'จัจด์' นักกิจกรรมการเมือง วัย 24 ปี เข้าแจ้งความกับ สน.พหลฯ หลังถูก อานนท์ กลิ่นแก้ว ปธ.ศปปส. ขู่ทำร้ายร่างกาย จากเหตุการณ์ไล่ 'บัสบาส' หน้าศาลอาญา รัชดาฯ เมื่อ 15 ต.ค. 66 

18 ต.ค. 2566 จัจด์ (สงวนชื่อ-นามสกุล) อายุ 24 ปี นักกิจกรรมทางการเมือง ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว เปิดเผยว่า เมื่อ 15 ต.ค. 2566 เธอได้เข้าแจ้งความกับ สน.พหลโยธิน เนื่องจากถูก อานนท์ กลิ่นแก้ว ประธานกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน หรือ ศปปส. และพรรคพวก ข่มขู่ทำร้ายร่างกาย หน้าศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก

เหตุการณ์ดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อช่วง 17.10 น. ของวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา มงคล ถิระโคตร หรือ บัสบาส อายุ 29 ปี ผู้ถูกกล่าวหาคดี มาตรา 112 ได้ปีนขึ้นไปที่ป้ายสำนักงานศาลยุติธรรม ศาลอาญา เพื่อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เทศกิจ นำเอาสัมภาระของเขาที่ยึดไปมาคืน เพราะเทศกิจเข้าใจว่าบัสบาส เป็นบุคคลไร้บ้าน

ต่อมา เมื่อ 18.10 น. อานนท์ กลิ่นแก้ว ประธานศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน หรือ ศปปส. และพรรคพวก ได้เดินทางมายังหน้าศาลอาญา รัชดาฯ และมีการตะโกนด่อทอ และขว้างขวดน้ำเข้าใส่ "บัสบาส" เหตุจากไม่พอใจที่บัสบาส ไปยืนอยู่ในจุดเดียวกับที่พระบรมฉายาลักษณ์ของรัชกาลที่ 10 ติดตั้งอยู่ และมองว่าตำรวจไม่สามารถจัดการพาตัวบัสบาส ลงมาได้ ทางกลุ่มจึงตัดสินใจมาที่ศาลฯ ด้วยตัวเอง

ทั้งนี้ ภาพจากไลฟ์สดของประชาไท และสื่ออิสระ "ลุงดร เกตุเผือก" ของภราดร เกตุเผือก ได้แสดงให้เห็นว่า อานนท์ และพรรคพวก มีพฤติกรรมข่มขู่ผู้สื่อข่าวทั้ง 2 สื่อ บางคนมีการปิดบังใบหน้ามิดชิดโดยการสวมหมวกกันน็อค และมีการพกพาสิ่งของที่สามารถนำมาใช้เป็นอาวุธอย่างแท่งเหล็กยาวเข้ามาด้วย

ภาพจากไลฟ์สด อานนท์ กลิ่นแก้ว ตะโกนใส่ ศรายุธ ตั้งประเสริฐ ผู้สื่อข่าวประชาไท

นอกจากพฤติกรรมดังกล่าวแล้ว อานนท์ กลิ่นแก้ว และพรรคพวก ยังทำร้ายร่างกายโดยการต่อยเข้าที่ใบหน้าโชคดี ร่มพฤกษ์ หรืออาเล็ก โชคร่มพฤกษ์ ศิลปินเพลงราษฎร และนักกิจกรรมทางการเมือง ที่กำลังทำกิจกรรมเรียกร้องสิทธิประกันตัวให้ผู้ถูกคุมขังทางการเมืองหน้าศาลอาญา ถ.รัชดาฯ จนเกิดเป็นเรื่องราวชุลมุน และภายหลัง โชคดี บอกว่าตนเองจะขอใช้เวลา 30 นาที เพื่อเก็บสัมภาระ และย้ายออกจากพื้นที่หน้าศาลฯ  

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 19.13 น. ภาพจากไลฟ์สดของสื่อ ภราดร เกตุเผือก ที่หน้าศาลอาญา เผยให้เห็นว่า อานนท์ กลิ่นแก้ว และพรรคพวก ได้วกกลับมาที่หน้าศาลฯ อีกครั้ง ก่อนที่จะเข้าไปพูดและขับไล่ภราดร ที่กำลังไลฟ์สดอยู่ นอกจากนี้ ภาพวิดีโอแสดงให้เห็นด้วยว่า ตัวของอานนท์ พยายามยั่วยุและเอาตัวเข้ามากระแทกสื่ออิสระ มีการกระทำคล้ายพยายามแย่งและปัดโทรศัพท์ออกไป

นอกจากนี้ ภาพไลฟ์สดของภราดร พบว่า พรรคพวกของอานนท์ มีการทำร้ายร่างกาย โดยรัวหมัดต่อยไปยังผู้ชายสวมเสื้อยืดสีเขียว ขณะที่ตำรวจทำเพียงแค่ระงับเหตุเท่านั้น 

