Skip to main content
sharethis

ในขณะที่ทั่วโลกกำลังจับตามองเรือสินค้าสัญชาติเกาหลีเหนือที่ชื่อ ‘กวางนาม’ ว่าอาจกำลังขนอาวุธมุ่งหน้าไปยังประเทศพม่า ด้านรัฐบาลพม่าสั่งห้ามสื่อในประเทศนำเสนอข่าวเรือกวางนามโดยเด็ดขาด

หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์หลายฉบับ เช่น วีคลี่อีเลเว่น (Weekly Eleven) เซเว่นเดยส์ (7 Days) และย่างกุ้งไทมส์ (Yangon Times) ถูกทางการพม่าสั่งห้ามเสนอข่าวเรือบรรทุกสินค้าของเกาหลีที่คาดว่ากำลังมุ่งหน้าสู่พม่า โดยบรรณาธิการหนังสือพิมพ์คนหนึ่งในย่างกุ้งเปิดเผยว่า “สื่อในพม่าเกือบทั้งหมดพยายามเสนอข่าวเรือกวางนาม แต่ถูกคณะกรรมการเซ็นเซอร์สั่งห้ามทันที”

ทั้งนี้ สื่อในพม่าอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ที่เข้มงวดและต้องผ่านการตรวจสอบโดยสำนักงานทะเบียนและตรวจสอบสิ่งพิมพ์ (Press Scrutiny and Registration Division (PSRD)) สังกัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือที่รู้จักกันในนาม คณะกรรมการเซ็นเซอร์ ซึ่งทำหน้าที่ตรวจสอบเนื้อหาของสื่อท้องถิ่นทุกฉบับว่ากระทำผิดกฎหมายหรือไม่ โดยจะไม่อนุญาตให้มีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับรัฐบาลในด้านลบ

ขณะที่ทั่วโลกยังคงจับตามองเรือสินค้ากวางนามของเกาหลีเหนือ ที่มีการคาดการณ์กันว่าอาจบรรทุกอาวุธเพื่อนำไปขายให้กับรัฐบาลพม่า โดยมีเรือรบพิฆาต ยูเอสเอส จอห์น แมคเคนที่ประจำการอยู่บริเวณชายฝั่งจีน คอยสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด มีรายงานว่า เรือกวางนามได้ออกจากฝั่งเกาหลีเหนือเป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์แล้ว ด้านประชาชนในพม่าเฝ้าติดตามข่าวเรือกวางนามจากสื่อต่างประเทศผ่านทางสถานีวิทยุ

ชาวบ้านวัย 40 ปีคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในย่างกุ้งกล่าวว่า สถานีวิทยุของบีบีซี(BBC) และวีโอเอ (VOA) รวมถึงสถานีต่างประเทศหลายสถานี ได้นำเสนอข่าวเรือกวางนาม ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนในพม่าเป็นอย่างมาก

ขณะที่มีการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่ท่าเรือคนหนึ่งว่า เรือกวางนามของเกาหลีเหนือจะเข้าเทียบท่ายังท่าเรือตีลาวา (Thilawa) ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงย่างกุ้งไปทางทิศใต้ 30 กิโลเมตรในเร็ววันนี้

ก่อนหน้านี้ปี 2547 มีรายงานว่า เรือกวามนาม 1 ได้เข้ามาจอดเทียบท่าเรือในพม่ามาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งในครั้งนั้นหลายฝ่ายคาดการณ์ว่า เรือดังกล่าวได้บรรทุกอาวุธ จรวดรวมถึงอาวุธนิวเคลียร์มาขายให้กับรัฐบาลพม่า

เช่นเดียวกับในปี 2550 นักข่าวชาวพม่า 2 คน ซึ่งทำงานให้กับสถานีโทรทัศน์นิปปอนนิวส์เน็ทเวิร์ค(Nippon News Network (NNN)) ของญี่ปุ่นถูกเจ้าหน้าที่พม่าจับกุมตัวเป็นเวลา 3 วัน 2 คืน หลังเสนอข่าวเรือกวางนามเดินทางมาจอดเทียบท่าที่ท่าเรือตีลาวา ในครั้งนั้น เกาหลีเหนืออ้างว่า เกิดพายุหนักในทะเลจึงทำให้เรือกวางนามไม่สามารถเดินทางต่อได้ และจำเป็นต้องจอดพักที่ท่าเรือตีลาวาเป็นการชั่วคราว ท่ามกลางข้อกังขาจากทั่วโลก (ที่มา /Irrawaddy 24 มิ.ย.52)


