Skip to main content
sharethis

อดีตยุทธศาสตร์พัฒนาจังหวัด ยื่นฟ้องผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ต่อศาลปกครองกลาง ละเว้นการปฏิบัติหน้า ที่อนุญาตให้มีการขนถ่ายถ่านหินในพื้นที่ ทำให้เกิดปัญหาน้ำเน่าเสียในแม่น้ำท่าจีน เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 54 ที่ผ่านมาเนชั่นทันข่าวรายงานว่านายสนธิญา สวัสดี อดีตยุทธศาสตร์พัฒนาจังหวัดสมุทรสาคร ยื่นฟ้อง นายจุลภัทร แสงจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ต่อศาลปกครองกลาง ฐานการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่อนุญาตให้มีการขนถ่ายถ่านหินในพื้นที่จ.สมุทรสาคร ทำให้เกิดปัญหาน้ำเน่าเสียในแม่น้ำท่าจีน สภาพแวดล้อมถูกทำลาย และไม่ดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับเรือบรรทุกถ่านหิน รวมทั้งท่าขนถ่ายถ่านหินที่ไม่ได้รับอนุญาต นายสนธิญาระบุในคำร้องว่า เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ตนได้เข้ายื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯ แต่ไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาและไม่ได้รับคำตอบใด ๆ จึงขอใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 60 67 และ 74 ขอให้ศาลมีคำสั่งย้ายผู้ว่าฯจังหวัดสมุทรสาครออกนอกพื้นที่ภายใน 30 วัน และขอให้ผู้ว่าฯออกคำสั่งบังคับห้ามขนถ่ายถ่านหินภายในพื้นที่ และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จ.สมุทรสาคร ทั้งตำรวจน้ำ กรมเจ้าท่า ห้ามไม่ให้เรือบรรทุกถ่านหินเข้ามาจอดเทียบท่าในแม่น้ำท่าจีน รวมทั้งขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวห้ามการขนถ่ายถ่านหินจากเรือ รถยนต์หรือพาหนะใด ๆ เข้ามาในพื้นที่จนกว่าการพิจารณาของศาลตามคำฟ้องจะแล้วเสร็จ ใน จ.สมุทรสาครมี 3 อำเภอ 40 ตำบล ภายหลังการเสียชีวิตของนายทองนาค เศวตจินดา แกนนำต่อต้านถ่านหินในพื้นที่ ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ทำให้ศาลปกครองมีคำสั่งห้ามขนถ่ายถ่านหินเฉพาะในเขต ต.ท่าทรายเพียงตำบลเดียว ทั้ง ๆ ที่พื้นที่ได้รับผลกระทบมีถึง 34 ตำบล ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพด้านการเกษตรและประมง ซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากการขนถ่ายถ่ายหินของเรือบรรทุกถ่านหินมาโดยตลอด แต่ไม่ได้รับการแก้ไขทั้งจากผู้ประกอบการและผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้งนี้ในจ.สมุทรสาครมีโรงงานมากกว่า 5,700 แห่ง ในจำนวนดังกล่าวมีโรงงานอุตสาหกรรมกว่า 10% ที่ใช้พลังงานถ่านหินทดแทนน้ำมันที่มีราคาแพงเพื่อประหยัดต้นทุน นอกจากนี้ยังมีการสร้างท่าเทียบเรือทั้งที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมายเป็นจำนวนมากในเขต ต.บางหญ้าแพรก ต.ท่าฉลอม ต.โกรกกราก ต.ท่าทราย และต.คลองมะเดื่อ “การขนถ่ายถ่านหินได้สร้างผลกระทบกับแม่น้ำ จึงไม่เข้าใจว่าเหตุใดคำสั่งในการแก้ไขปัญหาจึงคุ้มครองเฉพาะ ต.ท่าทรายแห่งเดียว ทั้งที่ความเสียหายเกิดขึ้นครอบคลุมทั้งจังหวัด จึงต้องการให้ศาลมีคำสั่งชั่วคราวยกเลิกการขนถ่ายถ่านหินทั้งจังหวัด”นายสนธิญา กล่าว นายสนธิญา กล่าวอีกว่า หากคดีไม่มีความคืบหน้า ตนจะเข้าพบนายอำพล วงศ์ศิริ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.)เพื่อร้องเรียนให้เข้าไปตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องในการอนุญาตหรือละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจสอบการเข้าออกของเรือบรรทุกถ่านหิน จนทำให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อมต่อไป นายอำพล กล่าวว่า ขณะนี้ป.ป.ท.อยู่ระหว่างติดตามผลการการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่หากประชาชนหรือหน่วยงานเกี่ยวข้องจะเข้าพบเพื่อมาขอความช่วยเหลือป.ป.ท.ก็พร้อมเข้าไปช่วยตรวจสอบ แต่ขณะนี้อยากให้เป็นเรื่องของอุตสาหกรรมจังหวัดที่ต้องไปตรวจสอบเรื่องผลกระทบทางมลภาวะในด้านต่างๆ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net