สำนักข่าว S.H.A.N รายงานเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2549 โดยอ้างจากคำให้สัมภาษณ์หนึ่งในแกนนำรัฐบาลเฉพาะกาลไทยใหญ่ ISG - Interim Shan Government เมื่อวันที่ 26 มกราคม ที่ผ่านมา เกี่ยวกับความเป็นมาในการประกาศจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาล รวมถึงความคิดเห็นทางการเมืองในปัจจุบัน
ผู้ให้สัมภาษณ์ได้แก่ เจ้าขุนโห่ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งได้เล่าถึงความเป็นมาในการจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลว่า เป็นผลมาจากการประชุมกลุ่มผู้แทนชุมชนต่างๆ ในรัฐฉาน เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2546 ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกว่า 200 คน ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในรัฐฉาน ตั้งอยู่ระหว่างอำเภอน้ำจ๋าง และอำเภอลายค่า เพื่อหารือถึงแนวทางการจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาล และในที่ประชุมได้แต่งตั้งเจ้าเสือโห่ม อดีตเจ้าฟ้าเมืองป๋อน เป็นประธานาธิบดี แต่เนื่องจากเจ้าเสือโห่ม ไม่สามารถที่จะรับหน้าที่ดังกล่าว จึงได้แต่งตั้งให้เจ้าเสือขั่นฟ้า ณ หยองห้วย บุตรชายคนโตของเจ้าฟ้าหยองห้วย ขึ้นดำรงตำแหน่งแทน จนถึงปัจจุบัน
เจ้าขุนโห่ม ให้สัมภาษณ์อีกว่า การประชุมในครั้งนั้น เป็นไปตามการจัดเก็บประชามติของประชาชนในรัฐฉานจาก 48 เมือง ในจำนวน 56 เมือง ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ได้สนับสนุนให้เกิดเอกราชแก่รัฐฉาน นอกจากนั้นก็มีสมาชิกพรรคสันนิบาตชาติเพื่อประชาธิปไตยรัฐฉาน SNLD - Shan National League for Democracy เข้าร่วมด้วย ต่อมาในวันที่ 25 เดือนมีนาคม 2547 ได้มีการประชุมขึ้นอีกครั้งที่บริเวณแนวชายแดนไทย-พม่า ซึ่งเป็นไปตามมติประชุมครั้งแรก โดยมีการคัดเลือกแกนนำสำคัญเพื่อจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลทั้งหมด 17 คน ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 23 คน โดย 15 คน อยู่ในพม่า ซึ่งไม่สามารถระบุชื่อได้ทั้งหมด เหตุผลด้านความปลอดภัย มีเพียง 8 คน ที่สามารถเปิดเผยชื่อ ได้แก่ 1. เจ้าเสือขั่นฟ้า ตำแหน่งประธานาธิบดี 2. เจ้าสี่ฮ่า รองประธานาธิบดี 3. เจ้าแสงแจ๊ด นายกรัฐมนตรี 4. เจ้าเครือเสือ รมต.มหาดไทย 5. เจ้าขุนโห่ม รมต.ต่างประเทศ 6. เจ้าทุนเอ รมต.กลาโหม 7. เจ้าจายยอด รมต.การคลัง และ 8. เจ้าล้อนเมือง รองรมต. มหาดไทย
เจ้าขุนโห่ม ได้ตอบข้อซักถามถึงความสำเร็จในการจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลว่า นับตั้งแต่ออกแถลงการณ์ประกาศเอกราชเมื่อวันที่ 17 เม.ย. 2548 ที่ผ่านมา ได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชนทั่วรัฐฉาน และที่อยู่ในต่างประเทศเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีกลุ่มชนชาติคะยา อาระกัน และมอญ บางส่วน ให้การสนับสนุนเช่นเดียวกัน ซึ่งทาง ISG ได้พยายามเรียกร้องการรับรองจากหลายประเทศ และมีอย่างน้อย 3 ประเทศ กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งหากมีการประกาศอย่างเป็นทางการแล้ว คาดว่าการให้ความช่วยเหลือในทุกๆ ด้านจะตามมา
ขณะเดียวกันเจ้าขุนโห่ม ยังได้กล่าวอย่างเชื่อมั่นว่า รัฐฉานจะหลุดพ้นจากการปกครองรัฐบาลเผด็จการทหารพม่าในเร็วๆ นี้ ซึ่งเขาได้เปิดเผยอีกว่าหากแผนการดังกล่าวไม่เป็นไปตามดังที่คาดไว้ ทาง ISG ได้เตรียมแผนอื่นรองรับไว้เป็นที่เรียบร้อย
ต่อข้อถามที่ว่า ปัจจุบัน ISG มีกำลังทหารประมาณเท่าใดนั้น เจ้าขุนโห่ม เปิดเผยว่า กองกำลังชนชาติ
