Skip to main content
sharethis

'เก็บตก' ประชุมสภาฯ 'สมศักดิ์' ตอบปม 'ตั๋วผู้กำกับ' ที่เศรษฐา พูดในที่ประชุมพรรค พท. เมื่อ 21 พ.ย. 66 เผยนายกฯ พูดกระชับ อาจทำให้เข้าใจผิด เป็นการสอบถาม สส.เก็บข้อมูลแก้ไขปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่เท่านั้น และนายกฯ ไม่มีอำนาจแต่งตั้ง ผกก.ตาม พ.ร.บ.ตำรวจ

 

15 ธ.ค. 2566 ยูทูบช่อง 'TP Channel' ของรัฐสภา ได้ถ่ายทอดสดการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 2 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2) วานนี้ (14 ธ.ค.) ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร รังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้สดถาม เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จากกรณีเมื่อ 21 พ.ย. ที่ผ่านมา มีคลิปที่เศรษฐา ทวีสิน พูดในที่ประชุม สส.พรรคเพื่อไทย เรื่องการแต่งตั้ง ‘ผู้กำกับ’ ตำรวจ ทำให้มีข้อสงสัยว่า มี สส.พรรค มาขอตำแหน่งกับนายกฯ

"ผู้กำกับใหม่ ซึ่งผมเข้าใจว่ามีผู้ผิดหวัง มากกว่าผู้สมหวังในห้องนี้ ที่ขอตำแหน่งไป เพราะว่ามีเยอะเหลือเกิน แต่ว่ายังมีไม่น้อย ที่ได้สมหวัง แต่ก็เป็นผู้กำกับใหม่ ที่เราต้องพูดคุยกันให้ถ่องแท้" เสียงจากคลิปที่โรม นำมาเปิดในที่ประชุมสภาฯ โดยจังหวะที่นายกฯ กล่าวในที่ประชุมของพรรคเพื่อไทย คือเมื่อ 21 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งยังอยู่ในช่วงของการแต่งตั้ง ข้าราชการ ระดับรองผู้บังคับการลงมาถึงสารวัตร ประจำปี 2566 ตามหนังสือ 009.231/4320 ออกโดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) 

จากคลิปจะได้เห็นว่า นายกฯ ระบุว่ามี สส.มาขอตำแหน่งกับนายกฯ ซึ่งหากมีการให้ผลประโยชน์เพื่อให้มีการแต่งตั้งหรือไม่แต่งตั้งตำแหน่งใด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ตามมาตรา 87 วรรคท้าย ตาม พ.ร.บ. ตำรวจ พ.ศ. 2565 และยังผิดรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 185 อนุ 3 ในกรณีของรัฐมนตรี ก็จะมีความผิดตามมาตรา 186 ทั้งหมดนี้ หากผิดจริง นายกรัฐมนตรีจะไม่ทำอะไรเลยหรือ และหากไม่จัดการอะไร นายกฯ ก็จะมีความผิดในมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา 

รังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ เคยเชิญนายกรัฐมนตรีมาชี้แจงในกรรมาธิการความมั่นคงฯ แล้ว แต่นายกฯ ส่ง สมศักดิ์ เทพสุทิน มาชี้แจงแทน ซึ่งไม่สามารถตอบคำถามได้ในหลายๆ ข้อ ซึ่งเป็นที่เข้าใจได้ เพราะว่าสมศักดิ์ ไม่ได้รับผิดชอบโดยตรงเรื่องกิจการตำรวจ วันนี้จึงมาตั้งกระทู้สด เพื่อถามนายกฯ แต่ว่านายกฯ ได้ส่งสมศักดิ์ มาตอบแทนอีกครั้ง จึงหวังว่าวันนี้นายกฯ จะส่งข้อมูลและบรีฟคำตอบให้กับสมศักดิ์มาด้วย และหวังว่าจะไม่ได้เป็นการพยายามหลบหนีการตรวจสอบ ซึ่งตั๋วตำรวจนี้ละเมิดทั้งรัฐธรรมนูญ 2560 และ พ.ร.บ.ตำรวจ

นอกจากนี้ รังสิมันต์ ระบุต่อว่า โดยปกติแล้ว การแต่งตั้งผู้กำกับตำรวจ ไม่ได้เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี และช่วงเวลาที่คลิปที่นายกฯ กล่าวเมื่อ 21 พ.ย. 2566 เป็นเวลาก่อนที่คำสั่งแต่งตั้งจะออกมาอย่างเป็นทางการ มีผู้บัญชาการหรือผู้บังคับการคนไหนเอาข้อมูลมาบอกนายกฯ ถ้าไม่รู้ด้วยตัวเองก็ต้องมีคนมาบอกใช่ไหม ถ้าทำแบบนั้นก็จะเป็นการฝ่าฝืนระเบียบ ตร. นำข้อมูลแต่งตั้งไปบอกนายกฯ ไปบอก สส.ของพรรคเพื่อไทย ท่านทำแบบนี้ได้อย่างไร การที่ตั๋วผู้กำกับ ซึ่งมีผู้ที่เกี่ยวข้องหลายส่วน แต่เรื่องกลับเงียบไม่ได้รับการตอบรับจากนายกฯ หรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ตนขอถามนายกฯ ว่าท่านจะไม่จัดการหรือทำอะไรเลยใช่ไหม เพื่อให้ตำรวจและสังคมได้เกิดความสบายใจว่าตั๋วตำรวจจะไม่มี หรือการแต่งตั้งโยกย้ายจะต้องเป็นตามธรรมาภิบาล การแข่งขันด้านความสามารถซึ่งระบุไว้ใน พ.ร.บ.ตำรวจ 

"และที่บอกว่าในห้องนี้ หมายถึง สส.พรรคท่าน ทุจริตด้วยหรือเปล่า และนโยบายของท่านที่เคยหาเสียงเอาไว้ว่าจะจัดการกับการใช้เส้นสาย ระบบอุปถัมภ์ต่างๆ ตกลงไมทำแล้วเหรอ ท่านจะปล่อยเกียร์ว่างไปแล้วใช่หรือไม่" รังสิมันต์ ทิ้งท้ายคำถามแรก

'สมศักดิ์' แจงยิบ นายกฯ ไม่ได้หมายความว่ามี สส.มาขอตำแหน่ง

สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี และได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี เพื่อตอบกระทู้สด ได้ระบุว่า วันนี้ที่นายกฯ ไม่ได้มา เนื่องจากติดการประชุมเอเชีย-ยุโรป (ASEM) สมัยพิเศษ ที่ประเทศญี่ปุ่น จึงไม่ได้มาตอบด้วยตัวเอง และจะมอบตารางการบินให้สภาฯ เพื่อเป็นหลักฐาน

สมศักดิ์ เทพสุทิน (ที่มา: TP Channel)

สมศักดิ์ ระบุต่อว่า เรื่องการโยกย้ายแต่งตั้ง ไม่มีใครสามารถแทรกแซงได้ แม้แต่ตัวนายกฯ ตาม พ.ร.บ. ใหม่ของตำรวจ มีสิทธิเสนอชื่อผู้เข้ามาดำรงตำแหน่งได้ตำแหน่งเดียวคือ ผบ.ตร. ส่วนตำแหน่งอื่นๆ เป็นอำนาจของ ผบ.ตร. แม้ว่าตัวนายกฯ จะเป็นประธานประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) 

ส่วนผู้ที่ไม่ถูกใจเรื่องการแต่งตั้งตำแหน่ง สามารถไปร้องเรียนในคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ กรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) และคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องเรียนของตำรวจ (ก.ร.ตร.) ได้ 

ส่วนเรื่องคำถามของ รังสิมันต์ โรม สืบเนื่องจากวันที่ 21 พ.ย. 2566 สมศักดิ์ ระบุว่า นายกฯ พูดแบบกระชับ ซึ่งอาจทำให้สังคมเข้าใจผิดและถูกนำไปขยายผลในเชิงลบ โดยนายกฯ กล่าวว่าในบรรทัดแรกว่า เข้าใจว่ามีผู้ผิดหวัง สะท้อนว่า “ไม่มีการช่วยเหลือ” จึงมั่นใจว่ามีผู้ผิดหวังอย่างแน่นอน 

รองนายกฯ ระบุต่อว่า ส่วนคำพูดที่ว่า “ขอตำแหน่งเข้ามาเยอะเหลือเกินนั้น” ข้อเท็จจริงคือ มี สส.ในพื้นที่เข้ามาหารือที่เป็นตัวแทนของประชาชน เพราะต้องการคนที่เหมาะสมเข้ามาพัฒนาคนในพื้นที่ของตัวเอง เพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหาอาชญากรรม มาเฟียหนี้นอกระบบ หรือการแก้ไขปัญหายาเสพติด 

ถ้าย้อนไปก่อนหน้านี้ 2 เดือน นายกฯ เคยพูดในการเปิดประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 10 ระบุว่า นายกฯ จำเป็นต้องฟังข้อมูลจากตัวแทนประชาชนในพื้นที่ และข้อมูลปัญหา มักมาพร้อมข้อเสนอของเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกฝ่าย ที่มีประสิทธิภาพ และซื่อสัตย์สุจริตมาทำหน้าที่แก้ปัญหาในทุกพื้นที่ แต่เป็นการเสนอขอในลักษณะภาพรวม เพื่อให้มีการจัดบุคลากรให้ไปดำรงตำแหน่งอย่างเหมาะสมกับการแก้ไขปัญหาแต่ละสภาพพื้นที่ ไม่ได้มีการขอให้บุคคลรายใดรายหนึ่งให้มาดำรงตำแหน่ง ดังนั้น การกล่าวในที่ประชุม ก.ตร.ครั้งนั้น ได้มีการพูดมาถึงในที่ประชุมพรรคเพื่อไทย เมื่อ 21 พ.ย. 2566

รองนายกฯ ตอบด้วยว่า นายกฯ กล่าวยืนยันอีกครั้งวันที่ 22 พ.ย. 2566 เรื่องการแต่งตั้งตนเองไม่สามารถทำได้ เนื่องจาก พ.ร.บ.ตำรวจ พ.ศ. 2565 มาตรา 56 (1) เนื่องจากรัฐมนตรีมีสิทธิแต่งตั้งแค่ ยศพลตำรวจตรีขึ้นไปเท่านั้น ซึ่งท่านไม่สามารถก้าวล่วงในส่วนนี้ได้ และ ผบ.ตร. ได้ออกมายืนยันเรื่องนี้ที่ กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 5 จ.เชียงใหม่ ว่าไม่มีใครเอาตั๋วมาให้ และนายกฯ ไม่เคยโทรมา และไม่มี สส.คนไหนมาหาทั้งสิ้น  

“ประเด็นของคำพูดคำจาตรงนี้ ต้องเรียนว่ามันแล้วแต่คนฟังจะคิด และผมมั่นใจและชัดเจนว่า ความตั้งใจของนายกฯ และดูจากการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 10 เป็นเรื่องหลัก” สมศักดิ์ กล่าว

'โรม' ถามรอบ 2 ถึงกรณีมี ตร.ลาออก ปมโยกย้ายไม่เป็นธรรม

ก่อนถามรอบที่ 2 รังสิมันต์ กล่าวว่า ตนเองไม่ติดใจที่นายกฯ ไม่มาตอบกระทู้คำถามวันนี้ แต่นายกฯ ไม่เคยมาตอบคำถามของฝ่ายค้านเลย ดังนั้น ขอให้นายกฯ นัดเวลาและสถานที่มาเลย เดี๋ยวเขาจะจัดสรรเวลาให้

ต่อมา โรม ได้หยิบยกเรื่องการลาออกของตำรวจหลายนาย เนื่องจากไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้งโยกย้ายตามที่ปรากฏเป็นข่าว เช่นกรณี พ.ต.อ.ธเนศ สุขชัย ผู้กำกับ ตม.ภูเก็ต บก.ตม.6 ที่ขอลาออกจากราชการ ก่อนย้ายไปจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หรือกรณีสารวัตรนายหนึ่งที่มีผลงานร่วมปราบทุนจีนเทา และเป็นล่ามภาษาจีนให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงใน ตร. แต่ถูกแต่งตั้งโยกย้าย จนไม่ได้ใช้ความสามารถที่ตนเองถนัด จนนำมาสู่การลาออกราชการ 

เพื่อแก้ไขปัญหาการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจอย่างไม่เป็นธรรม สส.พรรคก้าวไกล เสนอทางแก้ไขปัญหาว่า นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.ตร. ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของตำรวจ สามารถออกเป็นนโยบายได้หรือไม่ว่าให้มีการกำหนดคุณลักษณะหรือผลงานเป็นเกณฑ์ที่ชัดเจนหรือมาตรฐานในการบรรจุตำแหน่ง เพื่อลบคำครหาว่าไม่ได้เป็นเรื่องของระบบอุปถัมภ์ เส้นสาย หรือตั๋วตำรวจ และทางภาครัฐจะได้ชี้แจงได้ว่า ทำไมถึงมีการแต่งตั้งโยกย้ายลักษณะเช่นนี้

รังสิมันต์ โรม (ที่มา: TP Channel)

รองนายกฯ แจงโยกย้าย 'ธเนศ สุขชัย' เหมาะสมแล้ว

สมศักดิ์ แจงว่า การแต่งตั้งโยกย้ายตำแหน่งตำรวจ ไม่ได้เป็นการใช้ตั๋ว และเป็นไปตามแนวทางความรู้ความสามารถด้านกฎหมาย ที่มีอยู่ในขณะนี้ 

