Skip to main content
sharethis

'เพื่อไทย' หาเสียง 'อุบล-ศรีสะเกษ' ปลุกแลนด์สไลด์ เลือก ส.ส.ยกจังหวัด - ส.ส.ภูมิใจไทย ตำหนิเพื่อไทยดูถูกคนที่อยากพัฒนาบ้านเกิด หลังผุดแคมเปญ 'ไล่หนู ตีงูเห่า' - 'สุรพงษ์' ยุติบทบาท ผอ.พรรคเพื่อไทย หลัง 'เรืองไกร' ยื่นพิจารณายุบพรรค

ภาพนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีปราศรัยที่ จ.ศรีสะเกษ

18 มิ.ย. 2565 ทีมสื่อพรรคเพื่อไทย รายงานว่าเมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 18 มิ.ย. 2565 ที่ท่าอากาศยานอุบลราชธานี อ.เมือง จ.อุบลราชธานี มวลชนใน จ.อุบลราชธานี จ.ยโสธร จ.อำนาจเจริญ ต่างสวมเสื้อสีแดงครอบครัวเพื่อไทย จำนวนกว่า 2,000 คนมาเฝ้ารอต้อนรับคณะของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โดยมี นายเกรียง กัลป์ตินันท์ แกนนำพรรคเพื่อไทย นายวรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ ส.ส.อุบลราชธานี รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยคณะ ส.ส.อุบลราชธานี ส.ส.ยโสธร ส.ส.อำนาจเจริญ ร่วมรอรับคณะของน.ส.แพทองธาร

โดยประชาชนที่มารอต้อนรับต่างชูป้ายที่มีภาพของ น.ส.แพทองธาร และนายพานทองแท้ ชินวัตร สมาชิกพรรคเพื่อไทยและบุตรชายของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขณะเดียว นายเฉลิมพล นายก อบต.ท่าลาด อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ก็มาต้อนรับด้วย โดยประชาชนต่างให้ความสนใจและเรียกนายเฉลิมพล ที่มารอรับ น.ส.แพทองธาร มาร่วมถ่ายภาพ

ทั้งนี้ นายเฉลิมพลยังระบุด้วยว่าตนเองมารอต้อนรับนายกฯคนใหม่ คือ น.ส.แพทองธาร เพราะเหมาะเป็นว่าที่นายกฯ คนใหม่ ส่วนตนเองก็ให้กำลังใจกับพรรคเพื่อไทยมาตลอด ไม่ว่าจะเปลี่ยนมากี่พรรคก็เหมือนเดิม

กระทั่งเวลา 08.25 น. น.ส.แพทองธาร นายพานทองแท้ ชินวัตร พร้อมด้วย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยและคณะเดินทางมาถึง นายเกรียง นายวรสิทธิ์และคณะของ ส.ส.ได้มอบเสื้อครอบครัวเพื่อไทยและผูกผ้าขาวม้ารอบเอว น.ส.แพทองธาร และมอบดอกกุหลาบสีแดงเพื่อต้อนรับการมาเยือน จ.อุบลราชธานี เป็นครั้งแรกของหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย

วรสิทธิ์ ระบุว่า ประชาชนส่วนใหญ่ อ.เมืองจะมาเป็นส่วนใหญ่ และมีประชาชนใน 11 เขตเลือกตั้งกผ่มารอต้อนรับ เมื่อได้ยินว่า น.ส.แพทองธารจะมา จ.อุบลราชธานี ก็มารอต้อนรับทันที ทั้งนี้การมาของ น.ส.แพทองธารยังเป็นการประกาศให้รู้ว่าพร้อมที่จะมีการเลือกตั้งแล้ว ทางน.ส.แพทองธาร ลงพื้นที่ครั้งนี้ คนอุบลฯ รู้ดีว่าเป็นครอบครัวใหญ่ที่อบอุ่นไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกพรรคก็ได้ และคนอุบลฯ มั่นใจพรรคเพื่อไทยมาตลอด

