สส.โรม ยื่นหนังสือสอบถามสำนักงานคดียาเสพติด ข้องใจวันสั่งฟ้องคดี 'สว.อุปกิต' วันที่ 26 ธ.ค. 66 ติดสมัยประชุมสภาฯ และ รธน.ไม่สามารถดำเนินคดีได้ ถามเหตุใดไม่ฟ้องก่อนเปิดสมัยประชุมสภาฯ ด้านโฆษก สนง.อัยการสูงสุด ยันไม่นิ่งนอนใจ แจงมีประชุมคณะทำงานหาข้อสรุปหาวันสั่งฟ้องอีกที 

16 พ.ย. 2566 เพจเฟซบุ๊ก และยูทูบ 'Friends Talk' ถ่ายทอดสดออนไลน์วันนี้ (16 พ.ย.) เมื่อเวลาประมาณ 14.34 น. รังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ จากพรรคก้าวไกล ยื่นหนังสือต่ออธิบดีสำนักงานคดียาเสพติด ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบคดีของ ‘ทุนมินลัต’ นายหน้าค้าอาวุธให้กองทัพพม่า ทำไมถึงนำตัว อุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา ไปสั่งฟ้องวันที่ 26 ธ.ค. 2566 ซึ่งตรงกับช่วงสมัยประชุมรัฐสภา 

โดยมีประยุทธ เพชรคุณ รองอธิการบดีสำนักงานคดีพิเศษ ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นตัวแทนมารับหนังสือจาก รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และร่วมกันแถลงข่าวต่อกรณีดังกล่าว

รังสิมันต์ โรม ได้ชี้แจงถึงเหตุผลที่มายื่นหนังสือว่า ตั้งใจมาถามคำถามต่ออธิบดีสำนักงานอัยการคดียาเสพติด ที่เป็นผู้รับผิดชอบคดีนี้ว่า ทำไมต้องนำตัว สว.อุปกิต สั่งฟ้องวันที่ 26 ธันวาคม 2566 ซึ่งสมัยเปิดประชุมสภาฯ (สมัยประชุมสภาฯ อยู่ระหว่าง 26 ธ.ค. 2566 จนถึง 7 เม.ย. 2567) เนื่องจากถ้ามีการสั่งฟ้องวันที่ 26 ธ.ค.นี้ อาจจะติดการอ้างเอกสิทธิ์ และการคุ้มกันตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 125 และมีคำถามว่าทำไมถึงไม่สั่งฟ้องก่อนการประชุมสภาฯ 

สส.พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ปกติแล้ว ช่วงสมัยปิดประชุมสภาฯ เป็นช่วงเวลาที่มีเร่งรัดการดำเนินคดีนักการเมือง ซึ่งไม่ใช่เร่งรัดในความหมายที่ไม่ดี แต่เป็นการเร่งรัดก่อนที่จะมีการเปิดประชุมสภาฯ เพราะว่าถ้าปล่อยไปให้เริ่มสมัยประชุมสภาฯ แล้วจะไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ เขาจึงต้องมาทำช่วงปิดสมัยประชุม

"ผมจึงเห็นว่ากระบวนการนี้อาจจะนำไปสู่วิพากษ์วิจารณ์ที่จะทำให้สังคมเคลือบแคลงสงสัยเรื่องของกระบวนการยุติธรรม จึงทำหนังสือมา และสอบถามต่อกรณีนี้อย่างใกล้ชิด หวังว่าเราจะได้รับคำตอบ" รังสิมันต์ ระบุ

สว.อุปกิต เป็นคนขอเลื่อนสั่งฟ้องเป็น 26 ธ.ค. 66 ด้วยตัวเอง

ด้าน ประยุทธ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ได้ตอบกรณีนี้ว่า ทางโฆษกฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจ หลังจากได้รับทราบว่า สส.โรม จะมายื่นหนังสือ ได้มีการมอบหมายให้ นาเคนทร์ ในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ประสานงาน อธิบดีสำนักงานคดียาเสพติด ผู้รับผิดชอบคดี ทุนมินลัต และ สว.อุปกิต ให้ชี้แจงที่มาที่ไปต่อประเด็นการยื่นหนังสือของรังสิมันต์

