Skip to main content
sharethis


ประชาไท—11 ก.พ. 2549 บรรยากาศทางการเมืองเข้มข้นก่อนถึงเวลาชุมนุม นางรสนา โตสิตระกูล กรรมการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยประกาศนายกฯ ต้องออกไปพร้อมต้องหยุดดำรงตำแหน่งทางการเมือง 5 ปี น.ศ. รวมรายชื่อคึกคัก ฝ่ายค้านเตรียมเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ขณะที่ม็อบรถตู้บุกบ้านพระอาทิตย์ต้านการชุมนุม

 


รสนา ประกาศต้องเอานายกฯออกตาม รธน. พร้อมห้ามเล่นการเมือง 5 ปี


ที่อาคารรัฐสภา 2 คณะกรรมาธิการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ วุฒิสภา ได้จัดเวที.....วิพากษ์การทำงานของนายกรัฐมนตรีในประเด็นต่างๆ โดยช่วงท้ายของการสัมมนา นางรสนา โตสิตระกูล กรรมการพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยกล่าวว่า การเคลื่อนไหวของภาคประชาชนจะต้องดำเนินไปเพื่อถอดถอนนายกรัฐมนตรีตามแนวทางของรัฐธรรมนูญ และไม่ควรให้นายกรัฐมนตรีลาออกหรือยุบสภา เพราะเป็นเรื่องที่ทำให้ประชาชนต้องเหนื่อย แต่จะต้องดำเนินการให้นายกฯออกไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด โดยให้ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด ซึ่งจะส่งผลให้นายกรัฐมนตรีไม่สามารถดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้อีกเป็นเวลา 5 ปี


 


ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญที่กำหนดความผิดและบทลงโทษของผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่นางรสนากล่าวถึงคือ มาตรา 295 ระบุว่า ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองผู้ใดจงใจไม่ยื่นบัญชี แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญนี้ หรือจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน และเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริง ที่ควรแจ้งให้ทราบ ให้ผู้นั้นพ้นจากตำแหน่งนับแต่วันที่ครบกำหนด ต้องยื่นตามมาตรา 292 หรือนับแต่วันที่ตรวจพบว่ามีการกระทำ ดังกล่าว แล้วแต่กรณี และผู้นั้นต้องห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ เป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง


 


เมื่อมีกรณีตามวรรคหนึ่ง ให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติเสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาดต่อไป และเมื่อศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดแล้ว ให้นำบทบัญญัติ มาตรา 97 มาใช้ บังคับโดยอนุโลม


 


มธ. ล่ารายชื่อคึกคัก อาจารย์แจมด้วย


ด้านบรรยากาศล่ารายชื่อ 50,000 รายชื่อเพื่อถอดถอนนายกรัฐมนตรี โดยองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) ที่ลานโพธิ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในช่วงบ่ายวันที่ 10 ก.พ. ก็ดำเนินไปอย่างคึกคัก มีการปราศรัยและอภิปรายวิพากษ์วิจารณ์นายกรัฐมนตรีอย่างต่อเนื่อง โดยอาจารย์หลายคนได้ร่วมขึ้นเวทีอภิปรายด้วย เช่น นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล น.ส.ชลิดาภรณ์ ส่งสัมพันธ์ นายนิพนธ์ พัวพงศกร


 


ทั้งนี้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ ได้มาร่วมลงชื่อพร้อมกับปราศรัยในเวทีนี้ด้วย โดยได้รับความสนใจจากประชาชนและนักศึกษาจำนวนมาก


 


อาจารย์ศิลปากร 77คนลงชื่อเรียกร้องให้นายกฯลาออก


อาจารย์มหาวิทยาลัยศิลปากรออกแถลงการณ์เรียกร้องให้นายกฯ ลาออกจากตำแหน่ง พร้อมลงชื่อแนบท้ายแถลงการณ์ทั้งสิ้น 77 คน ระบุว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาในการบริหารประเทศในตำแหน่งนายกฯ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ทำลายหลักการของรัฐธรรมนูญ ใช้อำนาจเผด็จการทางรัฐสภาผ่านกฎหมายเพื่อรองรับการดำเนินกิจการต่างๆ ของครอบครัวและพวกพ้อง และแสดงให้เห็นถึงการขาดจริยธรรมในการบริหารประเทศในหลายกรณีเช่น ทำลายความน่าเชื่อถือขององค์กรอิสระ เล่นพรรคเล่นพวกในการบริหารราชการแผ่นดิน และล่าสุดคือใช้อุบายเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีจากการขายหุ้นมูลค่ากว่า 73,000 ล้านบาท


 