ถามว่า น.ส.แพทองธาร เหมาะที่จะเป็นแคนดิเดตนายกฯ หรือไม่ นายวรสิทธิ์ กล่าวว่า “ผมไม่รู้ว่า น.ส.แพทองธารคิดไหม แต่เราหวังให้ น.ส.แพทองธาร เหมาะเป็นนายกฯให้เรา เพราะเราไม่มีที่พึ่งแล้ว ถ้าเป็นแคนดิเดตนายกฯ จะเหมาะสมในการแก้ไขวิกฤตมาก”

โดยทันทีที่ น.ส.แพทองธารเดินทางมาถึง ประชาชนต่างเบียดเข้ารุมเพื่อมอบดอกไม้และ ประชาชนบางคนถึงกับหลั่งน้ำตาและส่วนใหญ่ส่งเสียง “ครอบครัวเพื่อไทย” เสียงดังกึงก้องสนามบินอุบลฯ

ขณะที่นายเกรียง กล่าวว่า ตั้งใจมารับคณะของหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เมื่อพี่น้องประชาชนรู้ก็มารอรับถึงสนามบินอุบลราชธานี และประชาชนก็มาซื้อเสื้อครอบครัวเพื่อไทย สีแดงมาสวมใส่เพื่อต้องการมารอเจอหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย โดยการมาครั้งนี้ของ น.ส.แพทองธารทำให้ประชนชนมีความหวังเพราะ 8 ปีที่ผ่านมา ประชาชนรู้สึกแย่ พอหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยมาก็แล้วมีความหวัง

นายเกรียง ย้ำว่าถ้ามีการเลือกตั้งเร็วก็จะดีขึ้น แน่นอน จ.อุบลราชธานี จ.ยโสธร จ.อำนาจเจริญ มีความพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง โดยยืนยันพรรคเพื่อไทยมีทีมผู้สมัคร ส.ส.ลงเลือกตั้งทันที

บุกตีงูเห่า ศรีสะเกษ ปลุกแลนด์สไลด์ เลือก ส.ส.ยกจังหวัด 

เวลา 10.00 น. ที่ลานอเนกประสงค์ผู้ใหญ่เฮง อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย เปิดเวทีปราศรัย “ครอบครัวเพื่อไทย ไปศรีสะเกษ ไล่หนูตีงูเห่า’ พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย ใน 9 เขตเลือกตั้ง โดย มีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย นานพานทองแท้ ชินวัตร สมาชิกพรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อม ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ใน จ.อุบลราชธานี จ.ยโสธร จ.อำนาจเจริญ และแกนนำพรรคเพื่อไทย ร่วมขึ้นเวที ท่ามกลางมวลชนที่สวมเสื้อสีแดง ครอบครัวเพื่อไทย จำนวนเกือบหมื่นคน

จากนั้น จาตุรนต์ ฉายแสง สมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวปราศรัยย้ำว่า เราต้องเปลี่ยนรัฐบาลเพื่อให้ชีวิตที่ดีเกิดขึ้นอีกครั้ง เราจะเปลี่ยนได้ด้วยการเลือกตั้งที่ภาคอีสานเพื่อเปลี่ยนรัฐบาล ซึ่งเคยเลือกพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลมาแล้ว โดยครั้งนี้เริ่มต้นที่ จ.ศรีสะเกษ ที่ อ.อุทุมพรพิสัย เปลี่ยนรัฐบาล เลือกพรรคเพื่อไทยมาเป็นรัฐบาล เลือกตั้งครั้งหน้าคนทั้งประเทศจะไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ คนอีสาน คน จ.ศรีสะเกษ ก็ไม่เอาแล้วกับ พล.อ.ประยุทธ์
จากนั้น นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวตอนหนึ่งโดยเรียกร้องให้ประชาชนเลือกพรรคเพื่อไทย โดยขอ ส.ส.ศรีสะเกษ ยกจังหวัด 9 เขตทั้งจังหวัดได้หรือไม่ จากนั้น ได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ศรีสะเกษ นายธเนศ เครือรัตน์ เขต 1 , นายสุรชาติ ชาญประดิษฐ์ เขต 2 , นายวิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ เขต 3 , นพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ เขต 4 , นายอมรเทพ สมหมาย เขต 5 , นายวีระพล จิตสัมฤทธิ์ เขต 6 , นายประวิทย์ จารุรัชกูล เขต 7 , นางนุชนาถ จารุวงษ์เสถียร เขต 8 , นางวิลดา อินฉัตร เขต 9

