Skip to main content
sharethis

ประยุทธ์ ลงพื้นที่จังหวัดลำพูน ย้ำมาครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับการเมือง แต่บอกรัฐบาลในอนาคตทุกรัฐบาลต้องทำงานในลักษณะ พลังงานประชารัฐ ระหว่างลงพื้นที่ได้รับพรให้เป็นนายกฯ 20 ปี แล้วยังได้รับพระรอดปลียอดฉัตร รุ่นเดียวกับโค้ชเอกทีมหมูป่าอะคาเดมี

3 .ต.ค. 2561 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วยรัฐมนตรีหลายกระทรวง เดินทางไปเยี่ยมชมเส้นทางการท่องเที่ยวเมืองรองจังหวัดลำพูน ตามโครงการ “ไทยเที่ยวไทย..ไทยยั่งยืน” โดยได้สักการะอนุสาวรีย์พระนางจามเทวีอนุสาวรีย์ นอกจากนี้ยังได้ร่วมกิจกรรมถวายโคมบูชาแด่พระนางจามเทวี พร้อมเขียนคำอธิษฐานว่า "ขอให้ชาวลำพูนมีความสุข สมปรารถนาทุกประการ ขอให้คนไทยสุขสงบ ยั่งยืน" และชมการสาธิตการทำโคมไฟล้านนาด้วย

พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวกับ ข้าราชการ และประชาชนที่มาต้อนรับว่า การทำงานในอนาคตทุกรัฐบาลจะต้องทำอย่างที่รัฐบาลปัจจุบันทำ ลักษณะของพลังประชารัฐ ยืนยันว่าการมาครั้งนี้ไม่ได้มีเรื่องการเมืองแต่อย่างใด

จากนั้นประยุทธ์ พร้อมคณะ นั่งรถรางไปยังวัดมหาวันวรมหาวิหาร มีประชาชนสวมชุดพื้นเมืองมาต้อนรับตลอดสองข้างทาง ประยุทธ์ ได้โบกมือทักทาย และได้เข้ากราบสักการะพระรอดลำพูน พร้อมเข้ากราบนมัสการและสนทนาธรรมกับพระครูโสภิต ปุญญาคม เจ้าคณะตำบลในเมืองเขต 1 รักษาการเจ้าอาวาสวัดมหาวันฯ โดยตอนหนึ่งได้สอบถามถึงสถานการณ์บ้านเมืองว่าบ้านเมืองสงบเรียบร้อยดีใช่หรือไม่ รัฐบาลนี้พยายามทำงานทุกอย่างเพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาประเทศ เน้นความปลอดภัยประเทศ ช่วงนี้ค่อนข้างที่จะมีข่าวในแง่ลบก็ต้องอดทนแล้วก็ช่วยกันสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับคืนมาวัด โรงเรียน รัฐบาลพร้อมรับฟังในทุกๆ สิ่ง แต่ต้องนำมาพิจารณาทำอะไรก่อนและหลัง โดยพระครูโสภิตฯ ได้มอบพระรอดลำพูน และพระพิมพ์ลำพูน รุ่น 2518 หนังสือประวัติของวัดมหาวันให้แก่นประยุทธ์ และคณะ

ต่อจากนั้นประยุทธ์ ได้เดินทางสักการะกู่ช้าง-กู่ม้า สุสานช้างศึก-ม้าศึกคู่บารมีของพระนางจามเทวี ชมการฟ้อนเมือง การแสดงมวยโบราณผสมผสานตีกลองสะบัดชัย โดยประยุทธ์ อารมณ์ดีได้ทำท่าตีศอกใส่นักแสดง และกล่าวว่าประเทศไทยมีความสงบ และถ้าประเทศไทยเป็นแบบนี้เราก็สามารถไปที่ไหนก็ได้ทั้งหมด ขอให้ทุกคนอยู่ดีมีสุข อนาคตประเทศอยู่กับคนเหล่านี้

ต่อมาได้สักการะพระประธานในวิหารหลวง วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร กราบนมันสการพระเทพรัตนนายก เจ้าคณะจังหวัดลำพูน เจ้าอาวาสวัดพระธาตุหริภูญชัย ซึ่งทำได้บายศรีสวดเรียกขวัญให้แก่ประยุทธ์ และให้พรเป็นนายกฯ ต่อไปอีก 20 ปี สุขภาพร่างกายแข็งแรง พร้อมมอบพระรอดลำพูนเนื้อเงินแก่นายก และมอบพระรอดปลียอดฉัตร พระธาตุหริญภุญชัย รุ่นเดียวกับ เอกพล จันทะวงษ์ หรือโค้ชเอก ทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี ที่ห้อยคอจนทำให้รอดชีวิตจากการติดภายถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย

ต่อมาเวลา เวลา 14.00 น. ประยุทธ์ พร้อมคณะ ได้เดินทางไปชุมชนท่องเที่ยวบ้านหนองเงือก อำเภอ ป่าซาง จังหวัดลำพูน ตามโครงการ “ไทยเที่ยวไทย...ไทยยั่งยืน” เพื่อเยี่ยมชมชุมชนท่องเที่ยวบ้านหนองเงือก และร่วมประกาศ “ลำพูนเมืองสะอาด ปราศจากโฟม (No foam)” ร่วมกับชาวลำพูน โดยมีอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ข้าราชการ และประชาชนชาวลำพูนให้การต้อนรับ             

