Car Mob เชียงใหม่ผนึกกำลังลำพูน จัด “ล้านนาต้านศักดินาทัวร์” ไป Car Park ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ข้างประชาชน หยุดใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุม 

15 ส.ค. 2564 ช่วงเย็นวันนี้ (15 ส.ค.64) ที่ จ.เชียงใหม่ พรรควิฬาร์ร่วมกับประชาคมมอชอและกลุ่มลำพูนปลดแอกชวนชาวเชียงใหม่และชาวลำพูนจัดคาร์ม็อบ “ล้านนาต้านศักดินาทัวร์” โดยมีเป้าหมายเพื่อยื่นหนังสือและข้อเรียกร้องต่อผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ณ สำนักงานตำรวจภูธรภาค 5

ผู้ชุมนุมเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ข้างประชาชน หลังเกิดเหตุการณ์ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน (คฝ.) ในกรุงเทพใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมม็อบจนทำให้มีประชาชนได้รับบาดเจ็บหลายครั้ง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในจังหวัดเชียงใหม่ยังมีได้แจ้งข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กับนักศึกษาที่มาเรียกร้องประชาธิปไตยในวันที่ 16 สิงหาคมที่จะถึงนี้ ผู้ชุมนุมจึงต้องการเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจหยุดทำร้ายประชาชนและยืนอยู่ข้างประชาชนที่ออกมาชุมนุมตามสิทธิเสรีภาพของตนเอง

คาร์ม็อบในวันนี้นับเป็นการยกระดับการชุมนุมของเชียงใหม่ เนื่องจากมี“car park” ปิดสถานที่ราชการบริเวณสำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 และมีผู้ชุมนุมจาก 2 พื้นที่คือ เชียงใหม่และลำพูนมารวมตัวกัน

โดยคาร์ม็อบครั้งนี้เริ่มตั้งขบวนที่บริเวณถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ใกล้กับบิ๊กซีดอยจั่นในเวลา 13.00 น. โดยระหว่างตั้งขบวนกันอยู่นั้นผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ “ภัควดี วีระภาสพงษ์” โพสว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบมาขอให้นำป้าย “ยกเลิก 112” ที่ติดไว้ข้างรถออก

จากนั้นในเวลา 15.00 น. ผู้ชุมนุมได้เคลื่อนขบวนออกจากจุดนัดหมาย โดยมีรถยนต์ รถจักรยานยนต์เกิน 300 คันเข้าร่วมคาร์ม็อบครั้งนี้ ผู้ชุมนุมได้ขับรถ บีบแตร วนรอบคูเมืองร่วมกัน ก่อนจะไปหยุด “car park” ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 ในเวลา 15.40 น. และมีขบวนคาร์ม็อบจากลำพูนเดินทางมาสมทบ ทำให้มีรถยนต์ รถจักรยานยนต์เกิน 500 คันร่วมจอดอยู่หน้าสำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 และมีประชาชนกว่า 500 คนลงมาร่วมชุมนุมอยู่บริเวณดังกล่าง

โดยบริเวณหน้าสำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนำแผงเหล็กมากั้นปิดทางเข้า-ออก และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 100 นายประจำการอยู่บริเวณด้านหน้าสำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงขนาดเล็กให้ผู้ชุมนุมสลายการชุมนุม เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อโรคระบาด COVID-19 แต่ผู้ชุมนุมยังคงยืนยันที่จะชุมนุมกันต่อไป

ภายในงานแกนนำของผู้ชุมนุมจากพรรควิฬาร์ได้อ่านข้อความในหนังสือที่นำมายื่นต่อต่อผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ดังนี้

แกนนำประกาศว่าผู้ชุมนุมจะไม่สลายตัวจนกว่าสำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 จะส่งเจ้าหน้าที่ออกมารับหนังสือจากผู้ชุมนุม ในเวลาต่อมาสำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 ได้ส่งพันตำรวจโทสุรชัย ท่างาม รองผู้กำกับการปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธร ภาค 5 ออกมาเป็นตัวแทนรับมอบหนังสือจากแกนนำ โดยพันตำรวจโทสุรชัยกล่าวว่าจะมีการนำหนังสือดังกล่าวไปมอบให้ผู้บังคับบัญชาและฝ่ายกฎหมายตรวจสอบ ซึ่งแกนนำผู้ชุมนุมขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งผลการพิจารณาแก่ผู้ชุมนุมผ่านช่องทางออนไลน์ นอกจากนี้แกนนำยังได้มีการถามย้ำถึงเรื่องที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการดำเนินคดี 112 กับผู้ที่ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยในเชียงใหม่ ซึ่งถูกเรียกตัวไปเข้าพบในวันพรุ่งนี้ (16 ส.ค. 64) โดยย้ำว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่มีการทำร้ายร่างกายหรือสั่งให้ผู้ถูกกล่าวต้องติดคุกใช่หรือไม่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเรื่องทั้งหมดไว้พิจารณา

หลังจากนั้นเมื่อยื่นหนังสือเรียบร้อยแล้ว ผู้ชุมนุมได้เคลื่อนออกจากสำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 มุ่งหน้ากลับเข้าเมืองไปยังลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ในเวลา 16.40 น.

บริเวณลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนำแผงเหล็กมากั้นปิดทางเข้า-ออกไว้ พร้อมมีกำลังตำรวจกว่า 50 นายควบคุมสถานการณ์อยู่ในพื้นที่ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจยอมเปิดทางให้รถขยายเสียงของผู้ชุมนุมเข้าไปยังลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ได้ จึงทำให้ไม่มีการปะทะกันเกิดขึ้น

ภายในงานมีการแสดงดนตรีจากนักดนตรีต้องประสบปัญหาการว่างงานในช่วงโควิด และมีตัวแทนจาก“เกษตรกร คนจน ปลดแอก” ได้นำมะเขือผลผลิตจากพี่น้องเกษตรกรอำเภออมก๋อยซึ่งมีราคาตกต่ำมาแจกจ่ายให้ผู้ชุมนุมใช้ปาหรือเหยียบลงบนหน้าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

ก่อนที่การชุมนุมจะสิ้นสุดลงในเวลาประมาณ 19.00 น. เนื่องจากฝนตกหนัก ทำให้ชุมนุมต่อไม่ได้

ภาพบรรยากาศ :