จากนั้น นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ปราศรัยว่า วันก่อนได้ข่าววามีการเดินทางมา จ.ศรีสะเกษ ว่าคนศรีสะเกษจะเททิ้งพรรคเพื่อไทย ว่าจะกวาดไปทั้งหมด ตนจึงมาหาที่นี่ว่าไปกันหมดหรือยัง จากนั้นนายณัฐวุฒิได้ถามประชาชนว่าไหนใครยังอยู่กับพรรคเพื่อไทย ไหนใครเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยจะแลนด์สไลด์ แล้วไม่เสียดาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ทำให้ประชาชนที่มานั่งฟังต่างส่งเสียงหัวเราะ

“ถ้ามีหนู หนูก็จะหนี ถ้าที่นี่มีงูเห่า งูเห่าจะอกแตกตาย” นายณัฐวุฒิกล่าว

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า บนเวทีนี้มีอดีตรัฐมนตรี อดีต ส.ส.เมื่อครั้งพรรคพลังประชาชนสืบสานนโยบายรัฐบาลพรรคไทยรักไทย ว่านโยบายของจริงไม่ใช่ของปลอม ทั้งนี้ ประเทศอยู่มา 8 ปี แต่ประเทศไทยเดินช้า กว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ดังนั้นถึงเวลาคืนความสุขให้คนไทยได้แล้ว ยังจำ 30 บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้าน การปราบปรามยาเสพติดได้หรือไม่ที่ ไม่มีแก๊งขี้ยา แต่มาปัจจุบัน เด็กลอยหน้าลอยตาสูบกัญชาทั้งประเทศ เราอยู่ในบ้านเมืองแบบไหน อยู่ภายใต้การบริหารของรัฐบาลแบบไหน ยังจำนายทักษิณ ชินวัตร น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้หรือไม่ เราขอโชว์นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ที่มาที่นี่ เพราะไม่ใช่พานทองเทียม

“ที่มีการบอกมาว่าพรรคเพื่อไทยมาเปิดเวทีด่า มาบุกรุกให้คนศรีสะเกษขุ่นข้องหมองใจ ตนถามคนศรีสะเกษว่าใครด่าใครบ้างสักคำ ที่เรามาเพื่อไทยเป็นผู้ถูกกระทำเป็นผู้สูญเสีย ส.ส. 3 คน พี่น้องเลือก เพราะไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ วันดีคืนร้ายพรรคภูมิใจไทยชวน ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทยมาอยู่กับพรรคภูมิใจไทย และประกาศที่เหลืออีก 5 มา แต่ศรีสะเกษมีความเป็นคน การเปลี่ยนย้ายค่ายมีได้ เราอยู่มา”

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่าที่ย้ายไปกับเขาจะอยู่ พล.อ.ประยุทธ์ เพราะจะอยู่อีก 8 ปีบวก 4 ปี ถ้าอยู่ 12 ปีต้องเอาฝาบ้านไปจำนำแล้ว เลือกตั้งครั้งถัดไป ต้องตัดสินใจรวมพลังให้เด็ดขาด จะบอกศรีสะเกษ เอาทั้งจังหวัด ผมขอเขตนี้ขอกำนันเฮง นายประวิทย์ จารุรัชกูล เป็น ส.ส.ศรีสะเกษได้หรือไม่

“หน้าที่ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย ช่วยอย่างเดียวคือให้ครอบครัวเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ถ้าหัวใจยังเจ็บปวดการสูญเสียรัฐบาลประชาธิปไตย ขอเสียงหัวใจคนรักดังๆ ว่านี่คือวันประวัติศาสตร์ของ จ.ศรีสะเกษ คือเลือกพรรคเพื่อไทย” ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย กล่าว

