ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนตั้งข้อสังเกตทางกฎหมาย ยัน สถานศึกษาลงโทษนักเรียน นักศึกษาเพราะชุมนุมไม่ได้ เนื่องจากการชุมนุมโดยสงบไม่ใช่การประพฤติผิดตามกฎกระทรวงศึกษาธิการ บทลงโทษไม่มีอำนาจไล่ออก ชี้ สถานศึกษาควรอำนวยให้ใช้เสรีภาพแสดงออก เพื่อพัฒนาประชาธิปไตย
ที่มา:แฟ้มภาพ
3 มี.ค. 2563 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เผยแพร่ความเห็นทางกฎหมายเมื่อ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา ระบุว่า การชุมนุมเป็นเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ สถานศึกษาจะลงโทษนักเรียนและนักศึกษาเพราะเหตุชุมนุมไม่ได้ สืบเนื่องจากกระแสนักเรียน นักศึกษา เยาวชนจัดชุมนุมในสถานศึกษาหลายแห่งทั่วประเทศตั้งแต่ 22 ก.พ. ที่ผ่านมา
ศูนย์ทนายฯ ระบุว่าสถานศึกษาและโรงเรียนไม่อาจลงโทษนักเรียนและนักศึกษาจากการรวมกลุ่มหรือเข้าร่วมการชุมนุมโดยสงบในพื้นที่โรงเรียน สถานการศึกษา และพื้นที่สาธารณะ เนื่องจากขัดต่อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ได้แก่
- กรณีจัดการชุมนุมโดยสงบและเข้าร่วมการชุมนุมไม่ใช่การประพฤติผิดระเบียบของโรงเรียนหรือสถานศึกษา ตามกฎกระทรวงกำหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ. 2548 และ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2562 ซึ่งออกตามอำนาจพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546
- พ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 มาตรา 64 บัญญัติให้นักเรียนและนักศึกษาต้องประพฤติตนตามระเบียบของโรงเรียนหรือสถานศึกษาและตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ซึ่งตามกฎกระทรวงกำหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ. 2548 และ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2562 กำหนดไว้ในข้อ 1 ว่านักเรียนและนักศึกษาต้องไม่ประพฤติตน ดังต่อไปนี้
- หนีเรียนหรือออกนอกสถานศึกษา โดยไม่ได้รับอนุญาตในช่วงเวลาเรียน
- เล่นการพนัน จัดให้มีการเล่นการพนัน หรือมั่วสุมในวงการพนัน
- พกพาอาวุธหรือวัตถุระเบิด
- ซื้อ จำหน่าย แลกเปลี่ยน เสพสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ สิ่งมึนเมา บุหรี่ หรือยาเสพติด
- ลักทรัพย์ กรรโชกทรัพย์ ข่มขู่ หรือบังคับขืนใจเพื่อเอาทรัพย์บุคคลอื่น
- ก่อเหตุทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกายผู้อื่น เตรียมการหรือกระทำการใด ๆ อันน่าจะก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยหรือขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือรวมกลุ่มหรือมั่วสุม เพื่อกระทำการดังกล่าว
- แสดงพฤติกรรมทางชู้สาวอันไม่เหมาะสม กระทำการลามกอนาจาร แต่งกายล่อแหลม หรือไม่เรียบร้อยในโรงเรียนหรือสถานศึกษา หรือแต่งเครื่องแบบนักเรียนหรือนักศึกษาไม่เรียบร้อย
- เกี่ยวข้องกับการค้าประเวณี
- เที่ยวเตร่นอกสถานที่พัก รวมกลุ่ม หรือมั่วสุม อันเป็นการสร้างความเดือดร้อน ให้แก่ตนเองหรือผู้อื่น
โดยโรงเรียนหรือสถานศึกษา สามารถกำหนดระเบียบว่าด้วยความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษาได้เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับกฎกระทรวงนี้
ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการลงโทษนักเรียนและนักศึกษา พ.ศ. 2548 กำหนดโทษที่จะลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษาที่ประพฤติฝ่าฝืนระเบียบ ข้อบังคับของสถานศึกษาไว้ 4 สถาน ดังนี้
- ว่ากล่าวตักเตือน
- ทำทัณฑ์บน
- ตัดคะแนนความประพฤติ
- ทำกิจกรรมเพื่อให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
โดยการลงโทษนักเรียน นักศึกษานั้น ห้ามลงโทษด้วยวิธีรุนแรง หรือกลั่นแกล้ง หรือด้วยความพยาบาท โดยให้คำนึงถึงอายุของนักเรียนหรือนักศึกษา และความร้ายแรงของพฤติการณ์ประกอบการลงโทษ
ศูนย์ทนายฯ ยังระบุว่า นักเรียนและนักศึกษามีสิทธิตามรัฐธรรมนูญในการใช้เสรีภาพในการชุมนุมและการแสดงความเห็น อันเป็นรากฐานต่อการเรียนรู้ พัฒนาสังคมประชาธิปไตย รัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่ในการเคารพและส่งเสริมการใช้เสรีภาพในการชุมนุมและแสดงความเห็นโดยสุจริตของนักเรียนและนักศึกษา ต้องไม่ขัดขวาง คุกคาม แทรกแซง ปิดกั้นการใช้สิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐาน อันอาจเข้าข่ายการละเมิดสิทธิและเสรีภาพ
"เมื่อพิจารณาจากกฎหมายที่เกี่ยวข้อง สถานศึกษาและโรงเรียนไม่มีอำนาจในการใช้มาตรการไล่ออก หรือลงโทษทางวินัยใดๆ กับนักเรียนหรือนักศึกษา จากเหตุการจัดการชุมนุมหรือเข้าร่วมการชุมนุมหรือแสดงความความคิดเห็นโดยสุจริต นักเรียนและนักศึกษามีสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่จะใช้เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบ และเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญต่อการเรียนรู้และพัฒนาสังคมประชาธิปไตย" ความตอนหนึ่งจากข้อสังเกตของศูนย์ทนายฯ ระบุ
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มีการติดตาม เฝ้าระวังและสังเกตการณ์การชุมนุมและการแสดงออกทางการเมืองในโรงเรียน เมื่อ 27 ก.พ. เช่น ในโรงเรียนสังกัดเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 1 (สพม. 1)
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)