คณาจารย์มหาวิทยาลัยศิลปากรจึงขอเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบทางจริยธรรมด้วยการลาออก พร้อมกันนี้คณาจารย์ทั้ง 77 คนขอสนับสนุนและผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อวางกฎเกณฑ์มาตรฐานทางการเมือง และจริยธรรมทางการเมืองใหม่ รวมทั้งมีการสรรหาผู้นำคนใหม่ของประเทศตามหลักการประชาธิปไตยต่อไป


 


พรรคฝ่ายค้านเตรียมยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ


นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย เปิดเผยในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิป) ว่า สัปดาห์หน้า วิปฝ่ายค้าน จะทำหนังสือไปถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อทวงถามเรื่องที่นายกฯ เคยระบุไว้ว่า จะสนับสนุนพรรคฝ่ายค้านในการตรวจสอบการทำงานของนายกรัฐมนตรี


 


นายสาทิตย์ระบุว่า ขณะนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านแต่ละพรรค ต่างรวบรวมข้อมูลการทำงานของนายกฯ ในช่วง 5 ปี เพื่อตรวจสอบหาข้อผิดพลาดในการบริหารประเทศ และในวันพฤหัสบดีหน้าจะมีการประชุมรวบรวมข้อมูลทั้งหมด เพื่อนำมาประกอบเป็นร่างญัตติในการยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีต่อไป โดยคาดว่าจะสามารถยื่นญัตติได้ในการเปิดประชุมสภาวันที่ 4 มี.ค. นี้


 


 


ม็อบรถตู้บุกบ้านพระอาทิตย์ ค้านการชุมนุม 11 ก.พ.


ด้านความเคลื่อนไหวจากฝั่งสนับสนุนนายกรัฐมนตรีซึ่งมีมาอย่างต่อเนื่องตามหน่วยงานราชการในจังหวัดต่างๆ ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. เว็บไซต์ผู้จัดการรายงานว่า มีม็อบรถตู้ประมาณ 100 คันซึ่งอ้างว่ามาจากทั่งประเทศ มารวมตัวกันที่สนามหลวง โดยระบุว่าจะสมทบกับผู้ประกอบการรถตู้อีกกว่า 100 คนที่ทยอยเดินทางมาเพื่อจะร่วมกันไปคัดค้านนายสนธิ ลิ้มทองกุล ที่บ้านพระอาทิตย์ โดยจะยื่นหนังสือต่อนายสนธิ เพื่อเรียกร้องให้หยุดการเคลื่อนไหวขับไล่นายกรัฐมนตรีในระหว่างที่ถวายฎีกา และคัดค้านการชุมนุมในวันที่ 11


 


เวลาประมาณ 13.30 น. กลุ่มแท็กซี่ รถตู้ และตุ๊ก ตุ๊ก ซึ่งรวมตัวกันได้ประมาณ 500 คน นำโดยนายสำเริง อักษะ นายกสมาคมรถตู้โดยสารต่างจังหวัด และนายชินวัณน์ บุญหาภาค นายกสมาคมพิทักษ์ผลประโยชน์ผู้ขับขี่รถแท็กซี่ เดินเท้าไปยังสำนักงานหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ เพื่อนำรายชื่อที่ทำการรวบรวมไปยื่นต่อนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ เพื่อคัดค้านการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 11  โดยกลุ่มแกนนำอ้างว่า พวกตนไม่เห็นด้วยกับการที่นายสนธิ ออกมาชุมนุมอีกครั้ง หลังจากถวายฎีกา ต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปแล้ว


 


เว็บไซต์ผู้จัดการรายงานข่าวโดยตั้งข้อสังเกตว่า ก่อนที่จะมีการเดินเท้า ได้มีกลุ่มแกนนำขึ้นปราศัยโจมตีนายสนธิ อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับได้แจกจ่ายแผ่นกระดาษ ซึ่งตัดมาจากข่าวที่ลงเกี่ยวกับการโจมตีนายสนธิ ให้กับประชาชน โดยเชิญชวนให้ประชาชน ร่วมลงชื่อ แต่พบว่าไม่ได้รับความสนใจจากประชาชน


 


สำหรับการชุมนุมครั้งนี้ แกนนำยืนยันว่า หลังจากยื่นหนังสือให้นายสนธิแล้ว พวกตนจะสลายการชุมนุมทันที รวมทั้งในวันพรุ่งนี้ ก็จะไม่มีการรวมตัวกันเพื่อคัดค้านการชุมนุมใหญ่ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า เนื่องจากไม่ต้องการให้เกิดความวุ่นวายเกิดขึ้น


 


ส่วนบรรยากาศที่สำนักงานผู้จัดการ ขณะนี้ได้มีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงคราม และเจ้าหน้าที่หน่วยปราบจราจล คอยตรึงกำลังรักษาความปลอดภัย บริเวณสำนักงานผู้จัดการ เพื่ออำนวยความสะดวก และเพื่อป้องกันเหตุความไม่สงบที่อาจจะเกิดขึ้นได้


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net