โค้งสุดท้ายของรอมฎอนสำหรับวิถีชีวิตมุสลิมชายแดนใต้

ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตากรุณา ปรานีเสมอ ขอความสันติสุข จงมีแด่ศาสนทูตมูฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามตามท่านและผู้อ่านทุกท่าน

ในช่วง วันที่ 1 - 10 กันยายน 2553 เป็นช่วงเวลาที่ชาวไทยมุสลิมและมุสลิมทั่วโลกกำลังถือศีลอดใน 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน และไม่วันที่ 10 หรือ 11 กันยาย นี้ จะเป็นวันอีดิลฟิตรี(ฉลองหลังถือศีลอด)
การถือศีลอดและปฏิบัติศาสนกิจในช่วงนี้ จะมีความเข้มข้นทั้งกลางวันและกลางคืน(โดยเฉพาะกลางคืน) หลายๆ กิจกรรมหากองค์กรของรัฐและหน่วยความมั่นคงไม่เข้าใจและไม่ทราบหลักปฏิบัติของชุมชนมุสลิมอาจจะนำไปสู่การจับผิดและอาจจะเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวอันนำไปสู่ความรุนแรงได้
 
ในขณะเดียวกันผู้ที่คิดร้าย(ส่วนน้อยของชุมชน)อาจจะฉวยโอกาสช่วงนี้สร้างสถานการณ์ได้เช่นกัน

หลักปฏิบัติช่วงท้ายของเดือนรอมฎอน
 
1.การเอี๊ยะติกาฟ (การพำนักในมัสยิด) หมายถึง การพำนักอยู่ในมัสยิดโดยมีเจตนาปฏิบัติศาสนกิจต่ออัลลอฮฺเจ้า เพื่อปลดปล่อยตัวเอง ให้หลุดพ้นจากความสับสนวุ่นวายในสังคมมาเป็นการขัดเกลาจิตใจให้บริสุทธิ์
 
ในจังหวัดชายแดนใต้จะมีหลายมัสยิดจัดกิจกรรมดังกล่าว แต่ที่มีชื่อเสียงมีอยู่ไม่เกิน 10 แห่ง เช่น ที่มัสยิดอิบาดุรเราะมาน บ้านปูยุด อ.เมืองปัตตานี ภายใต้การอำนวยการโดย อ.ดร.อิสมาอีลลุตฟีย์ จะปะกียา (อธิการบดีมหาวิทยาลัยอิสลาม ปัตตานี) และมัสยิดศูนย์ดะห์วะฮฺยะลา เพราะมีการจัดการอย่างเป็นระบบทั้งให้ความรู้ด้านวิชาการ การปฏิบัติศาสนกิจ และระบบสาธารณูปโภค
 
ทั้งสองแห่งนี้จะมีผู้มาร่วมไม่ต่ำกว่าหมื่นคนจากทุกจังหวัดและผู้คนทุกสาขาอาชีพ แม้แต่ข้าราชการมุสลิมยอมใช้สิทธิลาพักร้อนในช่วงนี้
 
2. การละหมาด ช่วง 10 วันสุดท้ายจะมีอยู่ 2 ช่วงที่สำคัญคือ
 
ละหมาดตะรอเวี๊ยะ ตั้งแต่เวลาประมาณ 19.30 -20.30 น.(ความเป็นจริงการละหมาดดังกล่าวกระทำมาตั้งแต่ต้นเดือนรอมฎอน แต่จะเข้มข้นมากขึ้นในช่วง 10 วันสุดท้าย ถูกบัญญัติให้ละหมาดรวมกันเป็นญะมาอะฮฺ (รวมกันที่มัสยิด)
 
ละหมาดตะฮัจยุด ตั้งแต่เวลาประมาณ 02.00น. - 04.30 น.(ช่วงกลางดึกถึงรุ่งอรุณ) ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ คนชรา จะไปละหมาดและปฏิบัติศาสนกิจในมัสยิดอีกครั้งหนึ่ง การละหมาดทั้งสองช่วงจะมีผู้คนมากที่สุดในคืนที่ 27 ของเดือนรอมฎอนเพื่อให้ได้คุณค่าของลัยลุตุลกอดัร
 
