ศาลนนทบุรีสั่งยกฟ้องทุกข้อหากรณีประชาชน 19 ราย ชุมนุมไล่ 'ประยุทธ์' ที่ท่าน้ำนนท์ เมื่อปี'64 เหตุโจทก์ไม่ได้นำสืบว่าการชุมนุมแพร่โรคระบาดอย่างไร และพยานหลักฐานไม่ชี้ว่าสร้างความวุ่นวายให้บ้านเมืองอย่างไร 

15 ธ.ค. 2566 เว็บไซต์ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานวานนี้ (14 ธ.ค.) ว่า ศาลแขวงนนทบุรีพิพากษายกฟ้องทุกข้อหา คดีของ 19 ประชาชน ที่ไปร่วมชุมนุมขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ท่าน้ำนนทบุรี เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2564 

โดยศาลเห็นว่า โจทก์ไม่ได้นำสืบว่าการชุมนุมมีลักษณะแพร่โรคระบาดอย่างไร และพยานหลักฐานไม่ชัดแจ้งว่าจำเลยทั้งหมดสร้างความวุ่นวายในบ้านเมืองอย่างไร ยกฟ้องทั้งข้อหา พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาตรา 215 และมาตรา 216 

สำหรับกรณีนี้สืบเนื่องจากเมื่อ 30 ก.ย. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีขณะนั้น มีกำหนดการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี และได้มีกลุ่มประชาชนรวมตัวกันเพื่อขับไล่ในจุดต่างๆ โดยส่วนใหญ่ ประชาชนจะรวมตัวไล่มากที่สุดที่บริเวณหอนาฬิกาท่าน้ำนนทบุรี อย่างไรก็ตาม ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเปลี่ยนกำหนดการลงพื้นที่ โดยมีรายงานประชาชนถูกจับกุมดำเนินคดีในวันดังกล่าว 2 ราย จากบริเวณท่าน้ำนนทบุรี และท่าน้ำปากเกร็ด

กระทั่งในเวลาต่อมา ตำรวจได้ออกหมายเรียกผู้ชุมนุม รวม 21 ราย รวมถึง วรวรรณ แซ่อั้ง หรือป้าเป้า และในจำนวนนี้มีเยาวชน 1 ราย โดยทั้งหมดถูกพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี และแจ้งข้อหารวม 3 ข้อหา ได้แก่ 

1. ร่วมกันมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 วรรคแรก
2. ไม่ยอมเลิกการมั่วสุมเมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้เลิก ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 216
3. ฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดนนทบุรี ที่ 2415/2564 เรื่องสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว (ฉบับที่ 62) ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2564 ข้อ 4 การจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