Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

กองทุนประกันสังคมที่จัดเก็บเงินสมทบจากนายจ้างและลูกจ้างจนมียอดกองทุนถึง 2.3 ล้านล้านบาท ดูแลผู้ประกันตนกว่า 24 ล้านคน แต่เดิมบริหารงานภายใต้การสมคบคิดระหว่างรัฐ-นายจ้างและลูกจ้าง โดยคณะกรรมการประกันสังคมฝ่ายผู้ประกันตนมักหมุนเวียนกันอยู่ในหมู่แกนนำสหภาพแรงงานไม่กี่คน ทำให้เงินกองทุนประกันสังคมกว่า 2 ล้านล้านบาทถูกนำไปลงทุนเสริมสภาพคล่องและเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มธุรกิจด้านต่างๆ ถึงแม้มีกำไรตั้งแต่ปี 2563-2564 ประมาณ  3.36%หรือ เฉลี่ยแล้วประมาณ 1.66% แต่ก็ยังต่ำกว่าการลงทุนในกองทุนอื่น ๆซึ่งกำไรเฉลี่ย 3-5 %

ในขณะที่ปลัดกระทรวงแรงงานจะเป็นประธานคณะกรรมการกองทุนประกันสังคม โดยที่รัฐบาลไม่ยอมจ่ายเงินสมทบยังคงติดหนี้กองทุนรวม 7 หมื่นล้านบาทด้วยกัน  ที่ผ่านมา กระทรวงแรงงานได้นำเงินประกันสังคมออกมาใช้เกินแสนล้านบาทไปแล้ว ที่สำคัญบอร์ดประกันสังคมชุดปัจจุบันนี้ถูกแต่งตั้งโดย คสช. 

แหล่งข่าวภายในสำนักงานประกันสังคมยังบอกอีกว่าที่ผ่านมา ตัวแทนฝ่ายลูกจ้างในบอร์ดประกันสังคมมักจะไม่เท่าทันตัวเลขสถิติและคณิตศาสตร์ประกันภัย จึงมักจะผ่านความเห็นชอบในการอนุมัติใช้เงินประกันสังคมแบบกินหรูอยู่สบายจ่ายไม่อั้นด้วยเบี้ยการประชุมและการอนุมัติโครงการต่างๆ  การอนุมัติการลงทุนสินทรัพย์อัตราเสี่ยง ตลอดจนดูงานต่างประเทศกันทุกแผนก โดยการดูงานส่วนใหญ่จะเป็นการไปชอปปิ้งและท่องเที่ยวมากกว่า เมื่อปีแล้วยังมีการแก้ไขระเบียบให้คณะกรรมการมีสิทธิอนุมัตินำเงินกองทุนประกันสังคมไปลงทุนสินทรัพย์ประเภทที่มีความเสี่ยงมากขึ้นรวมทั้งเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในต่างประเทศได้เต็มที่

ในขณะที่ การจ่ายเงินสิทธิประโยชน์ให้กับผู้ประกันตนอยู่ในอัตราที่ต่ำเป็นอย่างมากตัวอย่างเช่น จ่ายค่าทำฟันปีละ 900 บาท หรือ สงเคราะห์บุตรจ่ายให้เดือนละ 800 บาทในอายุ 6ปี  เหมาจ่ายลาคลอดครั้งละ 15000 บาท ทดแทนรายได้การว่างงานได้ 50 % เป็นเวลา 6 เดือนหรือ มาตรฐานการรักษาพยาบาลต่ำจากความแออัดของผู้ป่วยในโรงพยาบาลประกันสังคม  ในปี 2565 ประกันสังคมจ่ายให้เพียง ในปี 2566 จ่ายสิทธิประโยชน์ให้ผู้ประกันตนเพียง 63,109.27 ล้านบาท คิดเป็น 0.000325 เปอร์เซ็นต์

การบริหารงานกองทุนภายใต้การครอบงำโดยกระทรวงแรงงาน สิทธิประโยชน์ผู้ประกันตนตกต่ำมาก และยังต้องเผชิญกับอัตราเสี่ยงไร้เสถียรภาพจากสัดส่วนประชากรวัยแรงงานลดน้อยลง ในขณะที่ประชากรสูงวัยเพิ่มมากขึ้น

กลุ่มแรงงานซึ่งเป็นผู้ประกันตนส่วนใหญ่ในนามเครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชน โดย ธนพร วิจันทร์  ลักษมี สุวรรณภักดี เซีย จำปาทอง จึงเรียกร้องให้มีการจัดการเลือกตั้งคณะกรรมการประกันสังคมขึ้น จนในที่สุดกำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 24 ธันวาคม 2566

เป็นที่น่าสังเกตว่า คณะกรรมการจัดการเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมกำหนดวันเลือกตั้งในช่วงปลายปี ซึ่งหลายแห่งให้ลูกจ้างหยุดงานยาวในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ จะทำให้ลูกจ้างที่ลงทะเบียนไว้แล้วไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคม ในขณะเดียวกัน สำนักงานประกันสังคมและกระทรวงแรงงานยังไม่ทำการรณรงค์อย่างจริงจังกระตุ้นให้ผู้ประกันตนไปลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้ง ทำให้มีจำนวนผู้ลงทะเบียนช่วงแรกแค่ 2 หมื่นคน แต่ด้วยพรรคก้าวไกลเล็งเห็นความสำคัญจึงให้ สส.พรรคก้าวไกล ทำการรณรงค์เชิญชวนให้ผู้ประกันตนไปลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งซึ่งจะหมดเขตในวันที่ 31 ตุลาคม 2566 นี้ ทำให้ผู้ลงทะเบียนเพิ่มขึ้นมาเป็น 2 แสนคน แต่ก็ยังต่ำต้วมเตี้ยมอยู่มากเมื่อเทียบกับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง14ล้านคน 

มีการวิเคราะห์กันว่า การที่กระทรวงงานและสำนักงานประกันสังคมไม่กระตุ้นการเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมเท่าที่ควรนั้น มีความเป็นไปได้ในการจงใจเอื้อประโยชน์ให้คนบางกลุ่มซึ่งลงสมัครรับเลือกตั้งบอร์ดประกันสังคมให้ได้คะแนนเสียงจากจำนวนผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิในจำนวนน้อย(เพราะถูกเกณฑ์หรือทำการลงทะเบียนแทนกัน) 

เฉพาะผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งเท่านั้นที่จะมีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งคณะกรรมการประกันสังคม ซึ่งจะหมดเขตการลงทะเบียนในวันที่ 31 ตุลาคม 2566 นี้เท่านั้น ขณะที่ผู้สมัครรับการเลือกตั้งในนามของ”ประกันสังคมก้าวหน้า”นำโดย ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี เรียกร้องให้ขยายเวลาการลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งไปอีกเพื่อให้มีผู้ใช้สิทธิเพิ่มมากขึ้น

การเลือกตั้งคณะกรรมการประกันสังคมในวันที่ 24 ธันวาคม 2566 จึงเป็นช่วงเวลาสำคัญของการเปลี่ยนแปลงการประกันสังคมในประเทศไทยให้มีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้นจากที่เป็นเสมือนโครงข่ายนิรภัยทางสังคม ( Social Safety Net) ให้มุ่งสู่รัฐสวัสดิการ (Welfare Stat)ที่เป็นหลักประกันชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีให้กับประชาชนทุกคน

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net