จากนั้น น.ส.แพทองธาร ปราศรัยว่า คุณพ่อ (นายทักษิณ ชินวัตร) กับคุณอา (น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ) ฝากความคิดถึงมายังประชาชน จ.ศรีสะเกษ ตนรู้สึกเป็นเกียรติได้มาพบพี่น้องด้วยตัวเอง หายโควิด-19 แล้ว เมื่อ 18 ปีที่แล้วนายทักษิณมาลงพื้นที่ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ และเคยบอกหมูนิดเดียวคนจนจะหมดไป กระทั่งมีการรัฐประหารปี 2549 และปี 2557 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เดินทางมา จ.ศรีสะเกษ ช่วยชาวนาซื้อข้าวในราคาที่สูงกว่าตลาด เพื่อช่วยเหลือชาวนาที่เดือดร้อน เมื่อพูดแล้วคิดถึง ทำให้เราพรรคเพื่อไทย ครอบครัวเพื่อไทยขออาสาดูแลพี่น้องชาวศรีสะเกษ เราไม่เชื่อมือพรรคอื่นทำได้จริงเหมือนพรรคเพื่อไทย

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตนมาในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย มีหัวใจเดิมเหมือนคุณพ่อได้สร้างครอบครัวนึ้ เหมือนคุณอาได้ชนะเลือกตั้ง เหมือนเราที่ต้องการให้ชีวิตประชาชนดีขึ้น เส้นทางของพรรคเพื่อไทยโดนยุบพรรค จำกัดสิทธิ 20 ปีแล้ว เคยลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ลงพื้นที่เสื้อไทยรักไทย แต่น่าเสียดายได้ดูแลเพียงแค่ 8 ปีกว่าๆ ที่เราเคยเป็นรัฐบาล

“ประเทศหยุดแช่แข็งตั้งแตรัฐประหารปี49 หรือ ปี57 ไม่มีอะไรดีขึ้น ในขณะประเทศเราถูกแช่แข็ง ประเทศอื่นพัฒนาทั่วโลก สิ่งที่พัฒนาคือการพัฒนาทางการเกษตร ถ้าได้เป็นรัฐบาลจะนำนวัตกรรมให้พี่น้องทำการเกษตรได้ราคาสูงขึ้น ไม่ต้องมาเสี่ยงดวงกับดินฟ้าอากาศ ไม่ต้องเสียโอกาสแรงงาน เพราะพรรคเพท่อไทย คิดเป็น ทำเป็นและทำสำเร็จ เรามีพลังคนรุ่นใหม่และคน

รุ่นเก๋า เคยทำมาแล้วเราเคยทำมาแล้วและทำอีกแน่นอน ถ้าพี่น้องให้โอกาส 20 กว่าปีที่ผ่านมาทางไม่สวยหรู อยู่เคียงบ่าเคียงไหล่ในความทุกข์ ความสุขจะรออยู่ข้างหน้า”

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า แม้จะมีคนออกไปสร้างบ้านหลังใหม่ แต่ตนขอให้เขต อ.อุทุมพรพิสัย เลือกนายประวิทย์ เขต อ.ราษีไศล เลือกนางนุชนาถ ส่วน อ.ขุนหาญ เลือกนายอมรเทพ ถ้าอยากให้ชีวิตดีขึ้น บันไดแรกแลนด์สไลด์ เราจะไม่ให้ใครมาปล้นอำนาจเราได้อีกแล้ว อำนาจรัฐจะอนุญาตให้พรรคเพื่อไทยเข้าไปเปลี่ยนแปลงชีวิตลูกหลาน อยากพ้นหนี้หายจน เลือกทั้งพรรคทั้งคนเลือกพรรคเพื่อไทย กลับบ้านเรารักรออยู่

ภายหลังการปราศรัย อ.อุทุมพรพิสัย น.ส.แพทองธาร พร้อมคณะได้เยี่ยมชมผลิตผลหอมแดง ที่มีเกษตรกรมาตั้งแผงวางขายที่หน้าสถานที่ปราศรัย พร้อมสอบถามปัญหาการค้าขาย และช่วยซื้อผลิตผลหอมแดง ขณะเดียวกันพ่อค้าหอมแดง ก็บอกว่าการค้าขายในช่วงนี้ไม่ดีมากจากปัญหาเศรษฐกิจ ทั้งนี้ โดยแม่ค้าได้บอกว่าคิดถึงนายทักษิณ