คำถามที่ว่าเรื่องเกี่ยวกับตำรวจลาออก สมศักดิ์ ระบุว่า จำนวนตำรวจ 3 แสนกว่านาย และข้าราชการได้รับการแต่งตั้งไม่เต็มจำนวน 2 แสนกว่านายเท่านั้น และส่วนของพนักงานสอบสวนในขณะนี้มีบรรจุในตำแหน่ง 1.2 หมื่นคน ทั้งที่อัตรามีถึง 1.8 หมื่นคน ซึ่งเราได้พยายามเกลี่ยไปตามงานที่คั่งค้างอยู่ 

รองนายกฯ ได้กล่าวถึงประเด็นการลาออกของ พ.ต.อ.ธเนศ สุขชัย ด้วยว่า เกณฑ์ที่นำมาใช้แต่งตั้งโยกย้ายนั้นดูที่ความรู้ความสามารถ ความเหมาะสม และอายุราชการตามทิศทางการดำรงตำแหน่ง โดยกรณีโยกย้ายธเนศนั้น คนที่มาแทนคือ เกรียงไกร อาริยะยิ่ง ผู้กำกับ ตม. นครพนม ซึ่งมีอายุรับราชการถึง 15 ปี สูงกว่า ธเนศ ซึ่งมีอายุรับราชการเพียงแค่ 6 ปีเท่านั้น ดังนั้น หากดูจากความรู้ ความสามารถ และอายุราชการ จึงไม่น่าเป็นที่สงสัยเลย  

'โรม' จี้รอบ 3 ภาระงานล้นโรงพัก เหตุ ตร.ลาออกราชการไม่พอใจคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายไม่เป็นธรรม

โรม กล่าวต่อว่า เขาสะท้อนปัญหากำลังคนขาดในโรงพักแห่งหนึ่ง อันเนื่องมาจากตำรวจหลายนายลาออก เพราะว่าไม่พอใจคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจไม่เป็นธรรม โดยรองผู้กำกับสอบสวน ที่ต้องมาดำรงตำแหน่งไม่อยากอยู่ ก็ทำเรื่องลาออก สารวัตรสอบสวน ทำเรื่องสลับตัวเพื่อกลับบ้านเกิด ก็ไม่ได้กลับ ก็ทำเรื่องลาออก และรองสารวัตรอีกรายไปอยู่โรงพักอื่น ทำให้ตอนนี้เหลือตำรวจร้อยเวรคนเดียว และตำรวจรายดังกล่าวเพิ่งประสบอุบัติเหตุ ทำให้ไม่มีตำรวจเข้าเวร จึงอยากให้ทางการส่งคนมาเข้าที่โรงพัก

โรม กล่าวต่อว่า แม้ว่าสมศักดิ์ ระบุว่าทำไปตามกฎหมายแล้วก็ตาม แต่มีตำรวจลาออกเพราะรู้สึกว่าเขาไม่ได้รับความเป็นธรรม และไม่ได้เกิดขึ้นแค่ที่เดียว แต่เกิดขึ้นหลายที่ โดยเฉพาะพนักงานสอบสวน

โรม ระบุต่อว่า การโยกย้ายตำแหน่งอาจจะไม่ได้แย่ขนาดนี้ ถ้าการโยกย้ายตำแหน่งเป็นธรรม ไม่มีเรื่องตั๋ว หรือการขอตำแหน่ง ตำรวจที่เป็นพนักงานสอบสวน เขาไม่อยากมา และถ้าเกิดไปแจ้งความที่โรงพัก หลายกรณีเขาไม่อยากรับแจ้งความ เพราะว่ากำลังพลเขาไม่เพียงพอ งานมันเยอะ ตำรวจเขาต้องทำสมุดหลอกๆ และลงบันทึกเอาไว้ เพื่อให้ประชาชนไม่มีคำถาม แต่มันไม่ออกเลขคดี ถามหน่อยว่าจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร

สส.พรรคก้าวไกล ระบุด้วยว่า อีกประเด็นที่อยากถามรองนายกฯ คือไม่ได้มีการบรีฟจากนายกฯ ใช่หรือไม่ ว่าสิ่งที่พูดในวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมามีความหมายว่าอย่างไร โดยอนุญาตให้ตอบแค่ว่า ‘ใช่หรือไม่’ ก็ได้

สมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องเหล่านี้มันสมควรกับคำถามคำตอบและเวลาที่ได้ดำเนินมาตั้งแต่วันที่ 21 พ.ย. และการตรวจสอบได้มีการร้องเรียนขั้นตอนของ ป.ป.ช. และผลการพิจารณาจะออกมาอย่างไร เป็นอีกส่วนหนึ่ง และมองว่าควรจะเพียงพอได้แล้ว 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net