อุปกิต ปาจรียางกูร

ประยุทธ ระบุต่อว่า โดยปกติเป็นที่ทราบกันดีว่า ถ้าอยู่ในสมัยประชุม สส. และ สว. จะได้รับเอกสิทธิ์ทางกฎหมาย เมื่อเป็นอย่างนี้ เราไปสืบค้นว่าที่มาที่ไป ทำไมเราไม่ยื่นฟ้องก่อน 12 ธันวาคม 2566 หรือช่วงก่อนเปิดสมัยประชุมสภาฯ ก็ปรากฏข้อเท็จจริงว่า สว.อุปกิต มายื่นหนังสือขอเลื่อนการส่งฟ้องเป็น 26 ธันวาคม 2566 โดยอ้างว่าจะขอเลื่อนเป็นครั้งสุดท้าย 

ด้านนาเคนทร์ กล่าวเสริมว่า ไม่ทราบจริงๆ ว่าทำไมถึงขอเลื่อน แต่มีการอ้างว่าเป็นการเลื่อนครั้งสุดท้าย โดยเป็นการเลื่อนวันที่ 3 พ.ย. ที่ผ่านมา 

ประยุทธ ยืนยันว่า ทางสำนักงานอัยการสูงสุดไม่ทราบเรื่องสมัยประชุมรัฐสภาฯ จริงๆ เนื่องจากเป็นประเด็นนอกสำนวน แต่เมื่อทราบข้อเท็จจริงจากทาง สส.แล้ว สำนักงานอัยการสูงสุด ไม่นิ่งนอนใจ และมีการกราบเรียนกับอธิบดีสำนักงานคดียาเสพติด ถ้า สส. มายื่นหนังสือให้รีบรับหนังสือมา และจะรีบดำเนินการโดยเร่งด่วน  

โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวต่อว่า ขั้นตอนต่อจากนี้ อธิบดีสำนักงานคดียาเสพติด จะรีบประชุมคณะทำงานโดยเร่งด่วน และได้รู้ข้อเท็จจริงด้วยว่ารัฐสภาจะเปิดสมัยประชุมในวันที่ 12 ธันวาคม 2566 แม้ว่าจากวันนั้นจนถึงวันนี้จะยังมีเวลาพอสมควรในการสั่งฟ้อง แต่ต้องให้ดุลยพินิจของคณะทำงาน แต่ยืนยันว่าข้อเท็จจริงจาก สส.ต้องนำเรียนให้ครบถ้วน

“เมื่อมีประเด็นนัดส่งฟ้องเป็นช่วงเปิดสมัยประชุม และจะติดขัดเรื่องกฎหมายเอกสิทธิ์ที่สภาฯ จะไม่ส่งตัวให้กับทางศาล เมื่อรู้ประเด็นตรงนี้แล้ว เรารู้เงื่อนเวลาชัดเจนว่าหากจะดำเนินการโดยไม่ติดเอกสิทธิ์ ก็คือก่อนวันที่ 12 ธันวาคม ซึ่งวันนี้คือวันที่ 16 พฤศจิกายน ก็ยังมีเวลาอยู่พอสมควร ทางอธิบดีฯ คงต้องเรียนประชุมคณะทำงานโดยด่วน เพราะฉะนั้น จะเป็นวันไหนทางโฆษกฯ ก็คงไม่สามารถไปก้าวล่วงได้ แต่คงต้องนำเรียนข้อเท็จจริงที่ปรากฏขึ้นในวันนี้ไปนำเรียนอธิบดี และท่านก็คงจะเรียนประชุมคณะทำงาน”

“ผลการประชุมของคณะทำงานของอธิบดีฯ เป็นอย่างไร คงต้องแจ้งให้ สส.ทราบ เรียนให้สื่อมวลชน ทราบ เพื่อสื่อสารไปยังภาคประชาสังคมได้รับรู้พร้อมกัน ให้ความมั่นใจ” ประยุทธ กล่าวย้ำ 

