Skip to main content
sharethis

เสื้อแดงชุมนุมใหญ่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยคึกคัก รำลึกสลายชุมนุม 10 เมษา ประกาศปฎิญญา 8 นปช.แดงทั้งแผ่นดิน จี้ดำเนินการนำตัวผู้กระทำความผิดในการสั่งฆ่าประชาชนมารับโทษตามกฎหมาย ขอบคุณรูปจาก UDD Thailand (facebook) 10 เม.ย. 54 - บรรยากาศบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน กลุ่มคนเสื้อแดงได้ทยอยเดินทางมารวมตัว เพื่อร่วมกิจกรรมรำลึกเหตุการณ์ครบรอบ 1 ปี การสลายชุมนุม ทั้งนี้ ผู้ชุมนุมได้ถือป้ายผ้าที่เป็นรูปเหตุการณ์การสลายการชุมนุมบริเวณรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ขณะที่บางส่วนจับกลุ่มพูดคุยถึงสถานการณ์ที่ผ่านมา พร้อมกับมีการจัดทำภาพและวีซีดีบันทึกเหตุการณ์ดังกล่าว และของที่ระลึกมาจำหน่ายโดยรอบ ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากจากกลุ่มคนเสื้อแดง ส่วนมาตรการในการรักษาความปลอดภัย ได้มีการจัดชุดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเทศกิจ กระจายกำลังดูแลความสงบเรียบร้อยอย่างใกล้ชิด ซึ่งเหตุการณ์ยังถือว่าอยู่ในความสงบเรียบร้อย ส่วนการจราจรเริ่มติดขัดแต่รถยังสามารถเคลื่อนตัวได้ เสื้อแดงถวายสังฆทานแก่ผู้ล่วงลับ เมื่อเวลา 15.00 น. ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ฝั่งโรงเรียนสตรีวิทยา ได้มีการตั้งเต๊นท์ทำบุญถวายสังฆทานให้กับผู้เสียชีวิตที่แยกคอกวัวครบ 1 ปี โดยมี นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ รักษาการประธาน นปช. เป็นประธานจุดเทียน จากนั้น พระสงฆ์ จำนวน 10 รูป สวดพระคาถา ก่อนครอบครัว และญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมจะกรวดน้ำ และถวายสังฆทาน โดยมี นายจตุพร พรหมพันธุ์ นพ.เหวง โตจิราการ พร้อมแกนนำคนเสื้อแดงอีกจำนวนมาก ร่วมทำบุญถวายสังฆทานด้วย ทั้งนี้ บนเวทีเริ่มมีการปราศรัยสดุดีวีรชนสลับกับการร้องเพลง ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัย ยังคงสงบไม่มีเหตุรุนแรง ด้านการจราจรขณะนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการปิดถนนราชดำเนินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แดงทะลักล้นราชดำเนิน แกนนำมาพร้อมหน้า ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)ในช่วงเย็นนั้นเป็นไปอย่างคึกคัก โดยกลุ่มคนเสื้อแดงได้เดินทางมาร่วมชุมนุมเต็มพื้นที่ถ.ราชดำเนินกลางและถ.ดินสอ ขระที่แกนนำนปช.ได้เดินทางมาสบทบอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา เช่นนายวีระ หรือนายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธานนปช. นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธานนปช. นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นพ.