‘แพทองธาร’ ขอบคุณเสียงสะท้อนเชียร์นั่งนายกฯ เป็นความเห็นเชิงบวก เชื่อประชาชนทนไม่ไหวกับปัญหาเศรษฐกิจตลอด 8 ปี ย้ำยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง 

เวลา 12.00 น. ที่ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังการปราศรัยที่เวที อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ภายใต้ชื่อ “ไปศรีสะเกษ ไล่หนูตีงูเห่า” โดยนายประเสริฐ กล่าวถึงกรณีจะเป็นเรื่องยากหรือไม่ในการต่อสู้ในพื้นที่งูเห่าว่า พี่น้องประชาชนนิยมพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว เราจึงไม่หนักใจ

ส่วนนายณัฐวุฒิ ระบุว่า การย้ายพรรคของ ส.ส. มีให้เห็นอยู่ทุกยุคทุกสมัย แต่ครั้งนี้เป็นการย้ายข้างกลางพรรษา ยกพวกมาเปิดตัว ส.ส. พรรคร่วมฝ่ายค้านไปอยู่พรรคร่วมรัฐบาล พรรคเพื่อไทยที่ได้รับความนิยมในพื้นที่จึงต้องมาลงพื้นที่ ยืนยันเจตนารมณ์เดิมในการเป็นความหวังและอนาคต ตามแนวทางของหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย คือการมุ่งมั่นตั้งใจ เสนอนโยบายทำเพื่อประเทศ

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีพรรคภูมิใจไทยประกาศจะเอา ส.ส. ยก จ.ศรีสะเกษ นายณัฐวุฒิ ตอบว่า ทุกพรรคพูดเหมือนกัน แต่พรรคเพื่อไทยเชื่อมั่นในคนศรีสะเกษว่าจะให้โอกาสเหมือนทุกครั้งที่ผ่ามา

ส่วนกรณีมีกระแสวิจารณ์ชื่องานครั้งนี้ว่าไม่สร้างสรรค์นั้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่าทีมงานคิดขึ้นมาเพื่อให้เป็นสีสันในการประชาสัมพันธ์ จนได้รับกระแสตอบรับพอสมควร ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตจนเป็นการวิวาททางการเมือง หรือจนพรรคภูมิใจไทยต้องวิตกกังวล แต่เพื่อไทยต่างหากต้องรู้สึกก่อน จากการพา ส.ส. ขึ้นเวที และโหวตสวนงบประมาณ แต่เราเองก็ไม่ใช่จะสาดโคลนโจมตีหรือปะทะทางการเมือง เวทีวันนี้เราก็พูดกันไปตามเนื้อผ้า ผมว่าการเมืองวันนี้เปิดจนกันกว้าง ๆ เข้าหาประชาชน

ด้าน น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า หน้าที่ของพรรคการเมืองคือการหาผู้สมัครมาลงเลือกตั้ง เอาคนเหล่านั้นมาดูแลชีวิตพี่น้องให้ดีขึ้น เพื่อดูแลพี่น้องประชาชนอย่างทั่วถึง มาวันนี้เพื่อบอกเอาพี่น้องประชาชนเป็นศูนย์กลาง เส้นทางการเมืองกว่า 20 ปี มีทั้งคนออก คนเข้าอยู่เสมอ สุดท้าย ประชาธิปไตย ประชาชนเท่านั้นจะต้องตัดสินว่าจะอย่างไรต่อไป พร้อมย้ำว่สพรรคเพื่อไมยจะพยายามลงพื้นที่ไปหาพี่น้องในหลายพื้นที่ให้ได้มากที่สุด ส่งคนของพรรคเราไปสื่อสารกับพี่น้องว่าจะทำอะไรต่อไป อยู่ที่โอกาสและพื้นที่ประสานกัน

ถามว่ามีเสียงตอบรับในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี และบางพื้นที่ต้องการให้ น.ส.แพทองธารเป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อมาเป็นความหวังในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดย น.ส.แพทองธาร ตอบว่า ขอบคุณมาก เป็นคอมเมนต์ที่เป็นบวก รู้สึกดีใจที่มีคนคิดอย่างนั้น แต่คิดว่าตอนนี้พี่น้องทนไม่ไหวแล้วที่พี่น้องทนกับสถานการณ์และเศรษฐกิจปัจจุบัน ตลอด 8 ปีที่ผ่านมาไม่ได้ทำข้อดีอะไรให้กับประเทศ ตนคิดว่าพี่น้องก็รู้ว่าพี่น้องอยากให้ประเทศชาติไปข้างหน้า เราก็แสดงจุดยืนว่าเอาประชาชนเป็นศูนย์กลางและเอาประเทศชาติไปข้างหน้า ไม่ใช่หยุดและทะเลาะกัน

“อิ๊งค์พร้อมที่สุดคือพบปะพี่น้องประชาชนและยืนยันจุดยืนที่มีมาตลอดตั้งแต่พรรคไทยรักไทย อนาคตข้างหน้าเชื่อว่าต้องหาคนที่เหมาะสมมาทำหน้าที่” น.ส.แพทองธาร กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ที่พรรคเพื่อไทยจะผลักดันให้ลงสู้ศึกเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่เป็นพื้นที่ของส.ส.งูเห่า 3 คนของพรรคเพื่อไทย ใน จ.ศรีสะเกษ ที่ประกาศย้ายไปอยู่พรรคภูมิใจไทยนั้น โดยพรรคเพื่อไทยจะส่งนพ.ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 4 สู้กับ นพ.จาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย , นางนุชนาถ จารุวงษ์เสถียร ว่าที่ ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 8 สู้กับ นางผ่องศรี แซ่จึง ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย และส่งนายอมรเทพ สมหมาย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 5 สู้กับ นายธีระ ไตรสรณกุล ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย

ส.ส.ภูมิใจไทย ตำหนิเพื่อไทยดูถูกคนที่อยากพัฒนาบ้านเกิด หลังผุดแคมเปญบุกศรีสะเกษ 'ไล่หนู ตีงูเห่า'

เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 2565 มติชนออนไลน์ รายงานว่านายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า

“จะมาไล่หนู จะมาตีงู ทำไมคิดชื่อแคมเปญ อย่างนี้ละครับ ฟังดูสะใจนะ แต่มันสะท้อนอะไรให้เห็น ปกติ เวลาจะหาเสียง มันก็ควรจะชูนโยบาย แล้วก็มาขอให้ชาวบ้านชาวช่อง เขาให้โอกาสป่ะ นี่ทำไมแสดงตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ชาวบ้านละเอาคนจังหวัดไหนบ้างก็ไม่รู้ มาด่าคนในพื้นที่ เอาแค่เรื่องปัญหาชาวบ้านก่อน รู้เท่าคนในพื้นที่เขารึเปล่า บอกว่าคนย้ายพรรคเป็นงูเห่า แล้วคนมาพูดบางคน ย้ายมากี่พรรคแล้ว บางเขต เอาคนจังหวัดอื่นมาลงสมัครด้วยซ้ำ”

นายสิริพงศ์ ระบุด้วยว่า “ยิ่งคิดชื่อแคมเปญแบบนี้ ผมยิ่งรู้สึกว่า ดูถูกคนที่เขาอยากพัฒนาบ้านเกิดนะ อุดมการณ์อาจต่างกัน แต่อย่ากล่าวหาว่าคนอุดมการณ์ต่างน่ารังเกียจ วันก่อน มีเพื่อนผู้บริหารพรรคนี้ มาแซวผม ว่า พวกคุณจะมาแย่ง จ.ศรีสะเกษไป เร๋อ ผมเลยแหย่ไปขำๆ ว่า ไม่นะ ทำไมต้องแย่ง ในเมื่อผมเป็นคนศรีสะเกษ บ้านผมอยู่นี่ คุณอะเป็นคนที่ไหน ทำไมต้องบอกผมมาแย่งคุณ อันนี้คุยกันขำๆ แบบเพื่อนนะ การเมืองใหม่ คนรุ่นใหม่ อย่าคิดชื่อที่มันเผ็ดร้อน จนสะท้อนความคิดว่า ทุกอย่างเป็นของตัวเองหมด”