คำว่า ลัยลุตุลกอดัร หมายถึงค่ำคืนหนึ่งที่พระเจ้าได้เลือกให้เป็นค่ำคืนที่มีความประเสริฐในช่วงสิบคืนหลังของเดือนรอมฏอนอันเนื่องมาจากพระองค์ได้ดำรัสความว่า แท้จริงเราได้ประทานอัลกุรอานลงมาในคืนอัลก็อดร และอะไรเล่าจะทำให้เจ้ารู้ว่าคืนอัลกอดรนั้นคืออะไร คืนอัลก็อดรนั้นดีกว่า 1000 เดือน บรรดามะลาอิกะห์ และอัลรูฮ ( ญิบรีล ) จะลงมาในคืนนั้น โดยอนุมัติแห่งพระเจ้าของพวกเขา เนื่องจากในกิจการทุกสิ่งคืนนั้นมีความศานติสุขจนกระทั่งรุ่งอรุณ (ซูเราะห์อัลก็อดร)
 
บรรดานักวิชาการโลกมุสลิมในอดีตมีทัศนะที่แตกต่างกันหลายทัศนะว่าคืนใดจะตรงกับค่ำคืนดังกล่าว แต่นักวิการส่วนใหญ่มีความเห็นสอดคล้องว่ามันอยู่ในช่วง 10 คืนสุดท้ายของเดือนรอมฏอนเพราะท่านศาสนทูตมุฮัมมัดได้กล่าวไว้ความว่า พวกท่านจงแสวงหามัน
 
(หมายถึงคืนลัยละตุดก็อดรฺ) ในช่วงสิบคืนสุดท้าย (วจนะศาสนทูตบันทึกโดย บุคอรีย์ 2018 มุสลิม 1167)
และบรรดานักวิชาการส่วนใหญ่เห็นว่า ลัยละตุลกอดรนั้นจะเกิดในคืนคี่
แต่นักวิการบางท่านมีความเห็นว่าลัยละตุลก็อดรฺนั้นคือค่ำคืนที่ 27 ซึ่งเป็นทัศนะของบรรดา ซอฮาบะห์ กลุ่มหนึ่ง โดยที่ท่าน อุบัย บิน กะฮบฺ (โปรดดูวจนะศาสนทูตในซอเอียะ มุสลิม 762 / อัตติรมีซีย์ 3351)
 
ดังนั้นจึงทำให้มุสลิมจะทำศาสนกิจมากที่สุดในค่ำคืนที่ 27
 
นี่คือหลักปฏิบัติของอิสลามพอสังเขปซึ่งเป็นวิถีชีวิตของชุมชนมุสลิมภาคใต้ซึ่งอยากจะให้เจ้าหน้าที่ของรัฐโดยเฉพาะผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับความมั่นคงเข้าใจและนำเป็นกรอบในการกำหนดนโยบายและปฏิบัติในพื้นที่ เพราะหลายๆกิจกรรมเป็นช่วงกลางคืนและดึกดื่น
 
ในขณะเดียวกันการเรียกร้องให้องค์กรของรัฐและสังคมอื่นเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา ได้อย่างสมบูรณ์นั้น มุสลิมเองต้องมีคุณลักษณะ และแสดงความเป็นมุสลิมที่ดีตามแนวทางศาสนทูตมุฮัมมัดทุกอริยะบทของการดำเนินชีวิต รวมทั้งเข้าใจ เข้าถึงและร่วมมือกับสังคมอื่นตามกรอบที่ศาสนาได้กำหนดไว้เช่นกัน
 
หากทุกฝ่ายยึดตามแนวทางที่ถูกต้องและเข้าใจซึ่งกันสังคมไทยจะอยู่ร่วมอย่างสมานฉันท์และหวังว่าเหตุการณ์ตากใบสอง” คงไม่เกิดในช่วงท้ายรอมฎอนอีกครั้งในปีนี้
 
หวังว่าศาสนธรรมและสันติธรรมไม่ใช่เป็นเพียงเป้าหมายเท่านั้น แต่เป็นวิถีทางที่สำคัญในการอยู่ร่วมอย่างสันติ และขอดุอาอ์(พร)จากอัลลอฮซุบฮานะฮุ วะ ตะอาลาโปรดทรงรวมพลังของพวกเราให้อยู่บนทางนำ และรวมหัวใจของพวกเราอยู่บนความรักฉันท์พี่น้อง รวมทั้งขอให้ความมุ่งมั่นของพวกเราอยู่บนการงานที่ดี
 
ขอให้พระองค์ทรงทำให้วันนี้ของพวกเราดีกว่าเมื่อวาน ให้พรุ่งนี้ของพวกเราดีกว่าวันนี้ แท้จริงพระองค์นั้นเป็นผู้ทรงได้ยินและทรงอยู่ใกล้ และนำความสงบสุขสู่จังหวัดชายแดนใต้ รวมทั้งประเทศชาติทั้งมวลด้วยเทอญ สุขสวัสดี...วันตรุษอีดดิลฟิตรี ฮิจเราะห์ศักราชที่ 1431...อามีน
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท