Skip to main content
sharethis

ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เผยสาเหตุตรวจแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตไม่คืบ เหตุรัฐยังไร้ข้อสรุปดำเนินโครงการ แนะขอขยายเวลาแจงได้ - 'เลขา กกต.' ไม่ขอออกความเห็นฟันถูกผิดแหล่งที่มาเงินดิจิทัลวอลเล็ตไม่ตรงปก ชี้ทุกรัฐบาลไม่ทำครบตามนโยบายหาเสียงไว้ บอกมีอำนาจพิจารณาเพียงข้อกฎหมาย

เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2567 นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต  ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน กล่าวถึงเรื่องร้องเรียนให้มีการตรวจสอบนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทของรัฐบาล  ว่าผู้ตรวจการแผ่นดินอยู่ระหว่างแสวงหาข้อเท็จจริง รายละเอียดโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท  ว่ารัฐบาลจะดำเนินการรูปแบบใด เพื่อจะนำไปสู่การตรวจสอบกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง  ว่าขัดกับรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายการเงินการคลังหรือไม่  โดยข้อเท็จจริงเท่าที่ติดตามข้อมูล  พบว่ารัฐบาลยังไม่มีความชัดเจนในรายละเอียดการปฏิบัติ

“จะต้องรอว่ารัฐบาลมีรายละเอียดโครงการเป็นอย่างไร จากนั้นจะขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับนโยบายดังกล่าวให้ข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น ความเห็นและข้อเสนอแนะ  เพื่อนำมาวิเคราะห์กับข้อกฎหมายว่าขัดหรือไม่ขัดรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายการเงินการคลังหรือไม่  ส่วนที่ต้องใช้เวลาในเบื้องต้นคือข้อเท็จจริงแห่งการร้องเรียน เนื่องจากยังไม่มีรายละเอียดเพียงพอที่พิจารณาได้”นายสมศักดิ์ กล่าว

ส่วนที่รัฐบาลมีความไม่ชัดเจนการดำเนินโครงการ  ผู้ตรวจฯ จำเป็นต้องขยายกรอบให้รัฐบาลชี้แจงหรือส่งตามกำหนดเดิมคือสิ้นเดือนมกราคมนี้ นายสมศักดิ์ กล่าวว่าหากตราบใดที่รายละเอียดยังไม่ออก เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องเร่งและเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลต่อสาธารณะ  โดยผู้ตรวจฯจะพิจารณาว่าเมื่อรัฐบาลดำเนินการแล้วผิดหรือไม่  ในชั้นนี้ยังไม่ได้ดำเนินการอะไร  แต่การเร่งรัดการดำเนินการของรัฐบาลก็เป็นกระบวนการในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือภาคประชาชนในอีกส่วน

เมื่อถามว่าผู้ตรวจการจะสามารถได้ข้อสรุปภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้หรือไม่ ภายหลังรัฐบาลส่งคำชี้แจงมาแล้ว   นายสมศักดิ์ กล่าวว่าเราคงไม่สามารถกำหนดวันไม่ได้แน่นอน เพราะต้องเริ่มว่ารัฐบาลได้กำหนดรายละเอียด วิธีการที่แน่นอน ไม่ใช่เป็นความคิดที่ตัดสินใจอะไรอย่างนั้น  อย่างไรก็ตามรัฐบาลสามารถขอขยายระเวลาในการชี้แจงกับผู้ตรวจการแผ่นดินได้

“ในชั้นนี้เท่ากับว่า  รัฐบาลยังไม่ได้ทำอะไรเลย  ยังไม่ได้มีความผิดอะไรเลย ก็ไปเรื่อยๆ แต่ถ้าเมื่อใดรัฐบาลเริ่มดำเนินโครงการและมีข้อร้องเรียนว่าทำผิด จึงจะมีเรื่องเงื่อนเวลาเกิดขึ้น”  นายสมศักดิ์ กล่าว

ทั้งนี้ ในระหว่างที่รัฐบาลยังไม่มีความชัดเจนถึงแนวทางดำเนินการเรื่องดังกล่าว   ทางผู้ตรวจการแผ่นดินจะมีข้อเสนอไปยังรัฐบาลก่อน  เหมือนคณะกรรมการรับฟังความคิดเห็นนโยบายดิจิทัล สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.หรือไม่  นายสมศักดิ์ ระบุว่า ในกฎหมายไม่ได้ให้อำนาจผู้ตรวจการแผ่นดินในการเสนอแนะล่วงหน้า  ดังเช่น ป.ป.ช.ในการป้องกันการทุจริต  แต่ผู้ตรวจการจะดำเนินการกรณีมีกระทำละเมิดกฎหมายรัฐธรรมนูญแล้ว นายสมศักดิ์  กล่าวอีกว่าในการพิจารณาของผู้ตรวจการแผ่นดิน ก็จะนำข้อมูลและประมวลความคิดเห็นของภาคส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงาน ทุกองค์กรมาวิเคราะห์  วินิจฉัยนำมาประกอบการพิจารณา  รวมถึงข้อเสนอของคณะกรรมการเพื่อศึกษาและดำเนินการรับฟังความคิดเห็นนโยบายรัฐบาล เกี่ยวกับเงินดิจิทัล สำนักงาน ป.ป.ช. มาพิจารณาด้วย  เพราะเป็นเรื่องสำคัญของประเทศ เป็นเรื่องที่มีผลกระทบต่อประเทศชาติ และประชาชนจำนวนมาก จึงดำเนินการโดยมีข้อมูลที่ครบถ้วนและรอบคอบ