ภาพเหตุการณ์ขณะที่ อานนท์ และพรรคพวกกำลังรุม ภราดร เกตุเผือก

ไลฟ์สดของเพจเฟซบุ๊ก "ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน" ระบุว่าเหตุที่ทางกลุ่มเข้าไปขับไล่ภราดร เนื่องจากก่อนหน้านี้ ทางโชคดี กล่าวกับพวกเขาว่า จะเก็บของและย้ายออกจากพื้นที่ภายในเวลา 30 นาที แต่หลังจากทางอานนท์ กลับมาที่หน้าศาลฯ พบว่า ภราดร สื่ออิสระยังอยู่ในพื้นที่ จึงเข้าไปพยายามขับไล่ 

จัจด์ ผู้ที่แจ้งผู้สื่อข่าวว่าเธอถูกข่มขู่ในเหตุการณ์ที่หน้าศาลอาญาช่วงเวลาดังกล่าวด้วย โดยประธาน ศปปส. ขู่เธอว่า 'ห้ามถ่ายวิดีโอ' และ 'เห็นเป็นผู้หญิงแบบนี้กูก็สามารถทำร้ายร่างกายได้เหมือนกัน คิดว่าเป็นผู้หญิงแล้วกูจะไม่กล้าทำเหรอ' 

"ช่วงแรกที่โดนข่มขู่ อาการแพนิกกำเริบ และวันจันทร์ ยังหวาดกลัวอยู่ ตอนนี้รู้สึกว่าโอเคขึ้นแล้ว หลังได้รับกำลังใจจากทุกคนที่ทราบว่าจัจด์โดนคุกคาม" จัจด์ กล่าว 

การข่มขู่ดังกล่าว ทำให้จัจด์ กังวลด้านความปลอดภัย และมีผลกระทบทางด้านจิตใจ และเธอตัดสินใจเดินทางไปแจ้งความที่ สน.พหลโยธิน ในวันเดียวกับวันเกิดเหตุตามที่รายงานข้างต้น เบื้องต้น จัจด์ ได้แจ้งความกับทางกลุ่ม ศปปส. นำโดย อานนท์ กลิ่นแก้ว และพรรคพวก ราว 4-5 คน ที่อยู่หน้าศาลอาญา 

จัจด์ กล่าวด้วยว่า แม้ว่าท้ายที่สุด จะมีการลงบันทึกประจำวันกรณีที่เธอถูกกลุ่มคนปกป้องสถาบันข่มขู่ก็ตาม แต่เธอรู้สึกว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นมีท่าทีบ่ายเบี่ยงไม่รับข้อร้องทุกข์ของเธอ ทั้งที่การข่มขู่ทำร้ายร่างกายเป็นเรื่องสำคัญ และในความเห็นของเธอ ตำรวจควรจริงจังมากกว่านี้ เพราะว่ากลุ่ม ศปปส. เคยก่อลักษณะคล้ายกันนี้มาก่อน เมื่อปี 2565 

ย้อนไปก่อนหน้านี้ อานนท์ กลิ่นแก้ว ประธาน ศปปส. มีการก่อเหตุทำร้ายร่างกายกับนักกิจกรรม ‘สายน้ำ’ นภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ นักกิจกรรมการเมืองรุ่นใหม่ ที่สนามหลวง เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2566 

จัจด์ กำลังพิจารณาแจ้งความ มาตรา 157 หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ กับทางตำรวจ สน.พหลโยธิน เพิ่ม และในอนาคต อาจมีการฟ้องร้องอานนท์ ต่อศาลจากกรณีนี้

สำหรับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการระงับเหตุกระทบกระทั่งหน้าศาลฯ นั้น ตัวของนักกิจกรรมมองว่าไม่โอเคกับการทำหน้าที่ของตำรวจมากๆ เนื่องจากตำรวจไม่ได้ทำอะไรมาก นอกจากพยายามแยกทั้ง ศปปส.และทางฝั่งภราดร และประชาชน ออกจากกันเท่านั้น 

นอกจากนี้ จัจด์ ระบุว่า เธออยากให้ตำรวจทำหน้าที่อย่างสุจริต และเที่ยงตรง ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา เหตุการณ์รุนแรง เนื่องจากเธอพบว่า ศปปส.พกพาสิ่งของคล้ายอาวุธเข้ามาด้วย อย่างแท่งเหล็ก ซึ่งตำรวจก็ไม่มีการจับกุม แม้ว่าตำรวจเองจะมีทั้งกุญแจมือ และ tesser gun หรือปืนช็อตไฟฟ้าก็ตาม

นักกิจกรรมวัย 24 ปี กล่าวทิ้งท้ายว่า ตรงนี้ทำให้สงสัยการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เลยทำให้อยากให้เกิดการปฏิรูปตำรวจ หวังว่าเสียงเล็กๆ ของคนที่ถูกคุกคาม และไม่ได้รับความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะช่วยเปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้าง

ชายสวมผ้าพันคอลายพรางที่พกท่อนเหล็ก