กลุ่มปกป้องสถาบัน รวมตัวทำกิจกรรมร้องเพลงชาติ และเพลงสรรเสริญพระบารมี ที่สกายวอล์ก ปทุมวัน เพื่อแสดงความจงรักภักดี พร้อมโต้ฝ่ายตรงข้าม ม.112 และขบวนเสด็จไม่ทำให้ใครเดือดร้อน อย่าเหมารวม

13 ก.พ. 65 ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ถ่ายทอดสดผ่านสื่อโซเชียลมีเดียเฟซบุ๊กวันนี้ (13 ก.พ.) ประชาชนบางส่วนรวมตัวทำกิจกรรมร้องเพลงชาติ และเพลงสรรเสริญพระบารมี นัดหมายโดยกลุ่ม ศปปส. และกลุ่มภาคีปกป้องสถาบัน ที่สกายวอล์ก แยกปทุมวัน ตั้งแต่เวลา 17.00-18.00 น. เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย 

บรรยากาศเวลา 16.42 น. ที่สกายวอล์ก แยกปทุมวัน ก่อนเวลานัดหมายทำกิจกรรมร้องเพลงชาติ-เพลงสรรเสริญพระบารมี (ภาพจาก Poly K.)

ตัวแทนกลุ่ม ศปปส. ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนกล่าวถึงก่อนหน้านี้สมาชิกกลุ่มทะลุวัง ทำโพลล์สำรวจถามสาธารณชนว่า “คุณคิดว่าขบวนเสด็จทำให้ใครเดือดร้อนหรือไม่” ที่ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน และวังสระปทุม เมื่อ 8 ก.พ.ที่ผ่านมานั้น ระบุว่า ตัวเองไม่ได้รู้สึกว่าเดือดร้อนอะไรกับขบวนเสด็จ เพราะมองว่าเป็นสิทธิที่สถาบันฯ ควรได้ เนื่องจากทำประโยชน์ต่อประเทศชาติมากมาย พร้อมตั้งคำถามถึงฝ่ายตรงข้ามว่า พอมีคนคิดต่างทำไมต้องมีการมากลั่นแกล้งพวกเขาทางออนไลน์ด้วย

“ที่น้องๆ ออกมาแล้วบอกว่า ประชาชนเดือดร้อน ให้ตัดคำว่า ‘ประชาชน’ ออกไป ให้ใช้คำว่ากลุ่มพวกคุณเดือดร้อน อย่าลากพวกเราเข้าไปเกี่ยวข้อง พวกเราไม่เดือดร้อนเลยที่พระองค์ท่านเสด็จ ไม่ว่าราชินี หรือรัชทายาท เสด็จไปไหนก็แล้วแต่ แต่เราไม่เดือดร้อนทั้งสิ้น เราก็คือประชาชนคนไทยเช่นกัน อย่าลากเราไปเกี่ยว” หนึ่งในตัวแทนผู้จัดกิจกรรมกล่าว 

ทางกลุ่มอนุรักษ์นิยม กล่าวด้วยว่า กฎหมายมาตรา 112 ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน พร้อมเน้นย้ำว่า ต้องมีกฎหมายคุ้มครองประมุขของแต่ละประเทศ เพราะเราปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์อันเป็นประมุข 

“ดังนั้น การไม่มีกฎหมายปกป้องพระองค์ไม่ถูก และสิ่งที่คุณพูด ถ้ามันจริง คุณจะกลัวอะไรกับ 112 ถ้าคุณไม่จาบจ้วง ดูหมิ่น จะกลัวอะไรกับ 112” 

“อยากบอกฝ่ายการเมืองด้วยว่า เราจะไม่อยู่เฉย จะไม่นิ่ง การจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ พระบรมวงศานุวงศ์ แม้ว่ามาตรา 112 คุ้มครองไม่ถึง พวกเราก็จะไม่เฉย เพราะฉะนั้น ที่เราออกมาวันนี้ เราจะส่งสัญญาณให้รัฐบาลรู้แล้วว่า มันจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป” ตัวแทนกลุ่ม ศปปส. กล่าว 

