Skip to main content
sharethis

ทางการจีนกวาดต้อนจับกุมชาวคริสต์ในมณฑลเสฉวนประมาณ 100 คนในชั่วข้ามคืน  รวมถึงตัดการติดต่อสื่อและตัดโซเชียลมีเดียของพวกเขา มีการตั้งข้อสังเกตว่ากลุ่มชาวคริสต์ในจีนถูกปราบปรามอย่างหนักเป็นพิเศษในช่วงปีนี้ ซึ่งองค์กรคริสต์จากต่างประเทศมองว่าเป็นการยกระดับการปราบปรามศาสนาของรัฐบาลจีน

ภาพโบสถ์คาทอลิกในจีน (ที่มา: Wikipedia)

เมื่อ 10 ธ.ค. 2561 สื่อเซาธ์ไชนามอร์นิงโพสต์รายงานว่าทางการจีนกวาดต้อน จับกุมกลุ่มคริสตศาสนิกชนทั้งจากในบ้านและริมถนน ที่ในเมืองทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน โดยเหตุเกิดในช่วงเย็นวันที่ 9 ธ.ค. ที่ผ่านมา

กลุ่มชาวคริสต์ที่ทางการจีนจับกุมตัวไปครั้งนี้เป็นสมาชิกของโบสถ์ที่ชื่อเออร์ลีเรนโคฟเวอแนนต์ ซึ่งตั้งอยู่ในหลายแห่งในเมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน การจับกุมครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นความพยายามไล่ปิดศาสนสถานของชาวคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์กลุ่มที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในจีน โดยนอกจากการจับกุมแล้วยังมีการปิดบัญชีผู้ใช้ส่วนตัวโซเชียลมีเดียของสมาชิกที่เข้าร่วมโบสถ์แห่งนี้ มีการตัดสายโทรศัพท์เข้าถึงโบสถ์ และยังมีการบุกค้นบ้านของหวังยี ผู้นำของเออร์ลีเรนโคฟเวอแนนต์

ในวันที่ 10 ธ.ค. ที่ผ่านมามีการปล่อยตัวสมาชิกโบสถ์แล้ว 2 ราย หนึ่งในนั้นคือผู้ช่วยบาทหลวง จางกั๋วเฉียง แต่เขาก็ยังคงถูกจับตามองจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของทางการอยู่ที่บ้านของเขาเอง จางกั๋วเฉียงบอกว่าเมื่อเย็นวันที่ 9 ธ.ค. เขาไปที่บ้านของหวังยีแล้วพบว่าบ้านของเขาถูกรื้อค้นอย่างยุ่งเหยิงจนเกินไปหมดแต่ไม่พบเจ้าของบ้านและภรรยาของเขาอยู่  จากนั้นตำรวจก็บอกกับเขาว่าโบสถ์ของพวกเขาเป็น "องค์กรผิดกฎหมาย" และไม่สามารถรวมตัวกันได้อีกแล้ว

เออร์ลีเรนโคฟเวอแนนต์เป็นกลุ่มชาวคริสต์ที่ไม่ได้รับการรับรองจากทางการจีน พวกเขาพยายามปฏิบัติศาสนกิจกันใต้ดินเพื่อเลี่ยงไม่ให้ตกเป็นเป้าความสนใจของทางการและไม่ได้ถูกควบคุมโดยทางการและนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาถูกจับกุม แต่ก็มีการตั้งข้อสังเกตว่าในปีนี้ทางการจีนกวาดต้อนสั่งปิดกลุ่มศาสนาคริสต์มากในระดับที่เป็นการปิดกั้นศาสนาอย่างรุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี

บ็อบ ฟู จากองค์กรไชนาเอด องค์กรเอ็นจีโอชาวคริสต์ที่มีฐานอยู่สหรัฐฯ กล่าวว่าการกวาดต้อนจับกุมล่าสุดนี้แสดงให้เห็นถึงการยกระดับการปราบปรามศาสนาในจีน โดยในปีนี้มีกรณีชาวคริสต์ถูกจับกุมมากกว่า 10,000 กรณีแล้ว จากในปีที่แล้วมีเพียงประมาณ 3,000 กรณี นอกจากนี้ในเดือน ก.พ. ที่ผ่านมาหน่วยงานด้านการควบคุมกิจการศาสนาของจีนแก้กฎหมายให้อำนาจเจ้าหน้าที่ระดับท้องถิ่นในการจัดการกับกลุ่มศาสนาได้มากขึ้นและเพิ่มบทลงโทษในข้อห้าม "การชุมนุมทางศาสนาโดยไม่ได้รับอนุญาต"

มณฑลเหอหนานและเจ้อเจียงเป็นสองพื้นที่ๆ ถูกปราบปรามทางศาสนาอย่างหนักที่สุด มีการปิดโบสถ์หรือรื้อถอนทำลายทิ้ง และมีการบีบให้สมาชิกโบสถ์บอกยกเลิกศาสนาที่ตนเองนับถือ

กลุ่มเออร์ลีเรนมีจำนวนผู้ติดตามอยู่ประมาณ 500 รายและจัดการประชุมประจำสัปดาห์ตามจุดต่างๆ 12 จุดทั่วเฉิงตู ในการประชุมมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 800 รายต่อสัปดาห์ ถึงแม้่ว่าพวกเขาจะเพิ่งถูกกวาดจับไปและมีบางคนที่ถูกตำรวจบอกให้เซ็นลงนามจะไม่รวมตัวกันอีก แต่สมาชิกโบสถ์ผู้สูงอายุก็บอกว่าเขาจะพยายามทำการสักการะและประชุมร่วมกันต่อไป แม้ว่าจะเหลือแค่เพียง 5 คนสุดท้ายก็ตามเพราะความยึดมั่นในศรัทธาของพวกเขา ผู้สูงอายุรายนี้บอกอีกว่าการถูกปราบปรามเป็นราคาที่พวกเขายอมจ่ายเพื่อพระเจ้า พวกเขาจะใช้ชีวิตเผชิญกับสิ่งนี้ดีกว่ายอมซ่อนศรัทธาของพวกเขา โดยหวังว่าโบสถ์อื่นๆ ของจีนจะช่วยพูดและยืนหยัดร่วมกับพวกเขาด้วย

เรียบเรียงจาก

100 Christians snatched in overnight raids on underground Chinese church, South China Morning Post, Dec. 10, 2018

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net