นายกรัฐมนตรีอวยพรวันตรุษจีนว่า "ซินเจียยู้อี่ ซินนี้ฮวดไช้" ชี้คนไทยทุกคนเป็นคนจีน "จะคล้ำหน่อยก็จีน เดินทางมาจากเทือกเขาอัลไตไม่ใช่หรือ" ไม่ว่าเชื้อชาติศาสนาใดคือคนไทยใต้ร่มพระบารมี ขอให้ทุกคนตั้งสติแก้ปัญหา พร้อมเตือนคนไทยอย่าเป็นไก่ตรุษจีน จิกตีกันอยู่ในเข่ง ด้าน "ยิ่งลักษณ์-อภิสิทธิ์" ต่างอัพสเตตัสอวยพรให้คนไทยโชคดี
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแถลงข่าวหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ที่มา: เว็บไซต์รัฐบาลไทย)
การบรรเลงดนตรีพื้นเมืองของชาวอัลไต ที่อาศัยอยู่ในสาธารณรัฐอัลไต ในสหพันธรัฐรัสเซีย ใกล้กับมองโกเลีย และเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ สาธารณรัฐประชาชนจีน (ที่มา: YouTube)
18 ก.พ. 2558 - เว็บไซต์รัฐบาลไทย รายงานว่า ในการแถลงข่าวหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวอวยพรเนื่องในเทศกาลตรุษจีน ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า “ซินเจีย ยู้อี่ ซินนี้ ฮวดไช้ ขอให้ร่ำให้รวย มีความสุข สุขภาพแข็งแรง ในช่วงเทศกาลวันตรุษจีน” พร้อมกล่าวว่า “ เราเป็นคนไทยด้วยกัน ไม่ว่าจะเชื้อชาติใด ศาสนาใดเราคือคนไทย ใต้ร่มพระบารมี ขอให้ทุกคนตั้งสติให้ดีๆ ใช้สติปัญญาในการแก้ปัญหา และช่วยรัฐบาลทำในสิ่งที่ดี อันไหนไม่ดีก็ติเตือนว่ากันมา บอกๆ มา ให้กำลังใจกันบ้าง ปีใหม่ไม่ขออะไรเลย ผมมีความปรารถนาดีกับคนไทยทุกคน”
ดูคลิป ...นายกฯบิ๊กตู่ อวยพรตรุษจีน ฝห้ร่ำรวย มีความสุข..."มีเชื้อจีนหมด จะขาว จะคล้ำหน่อย มาจาก เทือกเขาอันไต... http://t.co/w04Ce1dbwd
— Deep Blue Sea (@WassanaNanuam) 18 กุมภาพันธ์ 2015
ทั้งนี้ในคลิปของเพจวาสนา นาน่วม หลังอวยพรในโอกาสเทศกาลตรุษจีน พล.อ.ประยุทธ์ได้หันไปทางผู้สื่อข่าวและพูดด้วยว่า "ใครเป็นจีนมั่งนะ จีนทุกคนละใช่ไหม จะคล้ำหน่อยก็จีน เดินทางมาจากเทือกเขาอัลไตไม่ใช่หรือ"
ส่วนในมติชนทีวี พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเตือนคนไทยด้วยว่า "ไก่ตรุษจีนก็เอาสิ อยากเป็นกันหรือก็เอาสิ รู้จักไหมไก่ตรุษจีน ใส่ในเข่งแล้วจิกตีกันตลอดเวลา พอถึงเวลาก็เอาไปเชือดคอหมดตายทั้งเล้า นั่นแหละไก่ตรุษจีน อย่าทำตัวแบบนั้น ผมไม่ได้ไปว่าดีเก่งกว่าใคร ผมไม่เคยว่า แต่ท่านชอบหาว่าเราแย่ ทำอะไรไม่ดี ผมจะบอกว่าก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรยั่งยืนเลย พอวันนี้มาถามว่าค้ามนุษย์ ก็ขอให้ไปถามรัฐบาลที่แล้วสิว่าทำไมถึงต้องปล่อยให้รัฐบาลประยุทธ์มาแก้"
ยิ่งลักษณ์-อภิสิทธิ์ อวยพรคนไทยโชคดีรับตรุษจีน
