Skip to main content
sharethis
'อรรถพล ใหญ่สว่าง' อดีตอัยการสูงสุด ป้องอัยการทำคดี 'วรยุทธ อยู่วิทยา' อืดจนหมดอายุความไปอีกหนึ่งคดี แจงผู้ถูกกล่าวหาร้องขอความเป็นธรรมเข้ามาก็ต้องเลื่อนคดีตามระเบียบ ติงสังคมออนไลน์ทำตัวเป็นศาลเตี้ย ตัดสินคนก่อนกระบวนการยุติธรรมสิ้นสุด
 
17 ก.ย. 2560 สำนักข่าวไทย รายงานว่านายอรรถพล ใหญ่สว่าง อดีตอัยการสูงสุด และคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ สำนักงานอัยการสูงสุด ที่ดำเนินการเกี่ยวกับคดีของ นายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ทายาทเครือข่ายธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลังชื่อดัง ล่าช้าและไม่สามารถนำตัวมาฟ้องได้จนขณะนี้คดีหมดอายุความไปแล้ว 3 จาก 4 คดี ว่า ในขั้นตอนของคดีนายวรยุทธนั้น ทางผู้ต้องหาได้ทำการร้องขอความเป็นธรรมเข้ามา ซึ่งเราต้องยอมรับความจริงว่าระเบียบของสำนักงานอัยการสูงสุดเราไปเปิดไว้อย่างนั้นว่า หากมีเหตุที่จะร้องขอความเป็นธรรม สามารถทำได้ทุกระดับชั้น 
 
นายอรรถพล กล่าวว่าเท่าที่ทราบในเรื่องนี้ เดิมนายวรยุทธร้องขอความเป็นธรรมมา และได้ข้อยุติแล้ว แต่ต่อมากลับร้องไปที่คณะกรรมาธิการการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้วก็เลื่อนคดีมา เพราะมีหนังสือจากสภาฯ มาว่า ทางอัยการยังสอบไม่ครบ ทางอัยการจะต้องมาพิจารณาว่ามีประเด็นอีกหรือไม่ ถ้ามีประเด็นก็ต้องทำตามที่ขอมา แต่ตรงนี้ต้องยอมรับความจริงว่า เมื่อมีเรื่องมาจากสภาฯ ก็ต้องถือเป็นเรื่องใหญ่ การจะไปตัดข้อเท็จจริงเสียทีเดียวมันก็ไม่น่าจะถูกต้อง คงจะต้องให้มีการสอบจนได้ข้อสรุปว่าเป็นประเด็นโดยตรงหรือไม่ เป็นดุลพินิจที่อัยการจะพิจารณาได้ ก็ทำให้เกิดประเด็นที่ว่าทำไมถึงจะต้องเลื่อน ทั้งนี้หากดูแล้วการร้องขอความเป็นธรรมมีการประวิงคดีก็จะตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งได้ ถ้าเป็นเหตุที่ชะลอการฟ้อง เรามีความจำเป็นก็สามารถฟ้องไปได้ และเมื่อมีการร้องเข้ามาอาจไปถอนฟ้องทีหลังก็ได้ ระเบียบเปิดตรงนี้ไว้ให้อยู่แล้ว
 
“ระเบียบการร้องขอความเป็นธรรมนั้น เพื่อจะให้ประชาชนไม่ว่าจะยากดีมีจนได้รับความเป็นธรรม แต่ข้อเท็จจริงต้องพิจารณาว่ามีเหตุผลเพียงพอหรือไม่ เป็นดุลพินิจของผู้รับผิดชอบโดยตรงจะต้องพิจารณาโดยเคร่งครัดว่าเป็นการประวิงคดี ต้องเข้าใจให้ดีว่าระเบียบดังกล่าวไม่ได้ส่งผลให้ชักช้าในคดี” นายอรรถพล กล่าว
 
นายอรรถพล กล่าวว่าต้องยอมรับด้วยว่าคดีของนายวรยุทธ เป็นที่สนใจของสังคมเป็นอย่างมาก มีการแสดงความคิดเห็นและส่งต่อกันจนอาจจะพลาดในข้อเท็จจริงบางประการไป เพราะจริงๆ พนักงานสอบสวนได้มีการตั้งข้อกล่าวหาขับรถโดยประมาท กับตำรวจที่เสียชีวิตด้วยเช่นกัน อีกทั้งครอบครัวอยู่วิทยาได้เยียวยาช่วยเหลือญาติของผู้เสียชีวิตไปเรียบร้อยแล้ว โดยไม่รอผลของคดี การแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ ด้วยอคติที่ผ่านมาอาจเป็นการส่งต่อข้อมูลที่ผิดพลาด ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในข้อเท็จจริง จึงอยากให้สังคมลองไตร่ตรองและระมัดระวังให้แสดงความคิดเห็นต่าง ๆ โดยเฉพาะในสังคมออนไลน์ ที่ทุกวันนี้ทำตัวเป็นศาลเตี้ย ไม่รอผลจากกระบวนการทางกฎหมายใด ๆ เช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ก็ต้องปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจหน้าที่และบทบัญญัติทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยไม่เกรงกลัวต่อกระแสสังคมด้วย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net