ทั้งนี้ ตัวแทน ศปปส. กล่าวถึงกรณีที่ทางกลุ่มไปช่วยผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) พรรคไทยภักดี สนามเลือกตั้งซ่อม เขต 9 หลักสี่-จตุจักร ก่อนแพ้โดยได้คะแนนเสียงเพียง 5,987 คะแนนนั้น ถือเป็นเสียงบริสุทธิ์ไม่ได้มาจากการซื้อเสียง 

“สิ่งที่ผมหรือไทยภักดีไปช่วยกัน ผมถือว่าเป็นเสียงบริสุทธิ์ 5,987 เสียง เป็นเสียงบริสุทธิ์ที่เราไม่ได้ซื้อเสียง ที่เราไม่ได้ไปจ่ายเงินให้เขา เราอยู่ต่างพื้นที่ แต่ไปลงพื้นที่หลักสี่ เราได้มา 5,000-6,000 เสียง ถือว่าประสบความสำเร็จ… ถามว่าสะท้อนอะไรไหม 52% (ของจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งซ่อมหลักสี่) ถือว่าเป็นจำนวนเต็มของเขตหลักสี่หรือไม่”

“อย่ามองว่าน้อย ต้องมองว่าเราไม่ใช้คนในพื้นที่ เขา (ผู้สื่อข่าว - พันธุ์เทพ ฉัตรนะรัชต์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคไทยภักดี เขต 9 จตุจักร) อาจไม่เคยลงพื้นที่ แต่ได้ 6,000 เสียง มันเป็นเสียงที่บริสุทธิ์ มันทำให้เขาเดินของเขาได้ ทำให้เขามีกำลังใจ” ตัวแทนผู้จัดงานกล่าว 

ตัวแทน ศปปส. กล่าวว่า ถ้าเลือกตั้งใหญ่ แล้วกลุ่มทะลุวัง ทำโพลสำรวจแบบนี้ทุกครั้ง เชื่อว่าจะมีพลังเงียบออกมาช่วยโหวตให้พรรคไทยภักดีอีก

ผู้เข้าร่วมกิจกรรมร้องเพลงชาติ-เพลงสรรเสริญพระบารมี ภาพจาก รลภ.

สำหรับการปล่อยตัวชั่วคราวภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ และจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ แกนนำนักกิจกรรมการเมืองนั้น ทางกลุ่มปกป้องสถาบันฯ มองว่า เห็นด้วยกับการปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาที่ศาลยังไม่มีคำตัดสินจนถึงที่สุดว่ามีความผิด แต่ก็แสดงความเข้าใจต่อเจ้าหน้าที่ถึงเหตุผลที่ฝากขังนักกิจกรรมทั้ง 2 คนนั้น เนื่องจากทั้งสองกระทำความผิดซ้ำๆ เดิมๆ เกรงว่าหากปล่อยออกมาจะสร้างความวุ่นวายในสังคม

“มองว่า ที่ถูกฝากขัง 180 กว่าวัน เชื่อว่าเขาน่าจะคิดได้ แต่ถ้าเขาคิดไม่ได้ เขาก็จะโดนอีก และต้องเข้าไปในคุกอีก เชื่อว่าน้องเขาน่าจะมีความคิดที่ดีกว่าผม เขาเป็นเสรีนิยมหรืออะไร แต่ผมเชื่อว่าคุณไผ่ได้พระราชทานอภัยโทษ คุณไผ่ก็ควรสำนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณบ้าง” ตัวแทนผู้จัดงานทิ้งท้าย

ทั้งนี้ สำนักข่าว Voice TV รายงานวันนี้ (13 ก.พ.) ด้วยว่า ขณะที่กลุ่ม ศปปส. กำลังทำกิจกรรมร้องเพลงชาติและเพลงสรรเสริญพระบารมี ได้มีหญิงรายหนึ่งเข้ามาชูสามนิ้ว จึงทำให้เกิดการกระทบกระทั่งเล็กน้อย โดยแกนนำได้เข้าห้ามปรามมวลชนของตนเองขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายได้ช่วยป้องกันและนำตัวหญิงรายนี้ออกนอกบริเวณ