พรรครวมไทยสร้างชาติ ยื่นร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมคดีการเมือง ชื่อว่า พ.ร.บ.เสริมสร้างสังคมสันติสุข ต่อสภาฯ พร้อมยืนยันหนักแน่นไม่รวม นักโทษมาตรา 112 คดีคอร์รัปชัน และคดีอาญาร้ายแรง

25 ม.ค. 2567 สื่อ Voice TV ถ่ายทอดสดออนไลน์วันนี้ (25 ม.ค.) ที่รัฐสภา เกียกกาย อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และวิชัย สุดสวาสดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) พรรครวมไทยสร้างชาติ จังหวัดชุมพร มายื่นเป็นเจ้าของญัตติในวันนี้ ร่าง พ.ร.บ.สร้างเสริมสังคมสันติสุข หรือ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมคดีการเมือง

วิชัย ระบุว่า สำหรับหลักการและเหตุผลนั้น เนื่องจากสังคมขัดแย้งมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปีที่ผ่านมา เราต้องยอมรับว่าประชาชนเกิดความแตกแยกทางด้านความคิดของทางการเมืองอย่างรุนแรง แบ่งเป็นฝักฝ่ายทั่วประเทศ มีการชุมนุมทางการเมือง ประชาชนต่อต้านรัฐบาลที่เป็นฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองตลอดเวลา และรัฐบาลประกาศยกระดับการควบคุมการชุมนุมทางการเมืองอย่างเข้มงวด และทำให้ประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองกลายเป็นการกระทำผิดกฎหมายที่ผ่านมามาโดยตลอด 

สส.ชุมพร ระบุต่อว่า สำหรับพรรค รทสช. ต้องการนำพาประเทศไปสู่เป้าหมายเรื่องความปรองดอง และเป้าหมายการพัฒนาประเทศ เราต้องยอมรับว่าปัจจุบัน คนที่ออกมาต่อสู้ทางการเมือง หรือมีเจตนารมณ์ทางการเมือง เป็นคนที่มีฝีมือ สร้างคุณงามความดีให้กับประเทศชาติ แต่พอเกิดคดีอาญาและทางแพ่งเกิดขึ้น ทำให้เขาโดนตัดสิทธิ์หลายประการ ทำให้การขับเคลื่อนประเทศยาก วันนี้จึงเป็นนิมิตรหมายที่ดีสำหรับการเมืองไทย และของขวัญปีใหม่ไทยให้กับประชาชน

พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับ รทสช. ไม่รวมคดีอะไร

อัครเดช ระบุว่า คดีที่จะไม่เข้าข่ายได้รับการพิจารณานิรโทษกรรมคดีการเมือง มีด้วยกัน 3 กลุ่มได้แก่ 

1. กฎหมายอาญา มาตรา 112
2. คดีทุจริตคอร์รัปชัน
3. คดีอาญาร้ายแรง เช่น การฆ่าผู้อื่น ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนสูญเสียชีวิต 

พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่ 2 และเป็นตัวแทนรับหนังสือวันนี้ กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ถือว่าเป็นความใจกว้าง และความตั้งใจของสภาฯ เขาคิดว่าเรื่องนี้ได้มีเรื่องทำนองเดียวกันซึ่งบรรจุในวาระการประชุมอยู่แล้ว ตนจะกลับไปดูว่า ร่าง พ.ร.บ.ไหนที่มีเรื่องทำนองเดียวกัน จะได้เอาไปประกบเลย จะได้ไม่ต้องรอคิว