ประยุทธ์ กล่าวว่า จังหวัดลำพูนเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพมากมาย จุดเด่นคือเป็นที่ตั้งนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ ตั้งอยู่บนโครงข่ายคมนาคม เป็นแหล่งหัตถกรรมและวัฒนธรรม มีศักยภาพทางการเกษตร มีการพัฒนาต่อยอดสินค้า เช่น ลำไย ให้มีความหลากหลายทั้งอาหาร เครื่องดื่ม รวมทั้งส่งเสริมนวัตกรรมการเกษตร ทั้งเกษตรปลอดภัย เกษตรอินทรีย์ เป็นต้น และจังหวัดลำพูนยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์  สำหรับด้านการท่องเที่ยวนั้น ปัจจุบันมีเมืองท่องเที่ยวหลักประมาณ 22 จังหวัด รัฐบาลจึงได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวอีก 55 จังหวัด หรือการท่องเที่ยวเมืองรอง เมื่อรวมกันแล้วคือการท่องเที่ยว 77 จังหวัดทั่วประเทศที่รัฐบาลให้ส่งเสริม  นอกจากนี้ จังหวัดลำพูนยังมีเสน่ห์ในด้านความสะอาด ได้รับรางวัลจังหวัดสะอาดแห่งประเทศไทยมาหลายปี  ซึ่งปัจจัยสำคัญของความสำเร็จ คือการเริ่มต้นจากการสร้างจิตสำนึกจากตัวเราก่อน ตั้งแต่ในบ้าน สถานศึกษา ที่ทำงาน สถานที่สาธารณะ รวมถึงความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทำให้วันนี้จังหวัดลำพูนมีความพร้อมในการขับเคลื่อนโครงการ “ลำพูน เมืองสะอาด ปราศจากโฟม (No Foam)”

ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงภารกิจสำคัญของรัฐบาลว่า รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญในการสร้างโอกาส คือการสร้างความเท่าเทียมให้คนทุกอาชีพ มีรายได้ มีความสุข เพราะรัฐบาลทำเพื่อคนไทยทุกคนทั้งประเทศ ทั้งการพัฒนาถนนหนทาง เส้นทางคมนาคม เพื่อให้มีความยั่งยืน ทุกอย่างมีต้นทาง กลางทาง ปลายทาง มีเป้าหมาย ทิศทางการพัฒนา คือ "ความมั่นคง มั่นคั่ง ยั่งยืน" ชึ่งประกอบด้วย แผนยุทธศาสตร์ชาติที่กำหนดไว้ 20 ปี  มีแผนแม่บทชัดเจนที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ทุกคนทุกฝ่ายจึงต้องร่วมกันคิดเพื่ออนาคต เพราะการปฏิรูปก็ต้องใช้เวลานาน ขณะเดียวกันรัฐบาลก็เร่งแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เช่น หนี้นอกระบบ ที่ดินขายฝาก ปัญหาการทุจริต ไม่โปร่งใส รวมทั้งเน้นการสื่อสารเพื่อให้ประชาชนรับรู้ เพราะประเทศไทยมีทั้งวิกฤตและโอกาส รัฐบาลจึงต้องมียุทธศาสตร์ประชารัฐที่ประกอบด้วยทุกภาคส่วน คือ รัฐ เอกชน ธุรกิจ นักวิชาการและประชาชน 

ผู้สื่อข่าวประชาไทรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ประยุทธ์ได้เดินสายลงพื้นที่ต่างจังหวัดหลายครั้ง และมักมีการพูดในลักษณะที่คล่ายกับการสร้างคะแนนนิยม เช่น “เวลาเขาชวนไปชุมนุมไม่ต้องไป แล้วไม่ต้องไปชุมนุมต่อสู้เพื่อผม เพราะผมจะสู้เพื่อพวกท่าน” พูดเมื่อวันที่ 18-19 ก.ย. 2560 ระหว่างประชุม ครม.สัญจร ที่สุพรรณบุรี – พระนครศรีอยุธยา“คนใต้น่ารัก ยิ้มได้เมื่อภัยมา แต่ผมไม่ใช่ภัยขอท่าน ขอให้คิดถึงผมบ้าง วันละนิดก็พอ”  พูดเมื่อวันที่ 27-28 พ.ย. 2560 ระหว่างประชุม ครม. สัญจร ที่ ปัตตานี – สงขลา และ “อยู่กับฉันนะจ๊ะ ไม่ต้องกลัวคสช. คสช.ใจดี” พูดกับไก่ชนเมื่อวันที่ 25-26 ธ.ค. 2560 ระหว่างประชุม ครม. สัญจร ที่พิษณุโลก และสุโขทัย และ “การเลือกตั้งที่จะมาถึง ผมอยากให้ทุกคนเข้าใจว่าการเลือกตั้งมันคือกลไกของประชาธิปไตย แต่ท่านต้องมีความรู้ว่าจะต้องเลือกใครอย่างไร ท่านจะต้องเลือกคนที่เข้ามาหลักการ.... ไปเลือกตั้งกันนะทุกคน เลือกให้ดี” พูดระหว่างเยียมชมสะพานปลาที่จังหวัดสมุทสาคร พร้อมชี้นิ้วมันเข้าหาตัวเองอย่างเป็นธรรมชาติ เมื่อวันที่ 5-6 ม..ค. 2561 ที่มุทสาคร-เพชรบุรี

เรียบเรียงจาก: ผู้จัดการออนไลน์ , ข่าวทำเนียบรัฐบาล

ที่มาภาพ: เว็บไซต์รัฐบาลไทย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net