Skip to main content
sharethis

 


ประชาไท—23 ก.พ. 2549 วันที่22 ก.พ. เวลา 10.00 น.เครือข่ายคัดค้านโครงการท่อส่งก๊าซ โรงแยกก๊าซและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง กว่า 50 คนได้เดินทางไปยัง สภ.อ.จะนะ โดยเดินขบวนและมีป้ายผ้าข้อความ "ผู้ว่าราชการสงขลา นายอำเภอจะนะ สนง.ที่ดินจะนะ ตำรวจร่วมกับทีทีเอ็ม "โกง" ดินสาธารณและดินวะกัฟ" และ "ทักษิณ บริษัททีทีเอ็ม โกงก๊าซ โกงแผ่นดิน"


 


เมื่อเริ่มการสอบสวนเพิ่ม ทางเครือข่ายคัดค้านฯได้โต้แย้ง พ.ต.ท.อธิป แสงวันลอย เนื่องจากพ.ต.ทอธิป ชี้แจงว่าที่เรียกมาสอบสวนเพิ่มเติมวันนี้ เพราะทางนายโอภาส บุญช่วย อัยการประจำกรม ปฏิบัติรักษาการแทนอัยการจังหวัดสงขลา ได้ออกหนังสือเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2549 เลขที่อส.(สข)0031/157 ส่งหนังสือมายังสภ.อ.จะนะให้สอบสวนเพิ่มเติมรายงานสอบคดีที่ 13/2549 ลงวันที่ 9 กันยายน 48 คดีที่นายอำเภอจะนะมอบหมายให้นายพิทยา พูพงศ์ ปลัดอำเภอจะนะเป็นโจทย์แจ้งความกรณีบริษัททรานส์ไทย-มาเลเซีย บุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์ ซึ่งชาวบ้านไม่ยินยอมเป็นพยานที่ทางอำเภอแจ้งความกับบริษัท เพราะต้องการให้การเพิ่มเติมคดีที่ทางเครือข่ายคัดค้านฯได้แจ้งความดำเนินคดีกับบริษัททรานส์ไทย-มาเลเซียในข้อหาบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์ของแผ่นดิน ซึ่งทางตำรวจรับแจ้งไว้ประมาณปีเศษแต่ไม่ดำเนินคดีใดๆ และมาเปลี่ยนสำนวนเป็นนายพิทยาแจ้งความแทน


 


โดยชาวบ้านยืนยันว่าจะไม่ให้การเป็นพยานกรณีที่นายพิทยาเป็นผู้แจ้ง เนื่องจากนายอำเภอและนายพิทยา ปลัดอำเภอจะนะได้ร่วมกับบริษัทกระทำผิดให้การบุกรุกและโกงดินสาธารณประโยชน์ให้ต่างชาติเช่นกัน โดยยืนยันว่าจะให้การเพิ่มเติมในส่วนที่ทางเครือข่ายเป็นผู้แจ้งความไว้แล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2547 เท่านั้น แต่พ.ต.ท.อธิป ไม่พอใจเป็นอย่างมากและได้ถามทางสมาชิกเครือข่ายคัดค้านฯว่า จบการศึกษาชั้นไหน? จากนั้นเดินหายออกไปจากห้องสอบสวน  


 


นายสาลี มะประสิทธิผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 ต.สะกอม อ.จะนะ จ.สงขลา เป็นผู้หนึ่งที่ได้รับหมายเรียก กล่าวว่า จะให้ให้ปากคำเพิ่มเติมได้อย่างไรในเมื่อ


 


1.ทั้งที่เป็นผู้ฟ้องแต่ในสำนวนฟ้องเปลี่ยนเป็นนายอำเภอจะนะมอบหมายให้ปลัดอำเภอเป็นผู้แจ้งความแทน ถามว่านายอำเภอคนไหนตำรวจไม่สามารถตอบได้


 


2.พนักงานสอบสวนเปลี่ยนผู้ฟ้องจากทางเครือข่ายคัดค้านฯเป็นปลัดอำเภอ แต่ ทางเครือข่ายไม่เคยรู้มาก่อน และที่สำคัญไม่ยอมให้ดูสำนวนฟ้องว่ามีเนื้อหาและประเด็นอย่างไร มีหลักประกันอย่างไรในการให้ปากคำเพิ่มเติมว่าจะไม่ถูกบิดเบือน


 


3.ที่เดินทางมาเพื่อยืนยันว่าที่ดินสาธารณประโยชน์ดังกล่าวเป็นที่ดินวะกัฟ ตามหลักศาสนาอิสลาม ไม่สามารถแลกเปลี่ยน ซื้อ ขายได้ และมีทายาทยืนยันชัดเจน คนมุสลิมรู้ว่าที่ดินวะกัฟซึ่งเป็นที่ดินที่อุทิศให้กับพระผู้เป็นเจ้าหากไม่ปกป้องรักษาจากการบุกรุกและโกงของบริษัท มุสลิมคนนั้นจะบาปและตกจากความเป็นมุสลิม ดินวะกัฟเป็นเรื่องที่คนมุสลิมต้อง "วายิบ" (รับผิดชอบร่วมกัน)


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net