Skip to main content
sharethis

"หยุดดอกไม้ไม่ให้ผลิบาน แต่ไม่อาจหยุดฤดูกาลที่แปรผันได้"

องค์การ นศ. 9 มหา’ลัย แถลงผิดหวัง คำวินิจฉัย ศาล รธน.ชี้เสนอแก้ ม.112 ถือเป็นการใช้สิทธิล้มล้างการปกครอง ถือเป็นก้าวก่ายอำนาจนิติบัญญัติ อาจนำไปสู่การดำเนินคดีการเมือง-ยุบพรรคฯ อย่างไม่ชอบธรรม ขอให้ผู้มีอำนาจตระหนักถึงอนาคตประเทศ 

 

2 ก.พ. 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งวานนี้ (1 ก.พ.) องค์การนิสิตนักศึกษา 9 มหาวิทยาลัย ออกแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เสนอแก้ไข/ยกเลิก มาตรา 112 ถือเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อการล้มล้างการปกครอง ชี้เป็นการก้าวก่ายอำนาจนิติบัญญัติ อาจทำให้มีการดำเนินคดีทางการเมือง และยุบพรรคการเมืองอย่างไม่ชอบธรรม 

แถลงการณ์ยังส่งเสียงถึงผู้มีอำนาจให้ตระหนักถึงอนาคตของประเทศ และแสดงความผิดหวังอย่างรุนแรงต่อศาลรัฐธรรมนูญ และยืนยันว่า แม้ว่าผู้มีอำนาจจะพยายาม "หยุดดอกไม้ไม่ให้ผลิบาน แต่ไม่อาจหยุดฤดูกาลที่แปรผันได้"

"พวกเราในนามนิสิตนักศึกษาขอส่งเสียงเรียกร้องถึงผู้มีอำนาจให้ทราบ และตระหนักถึงอนาคตของประเทศชาติ พวกเราต่างสิ้นหวังกับทุกสิ่งที่ท่านได้กระทำย่ำยีต่อหลักวิชาอันเป็นพื้นฐานที่ท่านร่ำเรียนมาเพื่อรับใช้ประชาชน หรือแม้แต่ศีลธรรมความถูกต้องที่ท่านต่างยึดถือ อำนาจที่ท่านมีมิใช่สิ่งจีรังยั่งยืน ย่อมเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป แม้ท่านจะห้ามมิให้ดอกไม้ผลิบาน แต่มิอาจหยุดฤดูกาลที่แปรผัน" แถลงการณ์ทิ้งท้าย

รายละเอียดแถลงการณ์ 

แถลงการณ์ร่วมระหว่างเครือข่ายองค์การนิสิตนักศึกษาฝ่ายบริหาร 9 มหาวิทยาลัย

กรณี ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการเสนอให้แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา เพื่อยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

เครือข่ายองค์การนิสิตนักศึกษาฝ่ายบริหาร ทั้ง 9 มหาวิทยาลัย มีความเห็นพ้องต้องกันว่า คำวินิจฉัยดังกล่าวได้สร้างบรรทัดฐานทางการเมืองไม่ถูกต้องแก่สังคมการเมืองประเทศไทย กล่าวคือ ประชาชนคือผู้มีอำนาจในการสถาปนารัฐธรรมนูญ กฎหมาย และกฎเกณฑ์ต่างๆ อันสามารถแก้ไข ปรับเปลี่ยน หรือยกเลิกได้ตามบริบทสังคมและบ้านเมืองที่แปรเปลี่ยนไปในทุกวัน โดยในห้วงเวลาที่ผ่านมา เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ปัญหาประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นั้นมีอยู่จริง และถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองมาโดยตลอด 

คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญต่อประเด็นดังกล่าวนับได้ว่าเป็นอีกครั้งหนึ่งที่สถาบันตุลาการ ซึ่งควรจะพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสิทธิ เสรีภาพของประชาชนเป็นใหญ่ กลับละทิ้งหลักการดังกล่าว แล้วเข้ามาแทรกแซงระบบการเมืองไทยอีกครั้งซ้ำแล้วซ้ำเล่านับตั้งแต่การรัฐประหาร ปีพุทธศักราช 2549 เป็นต้นมา และผลของคำตัดสินในครั้งนี้ได้สร้างความกังวลว่าอาจนำไปสู่การดำเนินคดีทางการเมืองอย่างไม่เป็นธรรมต่อผู้เห็นต่างทางการเมือง หรือแม้กระทั่งนำไปสู่การยุบพรรคซึ่งเป็นสิ่งที่มิชอบธรรมตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย

พวกเราในนามนิสิตนักศึกษาขอส่งเสียงเรียกร้องถึงผู้มีอำนาจให้ทราบ และตระหนักถึงอนาคตของประเทศชาติ พวกเราต่างสิ้นหวังกับทุกสิ่งที่ท่านได้กระทำย่ำยีต่อหลักวิชาอันเป็นพื้นฐานที่ท่านร่ำเรียนมาเพื่อรับใช้ประชาชน หรือแม้แต่ศีลธรรมความถูกต้องที่ท่านต่างยึดถือ อำนาจที่ท่านมีมิใช่สิ่งจีรังยั่งยืน ย่อมเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป แม้ท่านจะห้ามมิให้ดอกไม้ผลิบาน แต่มิอาจหยุดฤดูกาลที่แปรผัน

องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น

องค์การบริหาร องค์การนิสิต มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน

สโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่

องค์การบริหาร องค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

องค์การนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร

องค์การบริหารสโมสรนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

องค์การนิสิต มหาวิทยาลัยบูรพา

องค์การนิสิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ 

1 กุมภาพันธ์ 2567

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net