Skip to main content
sharethis

กสม.แถลงการณ์ ย้ำหลักการเสรีภาพสื่อที่มีตามรัฐธรรมนูญและกติการะหว่างประเทศที่ไทยเป็นภาคี และรัฐยังต้องประกันสิทธิของผู้ถูกกล่าวหาตามหลักสันนิษฐานว่าบุคคลทุกคนเป็นผู้บริสุทธิ์ และการบังคับใช้กฎหมายเพื่อจำกัดเสรีภาพต้องมีความจำเป็นและได้สัดส่วนตามกฎหมาย โดยไม่กระทบการทำหน้าที่ของสื่อ ตามความเห็นของคณะกรรมการ ICCPR

เมื่อวานนี้ (14 ก.พ.2567) คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติเผยแพร่แถลงการณ์ต่อกรณีตำรวจทำการจับกุมณัฐพล เมฆโสภณ หรือ เป้ นักข่าวประชาไท และณัฐพล พันธ์พงสานนท์ หรือ ยา ช่างภาพของสเปซบาร์ จากการไปทำข่าวนักกิจกรรมพ่นสีกำแพงวังเมื่อ 28 มี.ค.2566

แถลงการณ์ได้ระบุยืนยันในหลักเสรีภาพของสื่อมวลชนที่ได้รับการรับรองและให้ความคุ้มครอง  ให้ความคุ้มครองผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนในการนำเสนอข่าวสารหรือแสดงความคิดเห็นตามจริยธรรมแห่งวิชาชีพ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights: ICCPR) ที่ประเทศไทยเป็นภาคีและมีพันธกรณีต้องปฏิบัติตาม

แถลงการณ์ของ กสม.ระบุอีกว่า ในปี 2566 ยังพบกรณีสื่อมวลชนถูกคุกคาม ข่มขู่ทำร้ายร่างกายหรือดำเนินคดีในฐานความผิดต่างๆ ซึ่งรัฐต้องให้การคุ้มครองเสรีภาพ ในการแสดงออก การรับและส่งต่อข้อมูลใด ๆ โดยอาจจำกัดเสรีภาพดังกล่าวได้ตามที่กฎหมายบัญญัติเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ในแถลงการณ์ยังได้อ้างถึง ความเห็นทั่วไปฉบับที่ 34 ของคณะกรรมการประจำกติกา ICCPR ย้ำว่าการออกกฎหมายจำกัดเสรีภาพดังกล่าวต้องมีความสมดุลกับการคุ้มครองเสรีภาพในการแสดงออกและเสรีภาพในการรับและส่งต่อข้อมูล รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายเพื่อจำกัดเสรีภาพดังกล่าวยังต้องมีความจำเป็นและได้สัดส่วนตามกฎหมาย โดยไม่กระทบสาระสำคัญของการทำหน้าที่สื่อมวลชน

แถลงการณ์ยังได้กล่าวถึงการปฏิบัติการจับกุมของเจ้าหน้าที่ด้วยว่าจะต้องรับประกันสิทธิของผู้ถูกกล่าวหาที่จะต้องได้รับทราบข้อกล่าวหาและได้รับการพิจารณาคดีโดยพลัน โดยมิให้ถือเป็นหลักทั่วไปว่าจะต้องควบคุมบุคคลในระหว่างการพิจารณาคดี ทั้งยังต้องมีสิทธิในการได้รับการประกันตัวตามหลักสันนิษฐานว่าบุคคลทุกคนเป็นผู้บริสุทธิ์ (Presumption of Innocence) ด้วย

นอกจากนั้น กสม.ยังมีข้อเรียกร้องถึงรัฐบาลโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรกำชับ ผู้บังคับใช้กฎหมายให้เคารพต่อการใช้เสรีภาพของสื่อมวลชน การจำกัดหรือระงับเสรีภาพไม่ว่าด้วยวิธีการใดจะต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดโดยเฉพาะการตั้งข้อกล่าวหาหรือดำเนินคดีต้องไม่สร้างข้อจำกัดหรือก่อให้เกิดความหวาดวิตกในการนำเสนอข่าวต่อสาธารณะและประชาชน ซึ่งต้องมีความเป็นอิสระ หลากหลาย และเป็นสิ่งจำเป็นในสังคมประชาธิปไตย ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและพันธกรณีระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนที่ไทยเป็นภาคี

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net