ส่วนจะมีการเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งผู้ร้องและผู้เชี่ยวชาญมาให้ชี้แจงหรือไม่นั้น อยู่ที่ข้อมูล การแสวงหาข้อเท็จจริงที่ได้รับ ถ้าข้อมูลกับเอกสารที่ได้รับมีความชัดเจนเพียงพอ ก็สามารถออกคำวินิจฉัยได้เลย แต่หากข้อเท็จจริงที่ได้รับเบื้องต้นยังไม่ครบถ้วน ไม่ชัดเจน ก็อาจจะมีการประชุมหารือร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อความรอบคอบ

'เลขา กกต.' ไม่ขอออกความเห็นฟันถูกผิดแหล่งที่มาเงินดิจิทัลวอลเล็ตไม่ตรงปก

นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไทยถึงกรณีโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาล ที่สำนักงานคณะกรรมการการป้องกันและการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ให้ความเห็นว่า แหล่งที่มาของเงินเปลี่ยนไปโดยการออก พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ว่า ตนทราบเพียงแต่ในข่าวเท่านั้น ซึ่ง กกต. ต้องทำไปตามกฎหมาย พร้อมกับระบุว่าก่อนหาเสียงโครงการลักษณะนี้มีกว่า 756 โครงการ งบประมาณรวม 70 ล้านล้านล้านบาท ซึ่งขณะนั้นดูเพียงว่าผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ อย่างเช่นสัญญาว่าจะให้ หรือเข้าข่ายหลอกลวงหรือไม่ จริงหรือไม่ โดยจะพิจารณาจากการใช้งบประมาณแผ่นดินหรือไม่ และอยู่ในอำนาจหน้าที่ที่จะทำหรือไม่ รวมไปถึงอยู่ในวิสัยที่จะทำหรือไม่ แต่ไม่ได้พิจารณาถึงว่าดีไม่ดี ซึ่งดีไม่ดีเป็นเรื่องของประชาชน เพราะพรรคให้ข้อมูลกับประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งแล้ว กกต. จะพิจารณาเพียงข้อกฎหมาย เมื่อผ่านการเลือกตั้งเข้ามา ข้อเสนอแนะที่ว่าไม่ตรงปก ที่ผ่านมาทุกรัฐบาลมีโครงการที่หาเสียงไว้ บางครั้งก็ไม่ทำเลย บางครั้งก็ทำต่างจากที่หาเสียงไว้ ซึ่ง กกต. ก็ต้องมาดูว่า กฎหมายให้เราทำได้แค่ไหน ต้องมาดูว่าการที่รัฐบาลทำเพียงบางส่วนของนโยบาย ไม่ทำเลย หรือไม่ตรงผิดกฎหมายหรือไม่ พร้อมย้ำว่า กกต. ไม่สามารถทำเกินกว่ากฎหมายได้

อย่างไรก็ตาม นายแสวง ระบุว่า ตนไม่สามารถตอบได้ ว่าทางแหล่งที่มาของเงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ผิดจากที่หาเสียงไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่ ก่อนที่จะกล่าวย้ำว่า ในชั้นการพิจารณาของ กกต. จะพิจารณาเพียงการใช้เงินจากที่ใด แหล่งเงินมาจากไหน สิ่งที่ทำอยู่ในอำนาจหน้าที่หรือไม่ แต่เมื่อมีคนมาร้องก็ต้องพิจารณาว่าอำนาจของ กกต. กฎหมายให้อำนาจแค่ไหน

เมื่อถามว่า กกต. จะส่งความเห็นไปยังรัฐบาลหรือไม่ นายแสวง ยืนยันว่า กกต.ไม่มีหน้าที่วินิจฉัย หรือให้ความเห็น ต้องมีข้อเท็จจริงทางกฎหมาย แล้วจึงจะวินิจฉัยไม่สามารถให้ความเห็นก่อนได้

 

ที่มาเรียบเรียงจากสำนักข่าวไทย [1] [2]
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net