Skip to main content
sharethis

ผลประเมิน PISA ล่าสุด เด็กไทยวิกฤติ คะแนนต่ำสุดในรอบ 20 ปี แน่นอนเรื่องนี้สะท้อนถึงคุณภาพการศึกษาด้วยส่วนหนึ่ง แต่อีกนัยยะคือผลประเมินนี้กำลังบอกว่า การศึกษาไทยในแบบเดิมอาจไม่ได้ตอบโจทย์ความก้าวหน้าของโลกในทุกวันนี้ ร่วมถึงสิ่งที่เด็กต้องเผชิญในปัจจุบัน

13 ธ.ค.2566 ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร โครงการ ACCESS School ของมูลนิธิแอ็คชั่นเอด อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) ร่วมกับภาคีเครือข่ายการศึกษาและชุมชนหลายภาคส่วน จัดเวทีสาธารณะเรื่องเล่า - ประสบการณ์ - ความท้าทายและนวัตกรรมการจัดการโรงเรียนขนาดเล็กร่วมกับชุมชนในเวทีการแบ่งปันการเรียนรู้ผ่านงานเสวนาระดับชาติ

“การศึกษาที่ใกล้ตัวเราที่สุดอยู่ที่โรงเรียน อยู่ที่ชุมชน คนที่อยู่ใกล้การศึกษามากที่สุดคือ เด็ก คุณครู ผู้ปกครอง ชุมชน” รุ่งทิพย์ อิ่มรุ่งเรือง ผู้จัดการฝ่ายโครงการและนโยบาย มูลนิธิแอ็คชั่นเอด อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) สะท้อนมุมมองในเวทีดังกล่าว

จากการทำงานกับโรงเรียนเครือข่ายทั้งภาคกลาง เหนือ อีสาน โดยใช้นวัตกรรมการเรียนรู้ อาทิ โรงเรียนสอนคิด (Thinking School) ซึ่งเป็นรูปแบบการสอนที่พัฒนาขึ้นโดยโรงเรียน King’s School โอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนซ์ รวมถึงนวัตกรรมจิตศึกษา การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-Based Learning: PBL) และชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community: PLC) ที่ได้รับต้นแบบมาจากโรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา จังหวัดบุรีรัมย์ นำเครื่องมือเหล่านี้ทำงานกับโรงเรียนและครู ปรับรูปแบบการเรียนการสอนโดยเน้นการสอนแบบ Active Learning ฝึกให้ผู้เรียนได้คิดวิพากษ์และมีระบบเพื่อหาคำตอบ ซึ่งคำตอบอาจไม่ได้มีเพียงข้อเดียว จากการเรียนแบบไม่มีตำตอบตายตัวที่ใช้จิตวิทยาเชิงบวก จะเสริมสร้างนิสัยช่างคิด กล้าแสดงออก และก่อให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิตได้

“ผลลัพธ์สูงสุดอยู่ที่เด็ก การเรียนที่ไม่ต้องจัดลำดับความเก่งของเด็กด้วยคะแนนและตัวเลขบางอย่าง จากการทำงานเราได้ข้อสรุป ซึ่งเป็นแนวทางการพัฒนาโรงเรียนที่ตอบโจทย์โลกในปัจจุบันและนำพาสังคมไทยให้เป็นสังคมที่มีศักยภาพ เกื้อกูล เด็กมีทักษะชีวิต มีคุณธรรม จริยธรรม ซึ่งการมีความรู้เพียงอย่างเดียวคงไม่พอ เด็กที่มีทักษะชีวิตดีจะนำพาชุมชน สังคม ประเทศไทยให้พัฒนาขึ้นได้”

ซึ่งแนวทางนี้ ได้รับการยืนยันจากตัวนักเรียน

วริษา จันทร์อ่ำ เด็กนักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนโพธาวัฒนาเสนี อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี เล่าถึงโรงเรียนเก่าสมัยประถม คือโรงเรียนวัดโคกทอง ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก  “ในตอนที่หนูเรียนอยู่ที่โรงเรียนวัดโคกทอง  มีการสอนจิตศึกษา ทำให้เด็กมีความกล้าแสดงออก สนุกกับการเรียน เรียนง่ายขึ้น เข้าใจง่ายขึ้น ไม่มีการจด  มีแต่การแนะนำเสนอความรู้ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในห้องเรียน ข้อดีที่หนูเห็นคือ นักเรียนสนุก เรียนเข้าใจ ครูสอนทั่วถึง แถมเป็นโรงเรียนที่อยู่ไม่ไกลจากบ้าน ไม่ต้องไปเรียนในตัวเมือง สำหรับหนูรู้สึกดีมาก เรามีความรู้ มีความสามารถในการแสดงออก”

