพราะณ ช่วงเวลานี้คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดซึ่งพระองค์จะทอดพระเนตรด้วยความเมตตายังปวงบ่าวของพระองค์

เพื่อตอบคำวิงวอนของพวกเขาเมื่อพวกเขาเอื้อนเอ่ยและเพื่อขานรับพวกเขายามที่พวกเขาเพรียกหา และเพื่อประทานมอบในสิ่งที่พวกเขาเอ่ยขอและตอบรับพวกเขายามที่พวกเขาขอพรจากพระองค์

โอ้ปวงประชาแท้จริงชีวิตของพวกท่านถูกจำนำไว้กับความประพฤติของพวกท่านเอง ฉะนั้นจงไถ่คืนชีวิตของพวกท่านด้วยการอิสติฆฟาร (ขออภัยโทษจากพระองค์)

และบัดนี้แผ่นหลังของท่านต้องแบกรับน้ำหนักสัมภาระ(แห่งบาปที่ก่อไว้) ฉะนั้นจงผ่องถ่ายให้เบาลงด้วยการบรรจงสุญูด(กราบกรานพระองค์)ที่ยาวนานเถิด

และพึงทราบไว้เถิดว่าแท้จริงอัลลอฮ์ทรงเปล่งสัญญาด้วยกับเกียรติภูมิของพระองค์ว่าจะไม่ลงทัณฑ์ผู้ดำรงนมาซ (นมัสการ) และผู้บรรจงสุญูด และจะไม่เขย่าขวัญพวกเขาด้วยไฟนรกในวันที่มวลมนุษย์ได้รับการพิพากษาของพระผู้อภิบาลแห่งสากลโลก

โอ้ปวงประชาหากในหมู่พวกท่านมีผู้เลี้ยงละศีลอดแก่มุอ์มิน(ผู้ศรัทธา)สักเพียงหนึ่งคนในเดือนนี้ เขาจะได้รับผลบุญเทียบเท่าผู้ปล่อยบ่าวทาสและจะได้รับการอภัยโทษในบาปที่เขาเคยก่อไว้ในอดีต
มีผู้กล่าวขึ้นว่า "โอ้รอซูลุลลอฮ์(ศาสนทูตของพระเจ้า)ครับไม่มีใครในหมู่พวกเราเลยที่จะมีความสามารถเลี้ยงละศีลอดได้อย่างที่ท่านกล่าว"

ท่านนบีกล่าวตอบว่า "(พวกท่านสามารถ) หลีกเลี่ยงไฟนรกได้ด้วยอินผลัมสักเพียงครึ่งเม็ดหรืออาจเป็นน้ำสักเพียงอึกเดียวเท่านั้น"

โอ้กลุ่มชนพวกท่านคนใดที่มีจรรยามารยาทที่ดีงามในเดือนนี้เท่ากับว่าเขามีใบอนุญาตผ่านสะพานศิรอฎ(สะพานที่ทอดผ่านนรกในคติของมุสลิม)ในวันที่ผู้คนพลัดตกลง(ในไฟนรก)

และใครก็ตามที่ระงับนิสัยที่ไม่พึงประสงค์ของตนในเดือนนี้พระองค์ก็จะระงับความพิโรธในวันพิพากษา
และใครก็ตามที่แสดงความเมตตาต่อเด็กกำพร้า อัลลอฮ์จะทรงยกย่องเขาในวันกิยามะฮ์ (ปรโลก/วันแห่งการฟื้นจากความตายเพื่อรับการพิพากษา)

และใครก็ตามที่เชื่อมสัมพันธ์ระหว่างเครือญาติอัลลอฮ์จะทรงเชื่อมเขาเข้ากับความเมตตาของพระองค์ในวันกิยามะฮ์

ทว่าใครก็ตามที่ตัดสัมพันธ์ระหว่างเครือญาติ
อัลลอฮ์ก็จะทรงตัดความเมตตาจากเขา

ใครก็ตามที่เพียรพยายามนมาซ(มุสตะฮับ/นมาซที่มิไช่ข้อบังคับ)สักเพียงครั้งหนึ่ง อัลลอฮ์จะทรงมอบอิสรภาพจากไฟนรกแก่เขา

ใครก็ตามที่ปฎิบัตินมาซฟัรฎู (นมาซที่เป็นข้อบังคับ วันละ5ครั้ง)
ตามปกติในเดือนนี้ เขาจะได้รับผลบุญถึง 70เท่าของเดือนอื่นๆ

และใครก็ตามที่เพียรพยายามนมาซให้มากในเดือนนี้อัลลอฮ์จะทรงเพิ่มน้ำหนักตราชูการกระทำของเขาให้หนักยิ่งขึ้นขณะที่น้ำหนักการกระทำของผู้อื่นมักจะเบาสนิทในวันกิยามะฮ์

และใครก็ตามที่อ่านอัลกุรอานแม้เพียงอายะฮ์(โองการ)เดียวในเดือนนี้เขาจะได้รับผลบุญเท่ากับการอ่านกุรอานทั้งเล่มในเดือนอื่นๆ

โอ้ปวงชนเอ๋ยแท้จริงประตูทุกบานของสรวงสวรรค์เปิดกว้างแล้วในเดือนนี้ฉะนั้นจงวิงวอนต่อพระองค์อย่าได้ทรงปิดประตูสวรรค์และสกัดกั้นพวกท่าน

และแท้จริงประตูนรกทุกบานถูกปิดสนิท
ฉะนั้นจงวิงวอนต่อพระองค์อย่าได้ทรงเปิดประตูต้อนพวกท่านเข้าไป

ในเดือนนี้บรรดามารร้ายชัยฎอน(ซาตาน) ล้วนถูกจองจำ ฉะนั้นจงวิงวอนต่อพระองค์อย่าได้ทรงปล่อยให้พวกมันครอบงำพวกท่านได้"

................................................

จากเนื้อหาคำสอนของศาสดามุฮัมมัดดังกล่าวจึงไม่เป็นที่แปลกใจที่ชาวมุสลิมจะให้ความสำคัญต่อเดือนรอมฏอนเป็นพิเศษและไม่รู้สึกหวาดผวาต่อข้อบัญญัติอดข้าวอดน้ำแต่อย่างใด เพราะพวกเขาตระหนักเสมอว่ามนุษย์คือนักเดินทาง อายุขัยคนเราในโลกนี้มีจำกัดมนุษย์ทุกคนจะเดินทางต่อไปโดยผ่านประตูแห่งความตายและชีวิตหลังความตายนี้เองที่ทรัพย์สินเงินทองไม่มีค่าใดๆอีกต่อไป ความประพฤติอันดีงามทางศาสนาเท่านั้นที่จะเปรียบเสมือนเงินสกุลเดียวที่ใช้ประโยชน์ได้ 

และในมุมมองของมุสลิม เดือนรอมฎอนและการถือศีลอดก็คือ...งานเลี้ยงที่พวกเขาต้องตระเตรียมเสบียงและออมเงินตราสกุลนี้ให้ได้มากที่สุดเพื่อมีชีวิตที่ผาสุกหลังความตาย ... อันเป็นนิรันดร์.

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net