'สุรพงษ์' ยุติบทบาท ผอ.พรรคเพื่อไทย หลัง 'เรืองไกร' ยื่นพิจารณายุบพรรค

เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 2565 เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจ รายงานว่า นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี แกนนำกลุ่มแคร์ ได้ยุติบทบาทการเป็นรักษาการผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทย เพื่อเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายซึ่งอาจจะนำมาสู่การยุบพรรคเพื่อไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ นพ.สุรพงษ์ ได้รับหน้าที่ผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทย ช่วงเดือนตุลาคม 2564 แต่ปรากฏว่านายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้พิจารณายุบพรรคเพื่อไทย

ทั้งนี้ ตามคำร้องของนายเรืองไกร ต่อ กกต. สรุปใจความว่า การเป็นผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทย จะต้องเป็นสมาชิกพรรค ตามข้อบังคับพรรค ข้อ 70 แต่ปรากฏว่า นายสุรพงษ์เคยต้องคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีความผิดเกี่ยวกับหน้าที่ราชการมาแล้ว 2 คดี คือ คดีหมายเลขแดงที่ อม. 91/2559 วันที่ 4 ส.ค. 2559

ศาลพิพากษาว่า มีความผิดตาม ป.อาญา ม.157 ให้จำคุก 1 ปี แต่รอการลงโทษไว้ 1 ปี และคดีหมายเลขแดงที่ อม. 107/2559 วันที่ 25 ส.ค. 2559 ซึ่งศาลพิพากษาว่า มีความผิดตาม ป.อาญา ม.157 ให้จำคุก 1 ปี

ซึ่งข้อบังคับพรรคเพื่อไทยข้อที่ 12 ระบุว่าบุคคลที่ห้ามสมัครเป็นสมาชิก เช่น (9) บุคคลที่เคยได้รับโทษจำคุกและพ้นโทษมายังไม่ถึงสิบปี หรือ (12) เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ฯลฯ

ดังนั้น นายสุรพงษ์จึงน่าจะมีลักษณะต้องห้ามเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย หรือผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทย การปรากฏตัวและปราศรัยเกี่ยวกับนโยบายของนายสุรพงษ์ บนเวทีประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทย (28 ตุลาคม 2564) ซึ่งเป็นกิจกรรมทางการเมือง จึงน่าจะมีปัญหาตามมาว่า มีการกระทำอันฝ่าฝืน พ.ร.ป.พรรคการเมือง ม.28 และ ม.29 หรือไม่ เรื่องการที่บุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกพรรค ไปครอบงำพรรคหรือไม่

รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยระบุว่าภายหลังที่ นพ.สุรพงษ์ ยุติบทบาทการเป็นผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทย ซึ่งต่อมาได้ลดระดับเหลือเพียงรักษาการผู้อำนวยการพรรคเพื่อไทยแล้วนั้น ปัจจุบันนี้ พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้ตั้งบุคคลที่เป็นสมาชิกพรรค ขึ้นมาเป็นผู้อำนวยการพรรคตามข้อบังคับพรรคแทน นพ.สุรพงษ์ อีกเลย

'สร้างอนาคตไทย' ลงพื้นที่อีสาน ประกาศยุทธศาสตร์แก้ปัญหาหนี้สิน-เปิดตัว 3 ว่าที่ผู้สมัคร