ต่างๆ ในรัฐฉานที่ยังไม่ได้มอบตัวให้กับรัฐบาลพม่า ถือว่าเป็นกำลังอิสระทั้งหมด ซึ่งจะสามารถให้การพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันได้
ส่วนความร่วมมือกับกองกำลังไทยใหญ่ SSA-S มีความเป็นไปได้หรือไม่นั้น เจ้าขุนโห่มตอบว่า ที่ผ่านมาได้พยายามที่จะพบปะเพื่อให้เกิดความเข้าใจของทั้งสองฝ่ายแล้ว 8 ครั้ง แต่ทางฝ่าย SSA-S ยังไม่พร้อม อีกทั้งที่ผ่านมา SSA-S ได้กล่าวหาตนว่า ทรยศต่อกองทัพ เนื่องจากตั้งแต่ปี 2537 - 2547 ตนได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาของกองทัพรัฐฉาน SSA-S ซึ่งในความเป็นจริง ตั้งแต่เริ่มเข้าสู่วงการการเมือง ตนตั้งใจที่จะทำเพื่อประชาชนส่วนใหญ่มากกว่าเฉพาะกลุ่ม ขณะที่บางกระแสกล่าวหาตนว่าเป็นผู้ชักชวน พ.ท.เมืองจื้น ผบ.กองพลน้อยที่ 758 ของ SSA-S พร้อมด้วยทหารในสังกัดเข้าร่วมกับ ISG ด้วย ซึ่งเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง เพราะตั้งแต่ ISG ยังไม่ประกาศจัดตั้งรัฐบาล ทาง SSA-S ก็เริ่มมีความแตกร้าวภายในอยู่ก่อนแล้ว
อย่างไรก็ตามเขาเชื่อมั่นว่า ทั้ง SSA-S และ ISG จะปรับความเข้าใจซึ่งกันและกันในเร็วๆ นี้ อีกทั้งหวังว่าจะได้ร่วมมือกันต่อไป ขณะเดียวกันเขาได้แสดงความเห็นถึงอนาคตการเมืองรัฐฉานอีกว่า ทุกชนชาติที่อาศัยอยู่ในรัฐฉานจะต้องได้รับความเสมอภาค และอาจเปลี่ยนชื่อประเทศเป็นสหพันธรัฐฉาน (
พร้อมกันนั้น เจ้าขุนโห่มได้กล่าวถึงนโยบายหลักของ ISG ว่ามีอยู่ 6 ประการ ได้แก่ 1. พยายามหาเห็นชอบจากต่างประเทศ 2. เพื่อให้กองทัพพม่าถอนกำลังออกจากรัฐฉาน ภายใต้การนำของ UN 3. เพื่อจัดการเลือกตั้งเสรีและยุติธรรม 4. เพื่อร่างรัฐธรรมนูญรัฐฉาน 5. เพื่อกวาดล้างยาเสพติด และ 6 เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับประชานรัฐฉาน พร้อมจัดหาที่อยู่ที่ทำกินให้กับผู้อพยพหนีภัยสงครามที่กลับสู่มาตุภูมิ
ทั้งนี้ รัฐบาลเฉพาะกาลไทยใหญ่ ISG จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2548 ที่ผ่านมา ภายใต้เสียงวิพากษ์วิจารณ์และไม่เห็นด้วยจากหลายๆ ฝ่าย จากนั้นในวันที่ 17 เม.ย. 48 ได้ประกาศรัฐฉานเป็นเอกราช อีกสองวันต่อมารัฐบาลเผด็จการทหารพม่าได้ประกาศว่า ISG เป็นรัฐบาลนอกกฎหมาย ขณะที่พรรคสันนิบาตเพื่อประชาธิปไตย NLD ของนาง
ต่อมาในเดือนพฤษภาคม 2548 ทหารพม่าได้นำชาวบ้านทั่วรัฐฉานชุมนุนคัดค้านการจัดตั้งรัฐบาลของ ISG พร้อมส่งกำลังทหารหลายกองพันเข้าในเขตพื้นที่กองพลน้อยที่ 758 และเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมากองทัพพม่าได้ส่งบก.ควบคุมหน่วยยุทธการทหารที่ 5 ที่ประจำอยู่ในรัฐอาระกัน เข้าไปในรัฐฉาน เพื่อกวาดล้างกองพลน้อยที่ 758 ซึ่งทั้งหมดนี้คือความเป็นมาของรัฐบาลเฉพาะกาลไทยใหญ่ หรือ ISG [Interim Shan Government] ในปัจจุบัน
--------------------------------------------------------------------------------
ข่าวทั้งหมดแปลและสรุปความโดยสำนักข่าวเชื่อม เป็นหน่วยงานข่าวภาคภาษาไทยของสำนักข่าว S.H.A.N (Shan Herald Agency for News) ซึ่งเป็นเครือข่ายของศูนย์ข่าวสาละวิน (Salween News Network) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ chuem@cm.ksc.co.th และ snn_news@cm.ksc.co.th พร้อมติดตามอ่านข่าวสารย้อนหลังรวมทั้งเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศพม่าภาคภาษาไทยได้ที่ www.salweennews.org ภาษาอังกฤษได้ที่ www.shanland.org
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)