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ต่างอัพสเตตัสในแฟนเพจอวยพรเนื่องในเทศกาลตรุษจีน (ที่มา: เฟซบุ๊คยิ่งลักษณ์ ชินวัตร/อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ)
ส่วนนักการเมืองคนอื่นๆ นั้น เพจของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์มาสวมเสื้อยืดสีแดงเช่นกัน และโพสต์ข้อความว่า "羊年吉祥。三阳开泰!(แปลว่า - มีโชคปีแพะ. สามแพะเบิกฤกษ์ หรือ โชคดีเบิกฤกษ์.) ขอให้มีความสุขในวันปีใหม่จีนครับ" เช่นเดียวกับ เพจของยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เปลี่ยนรูปปกเป็นรูปยิ่งลักษณ์ สวมเสื้อสีแดง และอวยพรตรุษจีน ข้อความว่า "สุขสันต์วันตรุษจีน ขอให้ร่ำรวย"
ที่มาของเรื่อง "คนไทยมาจากเทือกเขาอัลไต" และคาราวาน ททท. เส้นทางอัลไต-อยุธยา
ภาพปกหนังสือ "หลักไทย" โดยขุนวิจิตรมาตรา ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 7 เมื่อปี พ.ศ. 2518 ทั้งนี้ขุนวิจิตรมาตราเสนอไว้ในหนังสือหลักไท เมื่อปี พ.ศ. 2471 ว่าแหล่งกำเนิดของชนชาติไทยอยู่บริเวณเทือกเขาอัลไตของเอเชียกลาง ต่อมาข้อเสนอนี้ถูกตีตกไป (ที่มาของภาพปก: ร้านตุ้มหนังสือเก่า)
การบรรเลงดนตรีพื้นเมืองของชาวอัลไต สาธารณรัฐอัลไต ในสหพันธรัฐรัสเซีย ติดกับมองโกเลีย และเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ สาธารณรัฐประชาชนจีน (ที่มา: YouTube/DemianZX48)
โปสเตอร์คาราวาน "15,000 ไมล์ จาก อัลไต(จีน) สู่ สุวรรณภูมิ(ไทย)" ซึ่งเป็นคาราวานท่องเที่ยวด้วยรถยนต์จากเมืองอัลไต ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ สาธารณรัฐประชาชนจีน สู่ จ.พระนครศรีอยุธยา ระหว่างวันที่ 18 ก.ค. - 16 ส.ค. 2555 (ที่มา: ททท./เว็บไซต์เที่ยวภาคกลาง)
สำหรับแนวคิดเรืองถิ่นกำเนิดของชนชาติไทยมาจากเทือกเขาอัลไตนั้น ผู้เสนอคือขุนวิจิตรมาตรา หรือสง่า กาญจนาคพันธุ์ เสนอไว้ในหนังสือหลักไท เมื่อปี พ.ศ. 2471 ว่าแหล่งกำเนิดของชนชาติไทยอยู่บริเวณเทือกเขาอัลไตของเอเชียกลาง ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของพวกมองโกลด้วยกัน ภายหลังอพยพมาตั้งถิ่นฐานแถบลุ่มแม่น้ำเหลืองและแม่น้ำแยงซี เมื่อถูกจีนรุกรานจึงค่อยๆ อพยพลงมาสู่สุวรรณภูมิ
โดยขุนวิจิตรมาตราเสนอแนวคิดดังกล่าวเพื่อสนับสนุนข้อเสนอของ วิลเลียม คลิฟตัน ดอดด์ (William Clifton Dodd) มิชชันนารีชาวอเมริกัน ซึ่งทำการสำรวจจากภาคเหนือของไทย เข้าสู่รัฐฉาน สิบสองปันนาในมณฑลยูนนาน จนถึงมณฑลกวางสี ราวทศวรรษที่ 2450 และได้เขียนหนังสือเรื่อง The Tai Race: The Elder Brother of the Chinese ระบุในหนังสือว่า "ไทยเป็นเชื้อสายมองโกล" และเป็นชาติเก่าแก่กว่าฮีบรูและจีน บ้านเกิดเมืองนอนอยู่แถบเทือกเขาอัลไต และได้อพยพเข้ามายังจีน และเข้าสู่อินโดจีนตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอที่ว่าคนไทยมาจากเทือกเขาอัลไตต่อมาได้ถูกโต้แย้ง เพราะบริเวณเทือกเขาอัลไตเป็นเขตทุรกันดารไม่เหมาะจะเป็นที่อยู่อาศัย โดยเว็บไซต์ของศูนย์เทคโนโลยีการศึกษา อ้างอิงความเห็นของ ศ.เฉินหลี่ฟาน ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเอเชียอาคเนย์ของจีน ซึ่งระบุว่า "อัลไต" เป็นภาษาของชาวทูเจ ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์เชื้อสายตุรกีในจีน แปลคำนี้ว่า "ทองคำ" การที่เทือกเขาอัลไตมีชื่อเช่นนี้เพราะว่าเป็นแหล่งแร่ทองคำ มิได้เกี่ยวข้องกับคำว่า "ไท"
จากข้อมูลในสารานุกรมเสรี วิกิพีเดีย ระบุว่า ปัจจุบันบริเวณที่เป็นเทือกเขาอัลไต อยู่ในอำเภออัลไต เขตปกครองซินเจียงอุยกูร์ของจีน ทางตะวันตกของประเทศมองโกเลีย ประเทศคาซัคสถาน และสาธารณรัฐอัลไต ซึ่งอยู่ในสหพันธรัฐรัสเซีย
ขณะที่ในปี พ.ศ. 2555 ท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้จัดกิจกรรม "ปฎิบัติการภารกิจพิเศษ มหัศจรรย์เมืองไทย-ใต้ฟ้าพระบารมี คาราวานท่องเที่ยวกับวัฒนธรรม 15,000 ไมล์ จาก อัลไต(จีน) สู่ สุวรรณภูมิ(ไทย)" ซึ่งเป็นคาราวานรถยนต์เริ่มต้นจากเทือกเขาอัลไต
โดยกิจกรรมดังกล่าว ททท. ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมจีนและสถานเอกอัคราชทูตจีนประจำประเทศไทยจัดคาราวานรถยนต์ระหว่างวันที่ 18 ก.ค. - 16 ส.ค. 2555 ร่วมเฉลิมฉลองในวโรกาสพิเศษ 80 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ โดยการนำ “ดินและดอกกุหลาบ” จาก 8 เมืองใหญ่ของจีน และดอกกุหลาบจำนวน 80 ต้น มาร่วมปลูกที่สวนกุหลาบ “หอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ” ณ อนุสรณ์สถานแห่งความจงรักภักดี จ.พระนครศรีอยุธยา
โดยในเว็บไซต์ของ ททท. ได้บรรยายสภาพเมืองอัลไต ฝั่งที่อยู่ในเขตปกครองซินเจียงอุยกูร์ด้วยว่า "มีประชากร 600,000 กว่าคน ส่วนใหญ่เป็นชาวอิสลาม ชาวคาซัคสถาน ไม่มีชาวไต หรือชาวไทยเลย"
และตอนหนึ่งเจ้าหน้าที่ ททท. ได้ถามเจ้าหน้าที่ฝ่ายวัฒนธรรม ของเมืองอัลไตว่า "อัลไต มีอะไรที่แสดงออกหรือคล้ายกับชาวสุโขทัย หรือ ไทยบ้างไหม ?" .....มีเสียงหัวเราะ...และได้คำตอบว่า "ไม่มี...คงเป็นการออกเสียงคล้ายกันมั่ง "อัลไต" กับ "สุโข-ทัย หรือ ไทย หรือ ไต" เมืองแหลมทองแห่งสุวรรณภูมิ.......อื่นๆ ยังไม่มีร่องรอยว่าคนไทยอพยพมาจากที่นี่เลย.....
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)