นักเศรษฐศาสตร์ทีดีอาร์ไอชี้มีการใช้ ม.112 เป็นเครื่องมือต้องถูกศาลดำเนินการบ้าง เพราะพระมหากษัตริย์ไม่ควรถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง เผยเจ็บถึงหัวใจ มธ. เคยมีเสรีภาพทุกกระเบียดนิ้ว ตอนนี้กลายเป็นอะไรก็ไม่รู้ เชื่อจัดกิจกรรมใน มธ. ไม่มีเหตุรุนแรงเพราะกองทัพไม่ได้ลงมาทำเองเหมือนสมัย "ป๋วย" เป็นอธิการ
เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา ดร.อัมมาร สยามวาลา นักวิชาการสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ให้สัมภาษณ์ในกรุงเทพธุรกิจทีวี ต่อการใช้ประมวลกฎหมายอาญามาตร 112 หรือกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพว่า ต้องให้มีการจำกัดจำเขี่ยบ้าง การใช้เครื่องมือโดยไม่มีเหตุผลอาจจะถูกเล่นงานโดยศาลด้วย เพราะใช้พระมหากษัตริย์เป็นเครื่องมือทางการเมือง
"เดี๋ยวนี้มันค่อนข้างโจ่งแจ้งว่าทุกคนใช้เป็นเครื่องมือ และพระมหากษัตริย์ไม่ควรเป็นเครื่องมือของใครทั้งสิ้น และการใช้เป็นเครื่องมือเท่ากับหมิ่นพระบรมเดชานุภาพด้วย"
ผู้สื่อข่าวถามว่าโทษแรงไหม นายอัมมาร์กล่าวว่า โทษมันแรง และคนก็กลัวกันหมด คุณเห็นไหมเวลานี้ แม้กระทั่งธรรมศาสตร์ ซึ่งผมก็เกี่ยวข้องกับธรรมศาสตร์ในอดีต เจ็บไปถึงหัวใจ จากมหาวิทยาลัยที่มีเสรีภาพทุกกระเบียดนิ้ว กลายเป็นอะไรก็ไม่รู้ เป็นมติเอกฉันท์ด้วย คณบดีทั้งหลาย รวมทั้งคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ที่รักของผมด้วย
เมื่อถามว่า มีผู้กลัวว่าหากมีการจัดกิจกรรม จะมีการปะทะ นองเลือดในธรรมศาสตร์ ดร.อัมมาร กล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้ยังห่างไกลที่จะเกิดความรุนแรง เพราะยังมีกองทัพที่รักของเรายังรักษาสถานการณ์เรื่องนี้ได้ และกองทัพไม่ได้ลงมาทำเองเหมือนสมัยนั้น สมัยที่ อ.ป๋วย (อึ๊งภากรณ์) อยู่
กรุงเทพธุรกิจ รายงานความเห็นเพิ่มเติมของ ดร.อัมมารด้วยว่า ส่วนเรื่องการจะแก้ไขหรือไม่นั้นควรเป็นเรื่องที่นักกฎหมายต้องไปหาทางร่วม กันศึกษาถึงข้อดีและจุดอ่อนของกฎหมาย เพราะขณะนี้กฎหมายดังกล่าวกำลังเป็นเครื่องมือทางการเมืองที่สร้างปัญหาให้ กับสังคม ซึ่งกลายเป็นว่าบางครั้งการแสดงความคิดเห็นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง โดยส่วนตัวแล้วเห็นว่าบางเรื่องก็สมควรแก้ไข แต่กรณีประเด็นการเสนอให้พระมหากษัตริย์ต้องสาบานตนเข้ารับตำแหน่งนั้นตนไม่ เห็นด้วย เพราะไม่ใช่ตำแหน่งที่มาจากการเลือกตั้ง ส่วนเรื่องประเด็นกรณีการป้องกันการก่อรัฐประหารนั้นหากเป็นไปได้อยากให้ ทหารสาบานตนตั้งแต่เป็นนักเรียนนายร้อยว่าจะมีการเคารพรัฐธรรมนูญ จะไม่ปฏิวัติและฉีกรัฐธรรมนูญ
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)