เหวง โตจิราการ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ นายก่อแก้ว พิกุลทอง นายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก นายขวัญชัย ไพรพนา นายพายัพ ปั้นเกตุ แกนนำนปช. รวมถึงนายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ อดีตเลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญที่จะขึ้นปราศรับบนเวทีในเวลา 18.00 น. เพื่อเปิดโปงคดียุบพรรคการเมือง เป็นต้น ส่วนแกนนำเหล่านี้ได้สลับผลัดเปลี่ยนกันขึ้นปราศรัยบนเวทีโจมตีรัฐบาลและทหารที่กล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังสลายการชุมนุมวันที่ 10เม.ย.53 จนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก “พสิษฐ์”เปรียบเหมือนเล่นฟุตบอล 18.00น.นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ อดีตเลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญ ได้ขึ้นกล่าวบนเวทีการชุมนุม ถึงการทำงานของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญโดยเปรียบเทียบการเล่นฟุตบอลว่า มีการตกลงกันระหว่างผู้จัดการสนามและหัวหน้ากรรมการตัดสิน ทีมไหนที่ต้องการให้ช่วย ก็จะใช้มือวิเศษช่วยทุกวิธีทาง แต่หากทีมไหนที่ไม่ต้องการหรือไม่ชอบก็จะใช้เท้าวิเศษกระทืบซ้ำ ส่วนทีมอื่นก็ถูกพลอยฟ้าพลอยฝนเมื่อไปเชื่อจับมือกับทีมที่ถูกกลั่นแกล้ง ก็จะถูกเท้าวิเศษกระทืบด้วย จึงต้องมาจับมือกับที่ผู้จัดการสนาม ไลส์แมนบางคนอยากเป็นใหญ่ พูดจามีหลักเกณฑ์ ดังนั้นผู้จัดการสนามจึงมีทั้งไลส์แมนและหัวหน้ากรรมการช่วยตลอด นายพิสิษฐ์ กล่าวต่อว่า มีนักฟุตบอลอาวุโสที่หัวหน้ากรรมตัดสินและคนใกล้ชิดมาคุยด้วย บอกว่าขอให้ช่วยทีมที่ชอบและบอกว่าอย่าเคาะระฆังให้เลิกเล่นเขาก็ไม่เคาะระฆัง กรรมการตัดสินก็ส่งคนใกล้ชิดไปพบกัปตันทีมที่ถูกช่วยเหลือที่ชื่อว่า นายที่คิดว่าตัวเองฉลาด ซึ่งนายคนนี้ได้พามือขวามาด้วย ชื่อนายมีคุณธรรม โดยทั้งสองคนนี้บอกว่าเล่นไปเถอะยังไงก็ชนะ เมื่อทีมที่ถูกช่วยได้ถ้วยไปครอง เขาก็พยายามทำทุกวิธีทางเพื่อสนองความต้องการของผู้จัดการสนาม หัวหน้ากรรมการตัดสินก็กลัวว่าจะง่อยเปลี่ยเสียขา จึงขอให้คนใกล้ชิดไปช่วยแต่คนใกล้ชิดบอกกับหัวหน้าว่าช่วยไม่ไหวแล้ว ถ้าช่วยก็พัง และยังบอกอีกว่า ขอให้เห็นประโยชน์ส่วนร่วมมากกว่าส่วนตัว อย่าไปนั่งเป็นบอร์ดบริหารขณะนี้เลย แค่นี้ก็มีศักดิ์ศรี มีเกียรติยศเพียงพอ ได้นกหวีดทองคำแล้ว แต่หัวหน้ากรรมการบอกว่าจะใช้จังหวะช่วยอีกครั้ง นอกจากนี้ในเรื่องของการรับพนักงานยังมีพฤติกรรมไม่สุจริต ถ้ามองขึ้นไปดูบนเพดานบ้าง บ้านหลังนี้หลังคาจะพังเพราะไม่มีขื่อมีแปร มีแต่เสา 4-5 ต้น ที่มั่นใจว่าจะค้ำจุลได้ “ทีมถูกแกล้ง จะต้องถูกแกล้งตลอดหรือไม่ และทีมที่ถูกช่วยก็จะถูกช่วยตลอดกาลหรือไม่ ถ้าเป็นอย่างนี้คนที่น่าสงสารที่สุดคือคนดู การเล่นกีฬาทุกทีมที่เล่นก็อยากชนะ แต่ต้องชนะอย่งสมศักดิ์ศรี เมื่อฟังแล้ว ขอให้กลับบ้านไปคิดว่า พวกท่านยังสนับสนุนทีมการเล่นแบบนี้อีกหรือไม่ เราจะมาช่วยกันให้เกิดความยุติธรรมดีไหม”นายพิสิษฐ์ กล่าวและว่า มีคนพยามยามให้ตนเขาไปพื้นที่ที่เขาต้องการ และวันนี้เขาก็พยายามที่จะไม่ให้ตนมาที่นี่แต่ตนก็มาถึงก่อนเวลา 2ชั่วโมง ปัดตอบคนขวางร่วมชุมนุม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายพสิษฐ์ใช้เวลาในการปราศรัยเป็นเวลา 30 นาที จึงเดินทางออกจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยทันที โดยมีนายอารีย์ ไกรนรา หัวหน้าการ์ดนปช.พร้อมการ์นปช.คุ้มกันอย่างแน่นหนาไปขึ้นรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ทะเบียน ชพ 4464 ที่จอดอยู่บริเวณถนนดินสอ หน้าโรงเรียนสตรีวิทยา ทั้งนี้นายพสิษฐ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนออกเดินทางถึงกรณีมีผู้ที่ไม่ต้องการให้มาที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเป็นใครว่า \อย่าเลยเดี๋ยวเขากระเทือน\" เมื่อถามย้ำว่าใครสกัดกั้นไม่ให้มาปราศรัย นายพสิษฐ์ กล่าวว่า \"ก็ดูสถานการณ์ต่างๆสิครับเพราะวันนี้ผมจะต้องมาที่นี่เร็วมาก\" เมื่อถามว่า หลังจากนี้เกรงถึงความปลอดภัยของชีวิตหรือไม่ นายพสิษฐ์ กล่าวว่า \"ไม่กังวลใดๆทั้งสิ้น\" ขอบคุณภาพจาก Ngarkill Remeo (facebook) “จตุพร” ปูด”ป๋าเปรม” โทรสั่งช่วยปชป.รอดยุบพรรค ถัดมาเวลา 18.30 น. นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. กล่าวปราศรัยบนเวทีว่า เมื่อนายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ อดีตเลขานุการประธานศาลรัฐธรรมนูญได้เล่านิทานเปรียบเปรยไปแล้ว ตนก็ขอถามพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ว่า ตอนตัดสินคดียุบพรรคประชาธิปัตย์ พล.อ.เปรมได้เคยเขียนจดหมายน้อยแล้วให้คนใกล้ชิดที่มีผมสีขาวนำไปมอบให้นายชัช ชลวร ประธานศาลรัฐธรรมนูญ และพล.อ.เปรมได้เคยโทรศัพท์ไปหานายชัช เพื่อให้ช่วยเหลือพรรคประชาธิปัตย์ไม่ให้ถูกยุบหรือไม่ เพราะทั้งจดหมายน้อยและการโทรศัพท์คนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็คือนายพสิษฐ์ ซึ่งเห็นทั้งจดหมายน้อยและได้ยินการโทรศัพท์ของพล.อ.เปรม นายจตุพร กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงและการเคลื่อนไหวทางการเมืองของพรรคเพื่อไทยเพียงแค่ต้องการให้รัฐบาลยุบสภา ซึ่งไม่ใช่การเคลื่อนไหวเพื่อล้มสถาบันอย่างที่ถูกกล่าวหา ไม่เข้าใจว่าเมื่อพยายามเป็นไพร่ที่ดีเหตุใดต้องมีคำสั่งฆ่า บ้านเมืองนี้เป็นประเทศที่ไม่เหมือนที่ไหนในโลกที่อ้างการฆ่าลูกเพื่อป้องพ่อและแม่ เมื่อมีคำสั่งฆ่าคนที่สั่งฆ่าก็ต้องถูกลงโทษ ตนไม่รู้ว่าประเทศนี้ผู้ใหญ่เป็นใครที่ให้จัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร ซึ่งจะเป็นรัฐบาลกู้มากที่สุด โง่มากที่สุดและโกงมากที่สุด ถ้าอย่างนั้นเอาเต่ามาเป็นสัญลักษณ์ตั้งเป็นรัฐบาลเต่าเลยดีกว่า นอกจากนี้อยากเรียกร้องให้ทหารกลับกรม กอง ไม่ต้องมาอยู่ตามสีลม ราชประสงค์ ใช้เงิน 6 พันล้านฆ่าประชาชน รัฐบาลหน้าต้องจ่ายให้ครอบครัวละ 10 ล้านบาทดูแลครอบครัวผู้ชีวิตบาดเจ็บตลอดชีวิต ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่นายจตุพร ปราศรัยบนเวทีฝนได้เทกระหน่ำลงอย่างแรง ส่งผลให้น้ำท่วมขังบริเวณลานอนุสาวรีย์เป็นวงกว้าง แต่คนเสื้อแดงยังปักหลักฟังการปราศรัยอย่างเหนียวแน่น ขอบคุณภาพจาก Heaven Love (facebook) “ธิดา”ลั่นไม่ยอมให้ใครฆ่าคนเสื้อแดง ต่อมาเวลา 19.30 น.นางธิดา ถาวรเศรษฐ์ รักษาการ ประธาน นปช.ขึ้นเวทีปราศรัยท่ามสายฝนเทลงมาอย่างหนัก ว่า เราจะยอมให้คนเสื้อแดงตายฟรีเหมือนในยุคก่อนหรือไม่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี พิมพ์หนังสือ”ประเทศไทยจะไม่ยอมให้ใครมาเผา” แต่เราบอกว่าจะไม่ยอมให้ใครมาฆ่าอีกแล้ว และเราเป็นพวกสู้ไม่เลิกเขาต้องถอย ถามว่าถ้าใช้การเมืองมาสู้กับการเมืองก็เป็นไปได้ดีกว่า แต่เมื่อใช้การทหารมาแก้ปัญหาการเมือง ผู้ปกครองประเทศที่ทำอย่างนี้มีแต่ย่อยยับ คนที่ยิ่งใหญ่ในวันนี้สู้ประชาชนไม่ได้ มวลชนเรากล้าต่อสู้กล้าเสียสละ ทิศทางเรามาถูกต้อง เราแค่ต้องการประชาธิปไตยที่ให้เห็นเราเป็นคนเหมือนกัน ขอให้ดูว่าวันนี้ประชาชนมากี่แสนคน ซึ่งไม่เคยมีการชุมนุมยืดเยื้อยาวนานที่มีแต่คนมากขึ้นทุกวัน อีกด้านเสื่อมลงทุกวัน ปัญหาระบอบอำมาตย์ที่อยู่กระบวนยุติธรรม ไม่กี่วันก็จะล้มลงเป็นเครื่องสุดท้ายของระบอบอำมาตย์ที่ใช้จัดการกับประชาชนที่ไม่เหลืออะไรอีกแล้วที่ประชาชนไม่ต้องการอีกต่อไปและผู้ปกครองจะเหลืออะไร เราอดทนรอคอยท่ามกลางแดดฝนอย่างนี้ที่จะได้ชัยชนะอยู่แค่เอื้อมขอให้ผนึกกำลังลวดใหญ่ทำให้กำแพงป้อมปราการของระบอบอำมาตย์ทลายลงไป ที่ผ่านมาเขาคิดระบอบอำมาตย์ต้องมั่นคงและมองว่าพวกเสื้อแดงล้มเจ้าก็ชอบธรรมที่จะฆ่า ขณะนี้โรงเรียนเสื้อแดงเปิดแล้วเพื่อยกระดับการเคลื่อนไหวเพื่อไม่ให้พวกเผาบ้านเผาเมืองมาโยนความผิดให้พวกเรา ซึ่งต้องทวงความยุติธรรมและจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ “แม้ว”โฟนอินเชื่อกำลังก้าวสู่จุดเปลี่ยน จากเวลา 20.30 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โฟนอินเข้ามายังเวทีการชุมนุมพร้อมทั้งกล่าวกับผู้ชุมนุม ว่า 1 ปีที่ผ่านมา พวกเรามาอยู่ที่นี้มีเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับประชาธิปัตย์และมีคนตายมากมาย ทั้งที่ไม่ควรจะมีใครล้มตายบาดเจ็บ ถ้าประชาธิปไตยไม่ถูกทำลาย และการที่ทหารปราบปรามประชาชนเป็นสิ่งที่ทั่วโลกสนใจเป็นพิเศษ โดยเฉพาะผู้ที่ตายในวัดปทุมฯก็มีหลักฐานสำคัญที่น่าสนใจที่กำลังส่งให้ศาลโลกพิจารณา ส่วนทุกคนที่ตายบริเวณสี่แยกคอกวัว ส่วนใหญ่จะถูกปืนสไนเปอร์ยิงเสียชีวิตแต่ในวันเกิดเหตุตนอยู่ที่ซาอุฯกำลังจะเข้าเฝ้าเจ้าชายเพื่อปูทางสร้างความเข้าใจของ 2 ประเทศ ขณะที่นายกปัจจุบันได้ประคมประนมข้าราชการที่มีส่วนพัวพันฆ่าอุปทูตซาอุ แต่เมื่อทราบข่าวของพี่น้องที่อยู่ที่นี่ตนก็หยุดทุกย่างเพราะเกิดความเสียใจ จึงไม่ได้ประส่านกลับมาที่กรุงเทพ อย่างไรก็ตามได้มีโอกาสพูดคุยกับญาติผู้บาดเจ็บและล้มตายพวกเขาบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าขอให้ตนรักษาสุขภาพให้ดี เขาจะสู้ต่อไปเพื่อประชาธิปไตย์ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า การไม่มีประชาธิปไตย์ไม่ได้เป็นผลดีกับใครหรือผู้ปกครองคนไหน วันนี้อยากจะเรียกร้องทุกฝ่ายร่วมสร้างกติกาให้เกิดความเป็นธรรมและเป็นกลาง โดยกรรมการจะต้องมีใจเป็นธรรมถ้าการเลือกตั้งคราวนี้มีการคดโกง กรรรมการไม่มีความยุติธรรมคนกระทำจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิตที่ทำให้บ้านเมืองเราตกต่ำไปกว่าเดิม วีระชนเราจะต้องไม่ตายฟรี เจ็บฟรีตนจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในการเยี่ยวยาคนเหล่านั้น เพราะเขาเป็นคนบริสุทธิ์ที่มาเรียกร้องประชาธิปไตย์ให้ประเทศไทยเท่านั้น ขอให้เชื่อมั่นว่าไม่ช้าประชาธิปไตยและความยุติธรรมจะกลับมาหาเราและเชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ประชาชนจะตัดสินใจได้เด็ดขาดชัดเจนและตนจะกลับมาเจอหกันเร็วๆนี้ “แม้ไม่มีประชาธิปไตยแบบตรงๆ ก็อยากเรียกให้การเลือกตั้งมีความบริสุทธิ์ยุติธรรม กรรมการมีความเป็นกลาง เคารพการตัดสินใจของประชาชน เพื่อให้บ้านเมืองกลับมาสู้ความปกติสุขมากขึ้น วันนี้เราไม่รู้จะหวังอะไรกับใครแต่สิ่งที่ใกล้ตัวมากที่สุด ก็คือการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรมของให้อดใจอีกนิด ผมมั่นใจว่าประเทศไทยกำลังก้าวสู้จุดเปลี่ยน เพื่อให้เกิดประชาธิปไตยที่แท้จริง และคนที่มีความเป็นธรรม ต้องเชื่อมโยงอำนาจให้ประชาชนไม่ใช่ตั้งคนไม่กี่คนมาทำลายอำนาจแระชาชน” จุดเทียนไว้อาลัยเหยื่อสลายการชุมนุม ทั้งนี้แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมและญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์การสลายการชุมนุมกลุ่มนปช.ได้ขึ้นเวทีปราศรัยนำมวลชนจุดเทียน พร้อมกับเปิดเพลงนักสู้ธุลีดิน เพื่อแสดงความไว้อาลัยแด่วีรชนที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่บริเวณแยกคอกวัวเมื่อวันที่ 10 เม.ย.53 หลังจากนั้นผู้ชุมนุมได้ส่งเสียงโห่ร้องดังกึกก้อง หญิงเสื้อแดงโผล่ไล่วีระลงเวที เหตุไม่อยู่ตอนสลายชุมนุม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 21.25 น. ในขณะที่นายวีระ หรือนายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ กล่าวปราศรัยอยู่บนเวทีนั้นได้มีหญิงอายุประมาณ 50 ปี สวมเสื้อสีแดง ยืนตะโกนด่าว่า “คนเสื้อแดงปล่อยให้นายวีระขึ้นไปพูดบนเวทีได้อย่างไร เพราะตอนที่สลายการชุมนุมนายวีระไม่ใช่แกนนำที่อยู่ต่อสู้ เหมือนนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. ทั้งที่นายวีระเป็นคนที่สมบูรณ์ที่สุด ลูกก็เรียนอยู่เมืองนอก” ทำให้การ์ดนปช.ต้องรีบนำตัวหญิงคนดังกล่าวออกจากบริเวณข้างเวทีอย่างรวดเร็ว “โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม” วีดีโอลิงค์ร่วมสดุดีคนเสื้อแดง จากนั้นเวลา 21.45 น. นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายนปช. ได้วีดีโอลิงค์มายังเวทีปราศรัยโดยสวมเสื้อยืดคอปกสีแดง พร้อมกับกล่าวว่า ขอร่วมสดุดีกับคนเสื้อแดงที่ร่วมต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ทั้งนี้เป็นเวลา 2เดือนแล้วที่สำนักงานกฎหมายอัมสเตอร์ดัมได้ยื่นฟ้องคดีคนเสื้อแดงไปยังศาลอาญาระหว่างประเทศ ซึ่งในช่วงเวลานี้ศาลอาญาฯไ ด้เปิดการสอบสวนคดีดังกล่าวของประเทศลิเบียและประเทศไอวอรี่โคสต์ แต่เนื่องจากทั้งสองประเทศยังไม่ได้ลงสัตยาบรรณกับศาลโลกเหมือนประเทศไทย การจะพิจารณาว่ารับหรือไม่รับคดีจึงยังไม่ชัดเจน แต่ไม่ว่าศาลอาญาฯจะปฏิเสธไม่รับคดีของไทย เราก็จะไม่ล้มเลิกความพยายามที่จะนำคนผิดมาลงโทษ แม้ว่าจะใช้เวลาเป็นปีแต่มั่นใจว่าความยุติธรรมจะต้องเกิดขึ้นในที่สุด ประกาศปฎิญญา 8 นปช.แดงทั้งแผ่นดิน นอกจากนี้ แกนนำบนเวทีปราศรัยทั้งหมด จะประกาศปฏิญญา 8 ข้อ นปช.แดงทั้งแผ่นดิน ได้แก่ 1. เคลื่อนไหวทำกิจจกรรมช่วยเหลือคนเสื้อแดงให้ได้รับอิสรภาพ และเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ 2. ดำเนินการนำตัวผู้กระทำความผิดในการสั่งฆ่าประชาชนมารับโทษตามกฎหมาย 3. เรียกร้องในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเสมอภาค 4. รณรงค์พรรคการเมืองประชาธิปไตย ตรวจสอบการเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรม 5. สนับสนุนพรรคการเมืองที่ได้คะแนนเสียงอันดับ 1 อย่างถูกต้องในการจัดตั้งรัฐบาล ต่อต้านอำนาจนอกระบบที่แทรกแซงผลการเลือกตั้งในทุกกรณี 6. ต่อสู้ให้มีรธน.ฉบับใหม่ ของประชาชนที่เป็นประชาธิปไตย 7. ต่อต้านรัฐประหารและเผด็จการทุกรูปแบบ และ 8. ขยายมวลชนคนเสื้อแดง และแนวร่วมทั้งปริมาณและคุณภาพ อย่างไรก็ตาม นพ.เหวง กล่าวอีกว่า การชุมนุมใหญ่ในวันนี้ จะไม่มีการยืดเยื้ออย่างที่มีกระแสข่าวออกมา การชุมนุมจะยุติในช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. ที่มาข่าวเรียบเรียงจาก: เว็บไซต์ข่าวสด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net