โรงเรียนขนาดเล็กไม่ได้แข่งกับใครวริษาเล่าว่า ครูแค่ต้องการให้เด็กเข้าใจที่ครูสอน ต้องการให้เด็กมีความรู้ แม้ผู้ปกครองบางท่านอาจกังวลถึงวิธีการเรียน ที่ไม่มีการบ้านให้เด็กมาทบทวนหลังเลิกเรียน แต่ท้ายที่สุดผลลัพธ์จากตัวเด็กก็เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า การเรียนรู้ไม่ใช่แค่การสอบ

โรงเรียนขนาดเล็ก เป็นปัญหาจริงหรือ ?

ชนิตา พิลาไชย หรือ ผอ.แหม่ม ประธานเครือข่ายโรงเรียนนอกกะลา (ภาคกลาง) ชวนตั้งคำถามและเล่าว่า เดิมทีปัญหาโรงเรียนขนาดเล็กเกิดขึ้นจากผลสัมฤทธิ์ของนักเรียนตกต่ำในปี 2553 - 57 ไม่ว่าผล NT ผล O - NET มีเด็กออกจากโรงเรียนเข้าไปเรียนโรงเรียนในตัวเมืองสูง เมื่อผลสัมฤทธิ์ต่ำ โรงเรียนขนาดเล็กจึงถูกปรามาสว่าเด็กไม่มีคุณภาพ

ชนิตา พิลาไชย หรือ ผอ.แหม่ม ประธานเครือข่ายโรงเรียนนอกกะลา (ภาคกลาง)

“จากเหตุการณ์นี้ เราพบว่าโรงเรียนลำปลายมาศพัฒนาได้ออกแบบนวัตกรรมที่จะช่วยให้ผู้เรียนมีคุณภาพ นั่นก็คือการเรียนรู้แบบบูรณาการด้วย PBL การสร้างให้เด็กมีภาวะจิตจดจ่อผ่านจิตศึกษา และเครื่องมือที่จะสามารถทำให้คุณครูจัดการเรียนรู้ร่วมกันและออกแบบการเรียนรู้ร่วมกันได้คือ PLC ได้ลงมือพาครูไปอบรม และลงมือทำ จนปี 2560 ได้พบกับเพื่อนโรงเรียนในเครือข่ายโรงเรียนนอกกะลา (ภาคกลาง) สร้างคุณภาพการศึกษาในห้องเรียนและทำงานร่วมกันจนถึงปัจจุบัน”

โจทย์ใหญ่ “ยุบ-ควบรวมโรงเรียนขนาดเล็ก” จนถึงวันนี้ เราสามารถแสดงผลลัพธ์ให้ได้เห็นแล้ว ทั้งร่วมมือกันพัฒนาครูให้เป็นครูมืออาชีพ มีครูโค้ชอยู่ทุกจังหวัด มีเครือข่าย และภาคประชาสังคม ให้โรงเรียนขนาดเล็กเป็นที่พึ่งของชุมชน ภาครัฐและเอกชนเสริมหนุนซึ่งกันและกัน

“เราแก้ไขปัญหาการศึกษาได้อย่างแท้จริง เกิดผลลัพธ์สูงสุดคือ เด็กทุกคนสามารถเข้าเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นได้” ผอ.แหม่มกล่าว

ปัจจุบัน โครงการ ACCESS School ชุมชนสร้างโรงเรียน โรงเรียนสร้างชุมชน มีโรงเรียนขนาดเล็กและกลางในเครือข่ายจำนวนมากกว่า 400 โรงเรียน มีชุมชนกว่า 1,400 ชุมชนและเด็กที่ได้รับผลประโยชน์จากการทำงานแล้วกว่า 60,000 คน เวทีนี้จึงเป็นเหมือนการทบทวนบทเรียนการทำงานที่ผ่านมา ในการทำงานร่วมกับกับครู โรงเรียนขนาดเล็ก ชุมชน วัด ภาคประชาสังคม ภาคเอกชน และหน่วยงานท้องถิ่น และร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อเสนอซึ่งกันและกัน 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net