Skip to main content
sharethis

'โรม' ถูก 'ส.ว.อุปกิต' ฟ้องหมิ่นประมาทอีกครั้ง รอบนี้เรียกค่าเสียหาย 20 ล้าน อ้างโรมยังคงไปพูดเกี่ยวกับการกระทำของตนภายหลังถูกฟ้องครั้งแรก ก่อนหน้านี้โรมเคยถูก ส.ว. อุปกิต ยื่นฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท จากกรณี "ส.ว.ทรงเอ" เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน

 

22 มิ.ย. 2566 รังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Rangsiman Rome - รังสิมันต์ โรม" ระบุ ถูก ส.ว.อุปกิต หรือ อุปกิต ปาจรียางกูร ฟ้องในคดีอาญาฐานหมิ่นประมาทและคดีแพ่งเรียกค่าเสียหายอีกครั้ง เรียกค่าเสียหาย 20 ล้านบาท ก่อนหน้านี้รังสิมันต์เคยถูกส.ว. อุปกิต ยื่นฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท จากกรณีการอภิปรายทั่วไป เรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาทไปแล้ว เมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2566 

รังสิมันต์ระบุ ตนเองเพิ่งทราบข่าวไม่กี่วันก่อนว่า "ส.ว.ทรงเอ" อุปกิต ปาจรียางกูร ได้ฟ้องตนในคดีอาญาฐานหมิ่นประมาทและคดีแพ่งเรียกค่าเสียหายอีกครั้ง คราวนี้เป็นเงิน 20 ล้านบาท โดยอ้างเหตุเดิมว่าตนยังคงไปพูดเกี่ยวกับการกระทำของเขาอยู่อีกภายหลังจากถูกฟ้องครั้งแรก

รังสิมันต์ยืนยันตามเดิมว่า สิ่งที่ตนพูดไปเกี่ยวกับ ส.ว.อุปกิต เกี่ยวกับขบวนการฟอกเงินค้ายาเสพติดและความไม่ชอบมาพากลในทางคดีที่เกิดขึ้น ตนทำหน้าที่ในฐานะผู้แทนราษฎรที่จะต้องคอยติดตามประเด็นปัญหาที่กระทบต่อประชาชนและกระบวนการยุติธรรม คอยตรวจสอบให้กระบวนการทุกอย่างดำเนินไปตามที่ควรจะเป็น คนทำผิดไม่หลุดรอดลอยนวลไปได้

ตั้งแต่เสร็จการอภิปรายทั่วไปเรื่องดังกล่าวรังสิมันต์ถูก ส.ว.อุปกิต ฟ้องข้อหาหมิ่นประมาทครั้งแรก แต่ยังคงมีประเด็นและข้อเท็จจริงต่างๆ ปรากฏขึ้นมา ทำให้จำเป็นต้องพูดถึงเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นคำให้การของนายตำรวจที่สืบสวนคดี ส.ว.ทรงเอ ถูกเปิดเผยออกมา ตนจำเป็นต้องหยิบยกมาเพื่อใช้ย้ำเตือนกับสังคมไม่ให้ลืมเรื่องนี้ หรือการที่ ส.ว. อุปกิตเองออกมาแถลงโต้ตอบตน กล่าวหาว่ามีการทำกันเป็นขบวนการเพื่อกลั่นแกล้ง 

ทั้งนี้ รังสิมันต์ยืนยันว่าตนพร้อมสู้คดีที่ถูกฟ้องมา ไม่ว่าจะโดย ส.ว.อุปกิต ในคดีนี้ หรือคดีอื่นๆ ที่ถูกฟ้องโดยมูลนิธิป่ารอยต่อฯ และบริษัทกัลฟ์ฯ และเชื่อมั่นว่าจะชนะคดี อย่างเมื่อวันที่ 1 พ.ค. 2566 ซึ่งศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง ตนและทนายเดินทางไปพบศาลตามนัด ทว่ายังไม่มีความคืบหน้าอะไรเนื่องจากฝ่าย ส.ว.อุปกิต ได้ขอเลื่อนนัดออกไปเองอ้างว่าติดประชุมกรรมาธิการ (นัดไต่สวนอีกครั้ง 26 มิ.ย. นี้)

รังสิมันต์กล่าวว่า ในขณะเดียวกันเมื่อไปดูคดีที่ ส.ว.อุปกิต เป็นผู้ต้องหาเอง ก่อนหน้านี้หลายมีข่าวว่าทางอัยการมีความเห็นควรสั่งฟ้องคดี ส.ว.อุปกิต แล้ว แต่ในความเป็นจริงยังเป็นเพียงความเห็นของพนักงานสอบสวนที่ได้รับมอบหมายที่เห็นควรให้สั่งฟ้องในข้อหาฟอกเงินและองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ (ไม่มีข้อหายาเสพติด) แต่ยังส่งต่อให้อัยการสูงสุดเพื่อมีคำสั่งว่าจะฟ้องหรือไม่อีกทีหนึ่ง ซึ่งกว่าจะมีนัดฟังคำสั่งก็ต้องรอไปถึงวันที่ 26 ก.ค. 2566 ซึ่งกว่าจะถึงตอนนั้นสภาก็คงเปิดแล้ว และ ส.ว.อุปกิต ก็จะใช้ความคุ้มกันไม่ต้องไปขึ้นศาลได้อีกครั้ง ส่วนทางด้านของการยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับคดีโดย ปปง. และ ป.ป.ส. ตอนนี้ยังคงเงียบกริบเช่นกัน 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net