ดีเคบีเอบุกสังหารผู้ลี้ภัยชาวกะเหรี่ยงในฝั่งไทย

 
ชายชาวกะเหรี่ยงจำนวน 2 คนที่เพิ่งหนีภัยการสู้รบในรัฐกะเหรี่ยงมาอยู่ในฝั่งไทย ถูกทหารจากกองกำลังกะเหรี่ยงพุทธ หรือ ดีเคบีเอ สังหารอย่างเหี้ยมโหด จากหลักฐานพบว่า ทหารดีเคบีเอได้ข้ามชายแดนเข้ามาสังหารชายทั้งสองที่ฝั่งไทย

ในช่วงเย็นของวันอังคาร (23 มิ.ย.52)ที่ผ่านมา ทหารจากกองกำลังดีเคบีเอจำนวน 3 นายได้ชายแดนเข้ามายังหมู่บ้านตะเบถ่า เขต อ.ท่าสองยาง จ.ตาก โดยได้ซักถามถึงการเคลื่อนไหวของกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือ เคเอ็นยูจากชายชาวกะเหรี่ยง 2 คน แต่ทั้งสองปฏิเสธไม่รู้เรื่อง ทหารดีเคบีเอจึงสังหารชายทั้งสองอย่างโหดเหี้ยม

อย่างไรก็ตาม ทราบชื่อผู้ตายภายหลังคือ นายมา โกล อายุ 36 ปี และนาย เออ เคล อายุ 28 ปี โดยทั้งสองเพิ่งหนีภัยการสู้รบจากฝั่งพม่ามาอยู่ในฝั่งไทยได้ไม่นาน ขณะที่มีรายงานว่า ดีเคบีเอกดดันผู้ลี้ภัยอย่างหนักให้เดินทางกลับรัฐกะเหรี่ยง โดยขู่ว่า หากไม่เดินทางกลับรัฐกะเหรี่ยง จะยึดบ้านและที่ทำกินของชาวบ้านทั้งหมด

ด้านองค์กรเยาวชนกะเหรี่ยงกลุ่มหนึ่งที่ให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยออกมาเปิดเผยว่า มีผู้ลี้ภัยจำนวน 54 คน จาก 9 ครอบครัวในหมู่บ้านแม่สลิดฝั่งไทย กำลังเดินทางกลับบ้านไปในรัฐกะเหรี่ยง แม้จะหวาดกลัวว่าอาจถูกจับในระหว่างที่มีการสู้รบ

ขณะที่องค์กรสตรีชาวกะเหรี่ยง (Women’s Organisation (KWO) ออกมาเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า เจ้าหน้าที่ทหารไทยได้ขอให้ผู้ลี้ภัยเดินทางออกจากไทย ซึ่งผู้สังเกตการณ์เชื่อว่า ทางการไทยอาจกำลังถูกรัฐบาลพม่าและกองกำลังดีเคบีเอกดดันให้ไล่ผู้ลี้ภัยกลับรัฐกะเหรี่ยง

เลขาธิการขององค์กรสตรีชาวกะเหรี่ยงเปิดเผยว่า นับตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายนที่มีการสู้รบระหว่างดีเคบีเอและเคเอ็นแอลเอในสังกัดของเคเอ็นยู ทำให้มีผู้ลี้ภัยเดินทางเข้าไทยจำนวนกว่า 4 พันคนแล้ว โดยทางการไทยให้สัญญาว่าจะให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ลี้ภัยเหล่านี้ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีแผนดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยแต่อย่างใด

องค์กรสตรีชาวกะเหรี่ยงยังเปิดเผยว่า ชาวบ้านกะเหรี่ยงที่อยู่ในพื้นที่สู้รบอาจถูกบังคับให้อยู่แนวหน้าเพื่อค้นหาทุ่นระเบิด ขณะที่มีรายงานว่า หญิงสาววัยรุ่นชาวกะเหรี่ยงจำนวน 2 คนถูกทหารพม่าข่มขืนและสังหารเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา (ที่มา /DVB 25 มิ.ย.52)
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net