18 มิ.ย. 2565 พรรคสร้างคนาคตไทย นำโดย นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นาย สุพล ฟองงาม ประธานภาคอีสาน นายวิเชียร ชวลิต รองหัวหน้าพรรค นายนริศ เชยกลิ่น โฆษกพรรค นายวัชระ กรรณิการ์ รองเลขาธิการพรรค นายบุญส่ง ชเลธร รองเลขาธิการพรรค และนายสุทธิชัย จรูญเนตร รองประธานภาคอีสาน ได้เดินทางไปที่ตลาดเมืองทองเจริญศรี อ.เมือง จ.อุดรธานี เพื่อเปิดศูนย์ประสานงานพรรค และเปิดตัวผู้แสดงเจตจำนงเป็นสมัคร ส.ส.ในนามพรรคพลังสร้างอนาคตไทย จำนวน 3 เขต ได้แก่ เขต 1 คือ นายโกเมนทร์ ทีฆธนานนท์ เขต 2 คือ นายชัยฤทธิ์ เขาวงศ์ทอง และเขต 6 คือ นายมนตรี พึ่มชัย พร้อมพบปะประชาชนทั้ง 3 เขต รวมกว่า 1,200 คน

นายอุตตม กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ได้รับเสียงสะท้อนว่า ชาวอีสานกำลังเผชิญกับ ปัญหาหนี้สิน รายได้ตกต่ำ ข้าวของแพง ต้นทุนการผลิตสูง ซึ่งเป็นเรื่องที่ประชาชนคนไทยทั่วประเทศกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ พรรคสร้างอนาคตไทยจึงขอประกาศยุทธศาสตร์ที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว ภายใต้แนวคิด "ปรับ-เติม-เพิ่ม-ลด" เพื่อแก้ไขปัญหานี้ ดังนั้นสิ่งแรกที่ต้องทำคือ ปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลง จากนั้นต้องเติมเงินทุนเพื่อให้นำไปดำเนินกิจการต่อ ขณะเดียวกันก็ต้อง เพิ่มแหล่งรายได้ให้ประชาชนจากกิจกรรมที่ทำอยู่เดิมก่อนหน้านี้ และสุดท้ายต้อง ลดต้นทุนการผลิตเพื่อสร้างผลกำไรให้มากยิ่งขึ้น

"หลายสิบปีที่ผ่านมาหนี้สินของเกษตรกรไม่เคยถูกแก้ไขอย่างเบ็ดเสร็จ การพักหนี้แค่เพียงปีสองปีแต่ดอกเบี้ยเดินอยู่ไม่ได้ช่วยอะไร หากจะทำให้สำเร็จและเป็นรูปธรรม จะต้องมีการปรับโครงสร้างหนี้ทั้งระบบ ยืดหนี้ออกไปนานขึ้น จะเป็น 7-8 ปีก็ได้ แต่เกษตรกรต้องปรับตัวในการที่จะเพิ่มแหล่งรายได้ใหม่ๆ เพื่อให้ธนาคารมั่นใจว่าจะสามารถจ่ายหนี้ได้ โดยภาครัฐต้องช่วยส่งเสริมเงินทุน เทคโนโลยี และช่วยหาตลาด สุดท้ายต้องมีโครงการลดต้นทุนการผลิตให้เกษตรกรอย่างจริงจัง"

ด้านนายสนธิรัตน์ กล่าวว่า การลงพื้นที่อีสานครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่สองของทีมผู้บริหารพรรค โดยพรรคต้องการที่จะเชิญชวนชาวอีสานที่รู้สึกเบื่อหน่ายกับการเมืองแบ่งฝักแบ่งฝ่ายเข้ามาร่วมเป็นเครือข่าย "พี่น้องสร้างอนาคตไทย" เพื่อที่จะดำเนินกิจกรรมทางการเมือง รวมทั้งแก้ไขปัญหาและขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่อีสานให้เจริญรุ่งเรืองโดยในวันพรุ่งนี้ (19 มิ.ย.) คณะแกนนำพรรคสร้างอนาคตไทย จะเดินทางไปเปิดตัวว่าที่ผู้แสดงเจตจำนงเป็นผู้สมัคร ส.ส. ของพรรค พร้อมพบปะแกนนำในจังหวัดกาฬสินธุ์ และมหาสารคามต่อไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net