ประยุทธ ระบุว่า ที่การทำงานเป็นไปโดยล่าช้า เนื่องจากมีประเด็นที่สำนักงานอัยการสูงสุด สั่งสอบ และแจ้งข้อหาเพิ่ม และเมื่อได้ข้อหาเพิ่มแล้ว จะมีการสั่งฟ้องต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม ทาง สว. ได้มาขอเลื่อนไปเป็นวันที่ 26 ธ.ค. อย่างที่นำเรียนข้างต้น

รังสิมันต์ กล่าวว่า พอใจคำตอบและคำอธิบายจากทางโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และเข้าใจข้อจำกัดว่าสมัยประชุมสภาฯ ไม่ได้มีซิงก์ข้อมูลกับกระบวนการยุติธรรม 

นอกจากนี้ รังสิมันต์ กล่าวขอให้ความเห็นว่าที่มีการเลื่อนออกไปวันที่ 26 ธ.ค.นี้ เพื่อให้ติดสมัยประชุม ไม่แน่ใจว่าผู้ต้องหาอาจจะกังวลเรื่องการไม่ได้รับการประกันตัว เนื่องจากคดียาเสพติด ทุนมินลัต เองไม่ได้ประกันตัวเช่นกัน 

"นัดวันนั้น เขา (สว.ทรงเอ) จะไม่มีทางมาได้ เพราะว่าเขาจะมาหรือไม่อยากมา แต่มันเป็นไปโดยผลของกฎหมาย รัฐธรรมนูญ มาตรา 125 ผมกังวลว่าถ้าติดสมัยประชุม อาจจะมีความเป็นไปได้ว่าที่เราอาจจะไม่เห็นผู้ต้องหาอยู่ในราชอาณาจักรต่อไปก็ได้ เพราะว่ามันต้องประกันตัว และคดีเหล่านี้เท่าที่ผมทราบการประกันตัวทำได้ยากยิ่ง เพราะอัตราโทษที่สูงมาก ไม่แน่ใจ ไม่กล้ายืนยันว่าจะเกี่ยวข้องกันไหม อาจจะเป็นข้อสังเกต" รังสิมันต์ กล่าว

ความคืบหน้าทางคดี ทุนมินลัต และ อุปกิต

นาเคนทร์ ในฐานะรองโฆษกฯ ระบุความคืบหน้าทางคดีว่า ขณะนี้คดีหลักของทุนมินลัต สืบพยานโจทก์เสร็จแล้ว เหลือแต่สืบพยานจำเลย โดยมีนัดสืบพยานครั้งสุดท้ายวันที่ 23 พ.ย. 2566 และก็ศาลจะไม่ให้เลื่อน จากนั้น เมื่อสืบพยานจำเลยเสร็จแล้ว คาดว่าจะมีการนัดฟังคำพิพากษาในส่วนของคดีทุนมินลัต

(หน้า) อุปกิต ปาจรียางกูร และ (หลัง) ทุนมินลัต

ส่วนคดีความของ สว. อุปกิต อย่างที่โฆษกได้นำเรียนเบื้องต้น ทางอัยการสูงสุดนอกจากมีความเห็นในการสั่งฟ้องแล้ว ยังมีการแจ้งข้อหาเพิ่ม ประกอบกับพฤติการณ์ในการกระทำความผิด ซึ่งฐานความผิดที่กระทำก็ถือว่าร้ายแรง เพราะว่ามีการสมคบกับองค์กรข้ามชาติในการกระทำความผิดอย่าง ยาเสพติด และกระทำผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งเป็นความผิดที่ร้ายแรงมาก 

นาเคนทร์ กล่าวย้ำว่า ทางสำนักงานอัยการไม่ได้นิ่งนอนใจ ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ตามพยานหลักฐานที่ปรากฏในสำนวนการสอบสวน และทำมากกว่าสำนวนที่ส่งมาครั้งแรก เนื่องจากมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติม และขอยืนยันว่าทางสำนักงานอัยการสูงสุดให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย