Skip to main content
sharethis

ดร เกตุเผือก นักข่าวพลเมือง เล่าเหตุการณ์ถูก ศปปส.ที่นำโดยอานนท์ กลิ่นแก้ว เข้าคุกคามตอนไลฟ์เหตุการณ์ “บัสบาส” ปีนป้ายศาลอาญาเมื่อค่ำวานนี้ สะท้อนเคยถูกข่มขู่มาแล้วสองครั้งแจ้งความก็แล้วแต่ไม่มีการดำเนินการอะไร ล่าสุดมีตำรวจในเหตุการณ์แต่ก็ไม่ได้ระงับเหตุจับกุมทั้งที่เกิดเหตุ ศปปส.เข้าทำร้ายร่างกายคน

16 ต.ค.2566 หลังจากเมื่อวานนี้เกิดเหตุการณ์มงคล ถิระโคตร หรือ บัสบาส นักกิจกรรมที่มาทำกิจกรรมเรียกร้องสิทธิประกันตัวผู้ต้องขังทางการเมืองโดยปักหลักค้างคืนอยู่ที่หน้าศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ถูกกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) เข้าขัดขวางขับไล่ออกจากพื้นที่ และยังขับไล่กลุ่มนักกิจกรรมคนอื่นๆ ในบริเวณดังกล่าว อีกทั้งสุดท้ายกลุ่ม ศปปส. ยังเข้าทำร้ายร่างกายคนที่ผ่านมาดูเหตุการณ์ด้วย

ศปปส.คุกคามนักกิจกรรมและนักข่าวหน้าศาลอาญา บานปลายรุมทำร้ายรัวหมัดใส่คนผ่านมาดูด้วย

ภาราดร เกตุเผือก นักข่าวพลเมืองวัย 57 ปี ที่ไลฟ์กิจกรรมทางการเมืองผ่านช่องยูทูปและเฟซบุ๊กในชื่อ “ดร เกตุเผือก” ให้สัมภาษณ์กับประชาไทในฐานะที่เป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ว่าหลังจากเขาทราบเรื่องที่มงคลถูกขโมยของใช้ส่วนตัวที่อยู่ในบริเวณหน้าศาลและมาทราบภายหลังว่าเป็นเทศกิจที่ยึดของเขาไปจนทำให้มงคลปีนขึ้นไปบนป้ายศาลอาญาซึ่งมีการติดตั้งพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงรัชกาลที่ 10 เพื่อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เอาทรัพย์สินของเขามาคืน แต่สุดท้ายแล้วแม้จะได้ของคืนแต่เงินสดที่เขาพกไว้ 5,000 บาทกลับหายไปทำให้เขาไม่ยอมลง และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่นำตัวเทศกิจคนดังกล่าวมาปรากฏตัวชี้แจงและนำเงินมาคืน ไม่เช่นนั้นก็จะไม่ลงจากป้าย

ภาราดรเล่าว่า ระหว่างที่เขาไลฟ์เหตุการณ์ตำรวจกำลังเจรจากับมงคลอยู่ ก็มีกลุ่ม ศปปส.ที่ขับรถกันมาโดยมีอานนท์ กลิ่นแก้ว ประธานของกลุ่มมาด้วย และเอาข้าวของของมงคลที่อยู่หน้าป้ายขว้างปาใส่มงคลพร้อมกับเรียกให้ลงมาจากป้าย และมีชายลักษณะอ้วนเตี้ยที่สวมชุดลายทางสวมผ้าพันคอลายพรางถือแท่งเหล็กพูดจาข่มขู่ตนว่า “พวกมึงอย่าไลฟ์นะ พวกมึงอย่ามีปัญหานะ ไม่งั้นกูตี” และยังไปข่มขู่นักข่าวของประชาไทต่อทั้งที่มีการพูดแสดงตัวและแสดงบัตรนักข่าว

นักข่าวพลเมืองรายนี้เล่าต่อว่าพอมงคลถูกขว้างปาของใส่ก็ลงจากป้ายไปทางด้านในบริเวณลานจอดรถของศาล กลุ่ม ศปปส. ก็เดินไปหาโชคดี ร่มพฤกษ์ หรือ อาเล็ก โชคร่มพฤกษ์ นักดนตรีประจำการชุมนุม และมวลชวนที่อยู่ห่างออกไปทางป้ายรถเมล์หน้าศาล ชายสวมเสื้อฟ้าที่คนในกลุ่มเรียกกันว่า “บัง” ก็เข้าไปชกเข้าที่ใบหน้าของโชคดีทั้งที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว และก็มีการขู่ตะคอกให้โชคดีต้องย้ายออกจากพื้นที่ไปถ้าไม่ทำก็จะเอาเรื่อง และยังมาเดินป่วนไปข่มขู่คนในบริเวณนั้นสั่งให้คนอื่นๆ ย้ายออกด้วย

“สุดท้ายอาเล็กก็กลัวว่าจะมีเรื่อง ตำรวจก็ออกหน้าห้ามไม่ให้มีการทำร้ายกัน ศปปส. ก็บอกอีกว่าถ้าไม่ออกจากพื้นที่มันไม่ยอม จนสุดท้ายอาเล็กก็ตัดสินใจบอกกับพวกมันว่าขอเวลาครึ่งชั่วโมงในการเก็บของ ศปปส.ก็ถอนตัวออก” ภาราดรกล่าวถึงเหตุการณ์ก่อนที่จะทำให้แต่ละคนต้องแยกย้ายกันกลับ แต่ตัวเขายังคงอยู่ในบริเวณนั้นเพื่อรอดูว่ามงคลปลอดภัยหรือไม่เพราะกังวลว่าจะถูกรุมทำร้ายระหว่างถูกนำตัวไป สน.พหลโยธิน และยังมีคนที่มาไลฟ์ด้วยกันฝากกล้องไว้กับเขาเพื่อที่จะเข้าไปข้างใน

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าจากไลฟ์ของกลุ่ม ศปปส. เมื่อคืนวานนี้ทำให้ทราบว่าทาง ศปปส.หลังจากออกจากพื้นที่หน้าศาลไปได้เดินทางไปทำการลงบันทึกประจำวันที่ สน.พหลโยธินด้วยเช่นกัน

ภาราดรเล่าต่อว่าระหว่างที่ตนกำลังไลฟ์รอมงคลและคนที่ฝากกล้องไลฟ์กับเขาอยู่ อานนท์และสมาชิกกลุ่ม ศปปส.กลับมาที่หน้าศาลอีกครั้งแล้วเข้ามารุมคุกคามตน

ภาพเหตุการณ์ขณะ ศปปส.รุมล้อมคุกคามภาราดร ภาพจากไลฟ์ของ ศปปส.

“จากไลฟ์ทั้งของลุงและ ศปปส.ก็เห็นชัดเลยว่าต้องการมาป่วนลุง พอป่วนลุงไปสักพักหนึ่งลุงก็เอามือยันออกแต่ลุงไม่ได้ตีก็เอามือผลักมันออก มันก็เอาไหล่มาชนลุงก็เอามือผลักออก สักพักก็มีลุงแก่ๆ คนหนึ่งมากับลูกชายกับเพื่อนลูกชายมากันสามคนมาช่วยลุง แต่พอเข้ามาช่วยมันเล่นงานเขาก่อนมันโดดถีบเด็กก่อน แล้วอานนท์ก็ล็อคคอเด็ก คนชื่อบังก็ชกหน้าเด็กรัวเลยในคลิปเป็นชัด แล้วมันก็ผลักตัวลุงออกเพื่อไม่ให้ลุงถ่าย ลุงก็ถอยเซไปเรื่อยๆ จนกระทั่งลุงตัดสินใจวิ่งลงไปกลางถนนแล้วก็ไปถ่ายไลฟ์อยู่กลางถนนจนถ่ายได้สำเร็จ สักพักหนึ่งตำรวจก็ออกมาห้ามไม่ให้ ศปปส.ไปตีผู้ชายสามคนที่มาช่วยลุง” นักข่าวพลเมืองเล่าถึงเหตุการณ์ช่วงที่กลุ่ม ศปปส.เข้ารุมทำร้ายคนที่มาดูเหตุการณ์

ภาพเหตุการณ์ขณะ ศปปส.รุมล้อมคุกคามภาราดรแล้วมีคนเข้ามาแทรกเพื่อช่วยเหลือภาราดร ภาพจากไลฟ์ของ ศปปส.

ภาราดรเล่าต่อว่าตนยังยืนยันที่จะอยู่ในพื้นที่เพราะห่วงมงคลที่ยังไม่รู้ว่าถูกพาไปสถานีตำรวจแล้วหรือยังและกล้องของคนที่มาไลฟ์ที่เขารับฝากไว้ กลุ่ม ศปปส.ก็บอกว่าจะเอาเรื่องทำให้ตำรวจเข้ามาห้ามแต่ทาง ศปปส.ก็ยังขู่ จนสุดท้ายทาง ศปปส.ได้ถอยไป แล้วทางกลุ่มมวลชนที่เป็นเพื่อนพวกตนมาถึงกันหลายคนจึงได้ทราบว่ามงคลถูกเอาตัวออกจากศาลไปแล้ว

นักข่าวพลเมืองเล่าถึงหลังเหตุการณ์ว่าโชคดี และมงคลได้ดำเนินการแจ้งความเหตุที่ตนถูกกลุ่ม ศปปส. ทำร้ายร่างกาย ซึ่งเขาได้คุยกับชายทั้งสามคนที่มาช่วยตนแล้วถูก ศปปส.ทำร้ายให้แจ้งความด้วยแต่ไม่ทราบว่าได้มีการดำเนินการแล้วหรือไม่

ภาพเหตุการณ์ขณะ ศปปส.รุมล้อมคุกคามภาราดรที่หน้าประตูศาลอาญาที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ภาพจากไลฟ์ของ ศปปส.

ภาราดรกล่าวว่าที่ผ่านมาเขาเคยถูก อานนท์และสมาชิกกลุ่ม ศปปส.เข้ามาข่มขู่คุกคามมาก่อนแล้วระหว่างทำกิจกรรมที่หน้าศาลอาญา รัชดาฯ  2 ครั้งนปีนี้ ครั้งแรกเมื่อ 27 มี.ค. ครั้งที่สองเมื่อ 20 เม.ย. เขาเองก็ได้แจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลเหล่านี้ที่ สน.พหลโยธินทั้ง 2 ครั้ง แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าอะไร แม้ว่าการชุมนุมทำกิจกรรมที่หน้าศาลนี้พวกเขาจะดำเนินการแจ้งจัดชุมนุมต่อ สน.พหลโยธินตาม พ.ร.บ.ชุมนุมฯ ซึ่งทางตำรวจก็ให้จัดได้เพียงแต่ขอว่าอย่ามีเหตุทำร้ายร่างกายกันและหากมีเหตุอะไรก็ให้แจ้งตำรวจมาดำเนินการ เพราะถ้าเกิดเหตุทำร้ายร่างกายกันการชุมนุมต้องยุติลงทันที

“เมื่อวานคือครั้งที่สาม ก็มีคำถามตามมาแล้วว่าสองครั้งที่โดนข่มขู่คุกคามจากคนคนเดียวกันและกลุ่ม ศปปส. ทำไมตำรวจเงียบ ทำไมไม่ตามเรื่อง จนกระทั่งเกิดการข่มขู่คุกคามทำร้ายร่างกายครั้งที่สามที่ตัวลุงและมวลชนอันนี้เรื่องใหญ่ละ” ภาราดรกล่าวและเขายังหวังให้ทางตำรวจรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้น

ภาพขณะคนชื่อบัง(ชายสวมเสื้อฟ้า) ทำร้ายร่างกายชายที่เข้ามาดูเหตุการณ์ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นลูกชายของชายสูงอายุสวมหน้ากากอนามันสีดำสวมหมวกแก๊ปที่เข้าแทรกแซงเหตุการณ์

“ลุงถามตำรวจทั้งนายพันทั้งสายตรวจว่าถ้าเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อโดยฝ่ายประชาธิปไตย ภายในเวลา 5 นาทีคุณเรียก คฝ.(ตำรวจควบคุมฝูงชน) ลงเป็นพันเป็นกองร้อยใช่มั้ยครับ เขาก็เงียบกริบเลย” ภาราดรเล่าถึงตอนที่เขาคุยกับตำรวจในที่เกิดเหตุเมื่อวานนี้ ซึ่งเขารู้สึกถึงความสองมาตรฐานที่พอเกิดเหตุผู้ชุมนุมถูกฝ่ายปกป้องสถาบันฯ มาคุกคามทำร้ายแล้วก็ไม่มีเจ้าหน้าที่เข้าระงับเหตุ

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net